ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้               ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)

 

ฟื้นตัวได้บ้าง ก่อนเทรดแคบๆ รอปัจจัยเพิ่มเติมสัปดาห์หน้า

 

KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์รีบาวด์ ก่อนเทรดไซด์เวย์ต่อ... หลังวานนี้ดัชนีฯ ลบในกรอบแคบๆ ตามคาด โดยหุ้นตัวหลักในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และกลุ่มธนาคาร ยังคงอ่อนตัว ขณะที่หุ้นเชื่อมโยงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเข้าที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจ เช่นหุ้นค้าปลีก ท่องเที่ยว เด่นกว่าดัชนีฯ... สำหรับปัจจัยต่างประเทศเมื่อคืนถือว่าดีขึ้นเล็กน้อย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวแรงหลังจากเครื่องชี้ที่ตลาดให้ความสำคัญในช่วงนี้ เช่นบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ (ส่งสัญญาณด้านเศรษฐกิจ) และค่าเงินหยวน/ดอลล่าร์ฯ (ส่งสัญญาณเรื่องสงครามค่าเงิน) มีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวเล็กน้อย ตามรายงานข่าวที่ว่าซาอุฯ อาจจัดประชุมนัดพิเศษในเดือน ก.ย. เพื่อหาทางบริหารจัดการราคาน้ำมันที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา... อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯ มองว่า SET Index จะยังเด้งไม่แรงและภาพใหญ่คงเป็นไซด์เวย์ เนื่องจากฟันด์โฟลว์ต่างชาติยังชะลอเพื่อติดตามปัจจัยด้านสงครามการค้าและสงครามค่าเงิน ขณะที่ล่าสุดเช้านี้มีปัจจัยลบเพิ่มเข้ามาว่าด้วยสงครามการค้า คือสหรัฐฯ ได้ชะลอการอนุมัติให้ บ.ในสหรัฐฯ กลับไปทำธุรกิจกับ บ.หัวเว่ย หลังจากเมื่อหลายวันก่อนทางการจีนได้ระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ เพื่อเป็นการตอบโต้การขึ้นภาษีเมื่อสัปดาห์ก่อน... สำหรับปัจจัยในประเทศนั้น สัปดาห์หน้า (13-16 ส.ค.) จะเป็นโค้งสุดท้ายของการแจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/2562 และน่าจะมีรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมามากขึ้น ก่อนเข้าพิจารณาโดย ครม. เศรษฐกิจ ในวันที่ 19 ส.ค.

 

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)

 

เก็งกำไร TFG*, MBK*, ADVANC*

 

TFG* (เป้าพื้นฐาน 5.35 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.6 บาท / แนวต้านแรก 4.74 - 5.0 บาท (Trailing stop 4.28 บาท) 2) วันนี้ฝ่ายวิจัยฯปรับเพิ่มประมาณการฯปี 2562 ขึ้น +19.4% หลังรายงานกำไร 2Q62 ดีกว่าคาด +36.5% และประเมินว่าแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์จะต่ำต่อเนื่องใน 2H62 (ผลจากสงครามการค้า จีนเลิกการสั่งถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ) ... อ่านรายละเอียดในบทวิเคราะห์วันนี้เพิ่มเติม

MBK* (เป้าพื้นฐาน 30 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 23 บาท / แนวต้าน 24.0 - 24.4 บาท (Stop loss 22.4 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มฯที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศที่จะได้รับอานิสงส์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ (+กลุ่มห้างค้าปลีก) รวมทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง (+ธุรกิจลีสซิ่ง) 3) Valuation ยัง Laggard กลุ่มฯ โดย PE ปี 2562 = 11.3 เท่า, Dividend yield 3.5% ... คาดกำไร 2Q62 โต +18% YoY, +37% QoQ และ 2H62 โต HoH

ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 236 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 218 บาท และ 216 บาท / แนวต้าน 224 - 226 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 212 บาท) 2) เราประเมิน i) Momentum บวกจากการปรับประมาณการฯขึ้น และ ii) การลดดอกเบี้ยนโยบายวานนี้  ส่งผลให้หุ้นกลุ่มปันผลดีอย่าง ADVANC*, INTUCH* กลับมาน่าสนใจ 3) ประกาศปันผล 3.78 บาท/หุ้น Dividend yield +1.7% (XD วันที่ 16 ส.ค.)

 

หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"

 

ตลาดยัง Sideway (down) SET index รีบาวด์ที่บริเวณ 1650 จุด ตามคาด แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 1690 จุด หากยังไม่สามารถผ่านได้ประเมินมีโอกาส Sideway (down) แต่หากผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้าน 1710 จุด หุ้นเด่น MBK* (Stop loss 21.8 บาท), JMT (Stop loss 16 บาท), PREB (Stop loss 10.3 บาท

กลยุทธ์ Pair trade เพื่อลดความเสี่ยงตลาดฯ (Beta) แนะนำ Long QH* + Short LH* (+1.1%)

 

หุ้นมีข่าว

 

(+) PTTEP* กำลังผลิต'พุ่ง'บุ๊คซื้อ'เมอร์ฟี่'ไตรมาส3 (กรุงเทพธุรกิจ) PTTEP* คาดกำลังการผลิตไตรมาส 3 ปีนี้พุ่ง แตะ 3.56 แสนบาร์เรลต่อวัน จากเดิม ที่ 3.26 แสนบาร์เรลต่อวัน จาก การซื้อกิจการ "เมอร์ฟี่" ของมาเลเซีย พร้อมตั้งสำรองค่าใช้จ่ายรื้อถอน แท่นขุดเจาะแหล่งเอราวัณแล้ว 600-700 ล้านดอลลาร์

