Daily Focus : Finansia Syrus Securities 7-8-19

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Wednesday, 07 August 2019 16:53; Hits: 3867

Daily Focus : Finansia Syrus Securities

กลยุทธ์วันนี้ >> Domestic, Defensive and Dividend Play//Accumulate on Dip

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงทดสอบระดับบริเวณ 1,650 จุดตามคาดในช่วงเปิดตลาดก่อนที่จะทยอยรีบาวด์กลับขึ้นมาและปิดบวกได้ 5.49 จุด ณ สิ้นวัน โดยได้แรงหนุนจากธนาคารกลางจีนกำหนดค่าเงินหยวนกลางไว้ที่ 6.9683 หยวน/ดอลลาร์จากที่อ่อนค่าเหนือ 7 หยวน/ดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้า สถาบันในประเทศพลิกมาซื้อสุทธิ 2.5 พันลบ.ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องหนาแน่นอีก 3.4 พันลบ. (ต่างชาติ Short Index Future 1.8 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบกว้างบริเวณ 1,670-1,780 จุดโดยมีการซื้อขายที่ผันผวนถึงแม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯจะรีบาวด์ขึ้นได้ค่อนข้างแรง แต่ประเด็นเรื่องสงครามการค้าและสงครามค่าเงินระหว่างสหรัฐฯ-จีนยังเป็นปัจจัยที่กดดันและคาดว่ายังไม่จบเร็ว เรายังเน้นพักเงินในหุ้น Domestic Defensive และ Dividend Play โดยแม้แนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนและ GDP 2Q19 ของไทยจะไม่สดใส แต่คาดว่าจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นใน 2H19 หลังมีรัฐบาลใหม่ โดยหากดัชนีมีจังหวะปรับฐานแรงลงหาบริเวณ 1,650 จุดบวกลบยังมองเป็นจังหวะในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานเพื่อถือลงทุนระยะกลาง-ยาว

กลยุทธ์ : พักเงินในหุ้น Domestic Defensive และ Dividend Play//ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานบริเวณ 1,650 จุด

หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : AMATA, BCH, MINT, SAPPE, SISB

หุ้นเด่นวันนี้: GPSC

แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 73 บาทอยู่ระหว่างทบทวน (มีแนวโน้มปรับขึ้น)

แม้กำไรสุทธิ 2Q19 1.08 พันลบ. +15% Q-Q, +3% Y-Y ต่ำกว่าคาดแต่ไม่เป็นลบ เพราะมีรายการพิเศษเช่น ค่าตัดจำหน่ายมูลค่ายุติธรรมของ GLOW (ไม่กระทบเงินสด) ค่าที่ปรึกษา สำรองประโยชน์พนักงานของ 2 บริษัท ในด้าน operations ต้นทุนค่าก๊าซสูงขึ้น

รายได้และ EBITDA แข็งแกร่ง รายได้ +120% Q-Q, +203% Y-Y EBITDA +154% Q-Q, +231% Y-Y หลังรวม GLOW เต็มไตรมาส แนวโน้ม 2H19 โตต่อจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรีและน้ำลิกและก้าวกระโดดปีหน้าเมื่อรวม GLOW เต็มปี

Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$665ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$261ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$111ล้าน ไม่มีประเทศใดที่มีเม็ดเงินไหลเข้า แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกภูมิภาคแต่อาจชะลอลงหลังตลาดลดความกังวลต่อสถานการณ์ค่าเงินหยวน และประธานาธิบดีสหรัฐแสดงการเปิดกว้างในการทำข้อตกลงด้านการค้ากับจีน

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) คาด กนง.คงอัตราดอกเบี้ย ที่ 1.75% แม้ว่าส่งออกของไทยจะมีความเสี่ยงขาลงมากขึ้นจากการที่สหรัฐขึ้นภาษี 10% ของสินค้านำเข้าจากจีน US$3 แสนล้าน เริ่ม 1 ก.ย. แต่ธปท.เป็นห่วงหนี้ภาคครัวเรือนอย่างมากมาตลอด จึงเชื่อว่ากนง.จะรอการกระตุ้นศก.จากรัฐบาลก่อนจะตัดสินใจในการประชุมครั้งถัดๆไป แม้ดอกเบี้ยนโยบายจะคงเดิมแต่ดอกเบี้ยในตลาดเงินปรับลงแล้ว กลุ่มที่ได้ประโยชน์ยังเป็น Finance (แนะนำซื้อ ASK, และซื้อเมื่ออ่อนตัว MTC และ KTC)

