- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 30 September 2014 19:37
- Hits: 2524
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : GAP แนวรับ 1,575-1,574
Technical : แนวรับ : 1,585 /1,574 แนวต้าน : 1,590 / 1,601
หุ้นแนะนำพิเศษ : SPALI แนวรับ 25.00/24.00 แนวต้าน 27.25/28.50
หุ้นเด่นรายวัน : CGD AOT UV
วันจันทร์ตลาดหุ้นไทยปิดร่วงลงจากแรงขายทำกำไร ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,585.79 จุด ลดลง 14.37 จุด(-0.90%) มูลค่าการซื้อขาย 60,926.86 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิเพิ่มเป็น 1,746.07 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,553-1,601(ผ่านซื้อเก็งกำไรเพิ่ม แนวต้านต่อไป 1,650) การปรับตัวลงในลักษณะPanic SellหลังการทำWindow Dressingหมดลง แต่การปรับตัวลงคาดจะมีแรงซื้อระยะสั้นกลับเข้ามาจากประเด็นเรื่องของประกาศชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวันที่ 1 ต.ค. แนวรับ 1,575-1,574 เป็นจุดแนวรับหลัก ในขณะที่ SET50 แท่งเทียนสีดำยาวปกคลุมเป็นสัญญาณเชิงลบ ระหว่างวันปิดตัวสร้างจุดต่ำใหม่กว่า 1,050 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแนวโน้ม เน้นปิดยืน 1,050 ได้เท่านั้น GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 18,700-19,010 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 18,770-19,080
กลยุทธ์ ทดสอบไม่ผ่านยืน 1,600 ปรับตัวลงจากแรงขายทำรอบทางเทคนิค (การปรับตัวแรงและอยู่ห่างSMA5วันมากแนะนำเข้าซื้อเก็งกำไร) หุ้นในกลุ่มธนาคารกดดันตลาด BBL TMB KTB KBANK ปรับตัวลงหาจังหวะในการเข้าซื้อเพิ่ม กลุ่มพลังงาน PTT PTTEP กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCC GEL TASCO กลุ่มอสังหาฯ ANAN SPALI QH NCH S LALIN KC หุ้นรายหลักทรัพย์ FANCY UWC MAX THCOM ระยะกลาง ถือ
หุ้นแนะนำพิเศษ
SPALI (ราคาปิด 26 ซื้อ เป้าปี 58 เท่ากับ 32.20 บาท) ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งจากความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่สุดในกลุ่ม(ราว 40%) ทริสเรทติ้งได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทที่ระดับ “A” แนวโน้ม “คงที่”สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรและฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ฝ่ายวิจัยประมาณการกำไรปี 57 ราว 4,235 ล้านบาทซึ่งเติบโต 47%YoY กำไรครึ่งแรกปี 57 เท่ากับ 1,271 ล้านบาทที่เติบโต 64% สำหรับปี 58 คาดการณ์กำไรราว 4.7 พันล้านบาทซึ่งเติบโตราว 11%YoY
หุ้นเด่นรายวัน
CGD (ราคาปิด 1.99 ซื้อเก็งกำไร) วันนี้เป็นวันแรกที่ย้ายมาเทรดใน SET ปัจจุบันพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม Element ศรีนครินทร์ มูลค่า 2,700 ล้านบาทอยู่ระหว่างการทยอยโอนเฟสแรก ส่วนเฟสสองจะเริ่มโอนปลายปีนี้ เพส3-4จะก่อสร้างเสร็จและโอนกลางปีหน้า ปลายปีบริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่Landmark Waterfront ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรจีนมูลค่า 2.9 หมื่นล้านบาทซึ่งมีทั้งคอนโดมิเนียมและโรงแรม นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจัดตั้งกอง REITมูลค่าประมาณ 1,300-1,400 ล้านบาท โดยจะนำโครงการศูนย์ข้อมูล Anchorage Point Data Center เมือง Docklands กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โอนขายเข้าเป็นสินทรัพย์ในกองทุน ซึ่งหากทำสำเร็จภายในปีนี้จะช่วยพลิกผลประกอบการจากขาดทุน 17 ล้านบาทในช่วงครึ่งแรกปี 57 เป็นกำไร
AOT (ราคาปิด 242 ซื้อ เป้า consensus 185-276) ผลการดำเนินงานงวดปี 57 สิ้นสุดก.ย.57 ของท่าอากาศยาน 6 แห่งมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 1.6% และเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 9% นอกจากนี้ยังมีแผนเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารในอนาคต ทำให้รายได้มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง
UV (ปิด 10.60 ซื้อเก็งกำไร) เตรียมแตกไลน์ธุรกิจสู่พลังงานทดแทนโดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนทุกประเภทเบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนผ่านบริษัท เอสโก้ เวนเจอร์ จำกัด(EV) ผู้ประกอบธุรกิจจัดการพลังงานซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ UV ถือหุ้นอยู่ 79% (ที่มา: ทันหุ้น)
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* AJP/ SOLAR / SUPER /VIH มีผลบังคับใช้ 25 ส.ค. - 3 ต.ค.57
* ACD / DIMET / EMC / EVER / GENCO / SST / TAKUNI มีผลบังคับใช้ 1 ก.ย. - 10 ต.ค. 57
* BKD / CSS / SUPER-W1 / TFI ผลบังคับใช้ 8 ก.ย. - 17 ต.ค. 57
* ABC / BMCL / E / EE / KC / MAX / NUSA / RASA / RPC / SEAOIL / SPVI มีผลบังคับใช้ 15 ก.ย. - 24 ต.ค. 57
* CHUO / CKP / EIC / GUNKUL / MILL-W2 / MLINK / PAE / PF / TCC / XO มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. - 31 ต.ค. 57
* AQ / CYBER / IFEC / KTP / PRINC/ SLC / TGPRO / WIIK มีผลบังคับใช้ 29 ก.ย. - 7 พ.ย. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 41.93 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 41.93 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีน รวมถึงยอดขายสินค้าของแบรนด์หรูที่อาจจะได้ผลกระทบอาทิ Prada, Louis Vuitton และ Patek Philippe เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวของจีนซึ่งชาวจีนจะนิยมเข้าไปเที่ยวในฮ่องกงโดยมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากจีนสูงถึง 75%ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานตัวเลขดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค.ปรับตัวลง 1% จากเดือนก่อนหน้าซึ่งลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัวเพียง 0.5% ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลง 41.93 จุด หรือ -0.25% ปิดที่ 17,071.22 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 6.34 จุด หรือ -0.14% ปิดที่ 4,505.85 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 5.05 จุด หรือ -0.25%ปิดที่ 1,977.80 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น1.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่กระทรวงพานิชย์สหรัฐปรับเพิ่มประมาณการณ์ GDP ไตรมาส 2/57 ของสหรัฐขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 4.2% เป็น 4.6% ดีขึ้นจากไตรมาส 1/57 ที่หดตัว 2.1% และนับเป็นอัตราการขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 นอกจากนี้ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานตัวเลขการบริโภคส่วนบุคคลของสหรัฐในเดือนส.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 0.5% ส่วนรายได้ในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากที่ปรับขึ้น 0.2% ในเดือนก่อนหน้า และอัตราการออมอยู่ที่ 5.4% ในเดือนส.ค. ซึ่งลดลงจาก 5.6% ในเดือนก.ค. ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.57 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 97.2 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant : ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์