 

(+) TMB*-TBANK แถลงวันนี้ ยันเพิ่มทุน 1.3 แสนล้าน ออกตราสารหนี้ TSR เตรียมโละพนักงาน 5 พัน (ข่าวหุ้น) คนทหารไทย (TMB*)-ธนชาต (TBANK) แถลงข่าวควบรวมกิจการวันนี้ ก่อนเพิ่มทุน 1.3 แสนล้านบาท ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมและใหม่ ออกเป็นตราสารหนี้ TSR ให้แต่ละราย รอบแรกขายให้กลุ่มไอเอ็นจีและคลัง รอบสองขายให้ธนชาตและโนวาสโกเทีย ขึ้นแบงก์อันดับ 6 พร้อมแผนปรับลดพนักงาน 5 พันคน

 

(+) WHAUP* ทุ่มเงิน 2.76 พันล้าน ลุยธุรกิจน้ำประปาที่เวียดนาม ข่าวหุ้น WHAUP* ส่งบริษัทย่อย “WUPSD” ทุ่มงบ 2,762.96 ล้านบาท ซื้อหุ้น SDWTP ในสัดส่วน 34% เพื่อลงทุนธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปาในเวียดนาม กำลังการผลิต 54.75 ลูกบาศก์เมตร/ต่อปี พร้อมขยายกำลังผลิตสิ้นปีนี้พุ่งแตะ 109.50 ลูกบาศก์เมตร/ปี

 

(+) JMART*, COM7*) ซัมซุงเปิดตัว 'โน้ต 10-โน้ต 10 พลัส' เริ่ม 32,900 บาท (ข่าวสด) นายดีเจ โกห์ ประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า เปิดตัวสมาร์ตโฟนใหม่ระดับพรีเมียมตระกูล กาแล็กซี โน้ต ได้แก่ 'ซัมซุง กาแล็กซี โน้ต 10' และ 'ซัมซุง กาแล็กซี โน้ต 10 พลัส' พร้อมกันทั่วโลก จับลูกค้าในกลุ่มมิลเลนเนียน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 38% ทั่วโลก และในไทยมี 32% โดยเป็นกลุ่มที่ต้องการสินค้าที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสอดรับการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่

 

(0) เคลียร์ปมข้อพิพาท BEM 'ศักดิ์สยาม' ขีดเส้น 15 วัน (ข่าวหุ้น) “ปลัดฯคมนาคม” เรียกประชุมคณะทำงานข้อพิพาท BEM นัดแรกวันนี้ วางกรอบประชุม 3 ครั้งต้องได้ข้อยุติใน 15 วันตามคำสั่ง “ศักดิ์สยาม” ฟากวงในเผยแนวโน้มเดินหน้าขยายสัมปทาน 30 ปีตามผลสรุปเดิมกทพ. เพราะผ่านการอนุมัติตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน เหลือแค่เสนอครม.

 

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า

 

BCPG* (เป้าเฉลี่ย Consensus 19.4 บาท ... สูงสุด 23.5 บาท) ประเมินแนวรับ 19.8 บาท / แนวต้าน 20.4 - 21.0 บาท (Trailing stop  ล๊อกกำไร 19.5 บาท)

GUNKUL* (เป้าพื้นฐาน 4.90 บาท) ประเมินแนวรับ 3.0 บาท / แนวต้าน 3.12 - 3.26 บาท (Stop loss 2.94 บาท)

MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 33.25 บาท) ประเมินแนวรับ 28.5 บาท / แนวต้าน 30.0 - 31.75 บาท (Stop loss 28 บาท)  

WHAUP* (เป้าพื้นฐาน 9 บาท) แนะนำ "Let profit run" กำหนด Trailing stop จุดล๊อกกำไร 6.5 บาท

 

 

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

 

TFG* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 5.35 บาท รายงานกำไร 2Q62 = 485 ล้านบาท (+48.7% YoY, +116.5% QoQ) ดีกว่าคาด +36.5% ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯขึ้น +19.4% หลังรายงานกำไร 2Q62 ดีกว่าคาด +36.5% และประเมินว่าแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์จะต่ำต่อเนื่องใน 2H62

GFPT* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 19.7 บาท รายงานกำไร 2Q62 = 324 ล้านบาท  (+64.1% YoY, +42.3% QoQ) ตามคาด ยังคงคาดผลการดำเนินงาน 2H62 ยังเด่นจากการส่งออกเนื้อไก่ และต้นทุนอาหารสัตว์ต่ำ อย่างไรก็ดี Upside จำกัด จึงปรับคำแนะนำลงเป็น "ถือ"

กลุ่มขนส่ง น้ำหนักการลงทุน "เท่ากับตลาดฯ" ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปกติของ BEM* ใน 2Q62 = 785 ล้านบาท (+7.1% YoY, -3.3% QoQ) โดยกำไรที่ชะลอ QoQ เป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล และคาดกำไรสุทธิ 2Q62 ของ BTS* เท่ากับ 630 ล้านบาท (+63.0% YoY, +0.5% QoQ) สำหรับกลุ่มขนส่งฝ่ายวิจัยฯเลือก AOT* เป็นหุ้นเด่น

 

Strategic SET daily

 

Market strategy   Thailand

 

จิตวิทยาตลาดวันนี้:  --- นัยรับ 1665 จุด

 

วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1665 จุดได้นั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1665-1682 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1665  จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1665-1651 จุด

 

แนวรับวันนี้:          1664/1652                                           แนวต้านวันนี้:          1671/1679

 

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ

 

1 อดิศักดิ์ คำมูล

2 66.2658.8888 ต่อ 8843

3 [email protected]