(0) TU กำไรปกติ 2Q19 แกร่ง 1.58 พันลบ. +45% Q-Q, +47% Y-Y แต่กำไรสุทธิเหลือเพียง 111 ลบ.เพราะค่าใช้จ่ายยอมความลูกค้าในสหรัฐ 1.4 พันลบ. ซึ่ง surprise เราและตลาดที่คาดว่าจบไปแล้ว และมี Employee benefit แนวโน้ม 3Q19 ดีขึ้นเพราะเป็น high season เรายังคงราคาเป้าหมาย 20 บาท ความเสี่ยงคือการเจรจากับลูกค้ายังไม่จบ 100% แต่เชื่อว่าครอบคลุมส่วนใหญ่แล้ว ราคาหุ้นปรับลงมาจน upside กว้างขึ้นจึงแนะนำซื้อ TU จ่ายปันผลงวด 1H19 ที่จ่าย 0.25 บ/หุ้น (yield 1.3%) XD 20 ส.ค.

(0) THANI กำไรจะพีคในปีนี้และชะลอปีหน้า เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 6% เป็น 2.07 พันลบ. +26% Y-Y จากแนวโน้มสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียมที่ดีกว่าคาด กำไร 3Q-4Q19 น่าจะ new high จากการกลับรายการสำรองและต้นทุนการเงินที่อยู่ในระดับต่ำ แต่คาดกำไรปี 2020 -11% Y-Y หดตัวครั้งแรกในรอบ 6 ปีเหลือ 1.85 พันลบ.จากสำรองที่กลับเป็นปกติและต้นทุนการเงินสูงขึ้นจากการเปลี่ยนผู้ถือหุ้น (จาก TBANK เป็น TCAP+BNS) ปัจจุบัน THANI ถูกปรับ outlook เป็น Negative แล้ว คงราคาเป้าหมาย 7.70 บาท แนะนำถือ หรือ switch เป็น ASK (TP 28.60 บาท)

(+) PDG ประกาศกำไรสุทธิแข็งแกร่ง 22 ลบ. +25% Q-Q, +112% Y-Y จ่ายปันผล ผล 0.10 บ/หุ้น (yield 3%) XD 21 ส.ค. แนะนำซื้อ เป้า 4 บาท ส่งสัญญาณว่ากลุ่มเครื่องดื่มจะมีกำไรดี หุ้นที่ยังไม่แพงและราคามี upside จากมูลค่าพื้นฐานได้แก่ TACC (ราคาเป้าหมาย 6 บ.) และ SAPPE (ราคาพื้นฐาน 25 บ.)

(+) INTUCH กำไรดีกว่าคาด ปรับกำไรปีนี้ขึ้น 6% ปรับราคาเป้าหมาขึ้นเป็น 67 บาทจาก 61 บาท แนะซื้อเก็งกำไร รับปันผล 1.35 บ/หุ้น

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

7 ส.ค. - ไทย: กนง.ประชุม

- อินเดีย: ธนาคารกลางประชุม

8 ส.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)

- จีน: ส่งออก-นำเข้า (ก.ค.)

- ฟิลิปปินส์: 2Q19 GDP, ธนาคารกลางประชุม

9 ส.ค. - ญี่ปุ่น: 2Q19 GDP

- จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)

13 ส.ค. - ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations

- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)

14 ส.ค. - ยูโรโซน: 2Q19 GDP

(+) ตลาดดาวโจนส์ ปรับขึ้น 311.78 จุด ปิดที่ 26,029.52 จุด หลังจากจีนได้ออกมาสร้างเสถียรภาพเงินหยวน คลายความกังวลกับประเด็นที่จีนจะใช้หยวนเป็นเครื่องมือทำสงครามการค้ากับสหรัฐ และรับปัจจัยบวกจากข่าวประธานาธิบดีทรัมป์ยังเปิดกว้างในการทำข้อตกลงการค้ากับจีน

(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ยังถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

(0) ตลาดเอเชียปรับตัวผสม ท่ามกลางการจับตาธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางสกุลเงินหยวน

(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 30.70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะกระทบต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,484.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 836.92 / +1.77 ตัน

Currency Markets Current Previous %change

Bt/ US$* 30.73 30.73 0.01

US$ / Euro 1.12 1.12 0.1

Yen / US$ 106.27 106.47 0.19

Yuan / US$ 7.02 7.05 0.44

Commodity Prices Current Previous %change

Crude Oil 53.68 53.63 0.09

Gold (COMEX) 1,487.80 1,484.20 0.24

BDI 1,774.00 1,788.00 -0.78

ZINC 2,310.00 2,311.00 -0.04