(+) DOHOME: ราคาหุ้นปรับขึ้นดีหลัง SET ฟื้นตัว วานนี้ราคาหุ้นปรับขึ้น 11.5% จากราคา IPO

ผลกระทบ: เราเห็นว่ายังมี momentum จะไปต่อได้ เพราะปีนี้คาดการณ์กำไรเติบโตโดดเด่น 117% y-o-y เป็น 950ล้านบาท ผลพวงจากการเพิ่มสาขาและเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายสินค้า House Brand ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ในแง่การประเมินมูลค่าหุ้นยังไม่แพง P/E ปี 62 เป็น 17.1 เท่า เทียบกับ HMPRO และ GLOBAL ที่ 36.0 และ 30.4 เท่าตามลำดับ กำหนด Forward P/E ที่ 20 เท่า จะได้ราคาพื้นฐานที่ 10.19 บาท ยังมีส่วนเพิ่ม 17% แนะนำซื้อเก็งกำไรอีกทั้งการที่ภาครัฐจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าจะเพิ่มกำลังซื้อ บริษัทก็พลอยจะได้ประโยชน์ด้วย

(+) BTS: กทม.คาดเจรจา BTS ได้ข้อยุติค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่เกิน 65 บาทแลกขยายเวลาสัมปทานภายในส.ค.นี้ (Aspen)

ผลกระทบ: หากเจรจาสำเร็จ ก็จะพลอยได้ต่ออายุสัมปทานเส้นปัจจุบันที่ทำกำไรได้ดีคือ สายสีลม และสุขุมวิท ซึ่งจะหมดอายุใน 10 ปี ข้างหน้าหรือปี 2572 ไปอีกถึง 30 ปี หรืออาจจะต่อ 20 ปี ไปจบพร้อมกับส่วนขยายสายสีเขียว เราคาดว่าการร่วมทุนจะสำเร็จ แม้จะมีเงื่อนไขที่ไม่ง่าย ตามที่ กทม.เสนอคือ 1) เก็บค่าโดยสารครบวงได้สูงสุดไม่เกินที่65 บาท และ 2) กทม.อยากให้ช่วยรับหนี้มูลค่า 9 หมื่นล้านบาทไปบางส่วน ทั้งนี้บริษัทอาจใช้วิธีแบ่งส่วนแบ่งรายได้เราเห็นว่าด้วยความเป็นมืออาชีพแลประสบการณ์ยาวนานของ BTS ก็จะสามารถบริหารจนมีกำไรได้ คงคำแนะนำซื้อ ที่ราคาพื้นฐาน 13.00 บาท แรงกระตุ้นราคาหุ้นระยะสั้นคือ 9 ส.ค.จะขยายอีก 1 สถานีคือ ห้าแยกลาดพร้าว

(+) GOLD รายงานกำไรสุทธิ 3Q62 (สิ้นสุด มิ.ย.62) ที่ 528 ล้านบาท เพิ่ม 5% y-o-y แรงผลักดันมาจากรายได้ขายเพิ่ม4% y-o-y เป็น 3.4 พันล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเป็น 34.9% เทียบ y-o-y ที่ 32.0% แต่สัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 17.5% เทียบ y-o-y ที่ 16.2% ดังนั้นอัตรากำไรจากการดำเนินงานไตรมาสนี้เป็น17.4% เพิ่มจาก y-o-y ที่ 16.4%

ผลกระทบ: เป็นบวก แม้อัตราการเติบโตกำไรสุทธิเป็นเพียง 5% y-o-y แต่ถือว่าจะดีกว่ากลุ่มที่ส่วนใหญ่ปรับลงแรงเพราะมีปัจจัยลบคือ วันหยุดที่มาก และเริ่มใช้ LTV ตั้งแต่ 1 เม.ย.62 แต่แนะนำให้ทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ที่ 8.50 บาทเนื่องจากมีแนวโน้มจะออกจากตลาดฯ (Delist) หากผู้เสนอซื้อคือ FPT ได้หุ้น 90% วันสุดท้ายที่ทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์คือ 14 ส.ค.62

(-/•) AOT: ค่าเช่าที่ราชพัสดุ ดอนเมืองราว 243 ล้านบาท จะบันทึกเร็วขึ้นเป็น 3Q61-62 (สิ้นสุด 30 มิ.ย.62) จากเดิม4Q61-62 (สิ้นสุด 30 ก.ย.62) ทำให้งบกำไรขาดทุนที่จะประกาศประมาณ 13 ส.ค.62 ดูต่ำกว่าตลาดคาด อาจทำให้ดูน่าผิดหวัง แต่เป็นเพียงรายการพิเศษ เกิดขึ้นครั้งเดียว และยังไม่จำเป็นต้องปรับประมาณการทั้งปีลง คงคำแนะนำซื้อ AOT (DBSTH) 

 

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]