- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 30 September 2014 19:50
- Hits: 2486
บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
ขาย หรือ รอดู
เหตุปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย "อ็อคคิวพาย" กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในฮ่องกงทวีความรุนแรงขึ้นและรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 40 ส่งผลให้ HSI -1.9% ในขณะที่ SET ปรับฐานลงชัดเจนเปิดตลาดบวกเล็กน้อย +1.22 จุดและทำจุดสูงสุดที่ 1602 จุดและปรับตัวลงแรงในช่วงบ่ายปิดตลาดที่ 1585.79 จุด (-14.37 จุด, -0.9%) สวนทางลงกับตลาดหุ้นอินโนนีเซีย และฟิลิปปินส์ เงินบาทอ่อนค่าเป็น 32.36 บาท/US$ แรงขายมากสุดในกลุ่ม อาชีพ ตามด้วย ปิโตรฯ สื่อสาร และธนาคาร มูลค่าซื้อขายสูงถึง 60,927 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,746 ล้านบาท กองทุนซื้อสุทธิ 42 ล้านบาท
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลังและม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯเตรียมเสนอแพ็คเกจมาตร การกระตุ้นเศรษฐกิจให้ที่ประชุม ครม. วันที่ 1 ต.ค. จะเป็นมาตรการหลายส่วนทั้งการลงทุน การบริโภคและการช่วยเหลือภาคเกษตรกร
ก.พาณิชย์เผยยอดส่งออกเดือนส.ค.57 อยู่ที่ US$18,943 ล้านลดลง 7.40%YoY นำเข้าอยู่ที่ US$17,797 ล้านลดลง 14.17%YoY เกินดุลการค้า US$1,146 ล้าน ส่วนการส่งออกในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ยังติดลบ 1.36% ส่งออกเติบโตไม่เป็นไปตามคาด เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักขยายตัวได้น้อยกว่าที่คาด และทั้งปีนี้การส่งออกอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมายขยายตัวที่ 3.5%
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) คาดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในช่วงครึ่งปีหลังอาจเติบโตไม่ถึง 4% ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ เนื่องจากการส่งออกยังไม่ฟื้นตัวได้ดีอย่างที่คาดหวัง ดังนั้น จึงปรับลดคาดการณ์ GDP ทั้งปี 57 เหลือเติบโตในช่วง 1.6-2% จากเดิมที่เคยคาดว่าจะเติบโตได้ 1.5-2.5% หลังจากประเมินว่าการส่งออกคงจะเติบโตไม่ถึง 1% ในปีนี้ หลังจากเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2557 มีสัญญาณแผ่วลงจากเดือนก่อนหน้า ทั้งจากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน นอกจากนี้การส่งออกสินค้ายังคงหดตัวจากเศรษฐกิจโลกที่ยังมีการชะลอตัว สำหรับภาคการท่องเที่ยวยังคงหดตัวเช่นกัน
เรามองว่าการชุมนุนการเมืองฮ่องกงไม่ได้มีนัยทาง ตรงต่อ SET สังเกตุจากการปรับตัวขึ้นในตลาดหุ้นภูมิภาคเช่น มาเลเซีย จีน ฟิลิปปินส์ และอินโดนิเซีย และวันนี้จะเป็นช่วงรอยต่อระหว่างสิ้นสุดไตรมาส 3 และขึ้นเดือนใหม่ไตรมาส 4 ทำให้เราประเมินแนว โน้มถึงแรงซื้อและแรงขายได้ยากลำบากแต่เชื่อว่าจะมีผลสำหรับหุ้นรายตัวขนาดใหญ่และกลางเป็นสำคัญ เชิงเทคนิค SET ได้แสดงกำลัง (weak momentum) ที่อ่อนลงเรายังยืนอยู่ฝั่งขาย (TRUE, KTB, BGH, TTA, KCE) หรือรอดู
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตถือครองเหลือ 20%
เราได้ลดพอร์ตถือครองหุ้นเหลือ 20% และสัดส่วนการถือครองเงินสด 80% โดยจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่ 4 บริษัทคือ PTTEP, HMPRO, CPALL, และ ADVANC
Accumulate: -- รอสะสมหุ้น
Trading: เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1598 จุด ต่ำกว่า รอ
เปรียบเทียบดัชนี
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่มวันที่ 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 20% ถือเงินสด 80%
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (30%) = +1.5%
ผลตอบแทนถือเงินสด (70%) = +1.6%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +3.1%
ผลตอบแทนตลาด SET = +17.2%
พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 4 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% (ส่วนต่างขาดทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7%)
วันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +3.3%)
วันที่ 16 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +5.9%)
วันที่ 24 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 30% เหลือ 20% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +1.7%)
รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 4 ครั้งคิดเป็น +10.2%