- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 August 2019 16:48
- Hits: 1603
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings and Selective Play//Accumulate on Dip
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways โดยระหว่างวันมีจังหวะลงทดสอบแนวรับใกล้เคียง 1,700 จุดก่อนที่จะปิดบวกได้ 5.48 จุด ณ สิ้นวันซึ่งแข็งแรงกว่าที่เราประเมิน แรงซื้อหลักวานนี้ยังมาจากสถาบันในประเทศ 1.6 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิบางๆ 178 ลบ. (และ Long Index Future ราว 1.2 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideway Down หลัง FED ลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ทำให้ตลาดผิดหวัง ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามถือว่าสอดคล้องกับมุมมองของเราว่าตลาดหุ้นตอบรับประเด็นดังกล่าวไปมากและมีโอกาสพักฐานระยะสั้น แนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนและ GDP 2Q19 ที่คาดไม่โดดเด่นแต่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวขึ้นหลังได้รัฐบาลใหม่เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ จึงมองการปรับฐานของดัชนีบริเวณ 1,680-1,700 จุดเปิดโอกาสให้ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานอีกครั้ง
กลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรเป็นรายตัวโดยเฉพาะที่คาดกำไร 2Q19 แข็งแกร่ง//ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานเมื่ออ่อนตัวลงหากรอบ 1,680-1,700 จุด
หุ้นเด่นเดือน ส.ค. : AMATA, BCH, MINT, SAPPE, SISB
หุ้นเด่นวันนี้: SISB
- แนะนำซื้อ ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 9.20 บาทจากเดิม 8.84 บาท
- คาดกำไร 2Q19 สดใส 51 ลบ. +21% Q-Q, +147% Y-Y จากจำนวนนักเรียนที่คาดเพิ่มขึ้นราว 70 คนเป็น 2,375 คน (ไม่รวมเชียงใหม่)
- แนวโน้มกำไร 3Q19 จะยิ่งดีขึ้นเพราะ ส.ค. เป็นเดือนเปิดภาคการศึกษาใหม่และมีการปรับขึ้นค่าเทอมประจำปีราว 5% หากจำนวนนักเรียนเท่ากับ 2Q19 จะส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้นราว 10-12% เพราะต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่
- ปรับเพิ่มกำไรปี 2019-20 ขึ้น 20% และ 14% เป็น 215 ลบ. +108% Y-Y ปีนี้และ 288 ลบ. +34% Y-Y ปีหน้าจาก Operating leverage ที่ให้ผลดีกว่าคาด
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$146ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$112ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$6ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเวียดนาม US$0.3ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกภูมิภาค แม้ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามคาดแต่ตลาดผิดหวังคำแถลงประธาน Fed ที่ไม่ได้ระบุถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ส่วนการประชุมทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐได้จบลงแล้วโดยที่ไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) มุมมองตลาดหุ้นเดือน ส.ค. พักฐานต่อแต่ไม่รุนแรง มองพักฐานเพราะผลประกอบการ 2Q19 โดยรวมไม่ดีทั้งเป็น low season ของหลายธุรกิจและยังมีการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานตาม กม.แรงงานใหม่ และ sell on fact หลังเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีกในอนาคตอย่างที่ตลาดหวัง หมดประเด็นลุ้น ส่วนการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนไม่คืบหน้าและจะกลับมาเจรจาใหม่เดือน ก.ย. แต่การจ่ายเงินปันผลของหลายบริษัทและมาตรการกระตุ้นศก.ของรัฐบาลช่วยประคองไม่ให้ตลาดร่วงแรง หุ้นเดือน ส.ค. เราเลือกที่ผลประกอบการแกร่งได้แก่ AMATA, BCH, MINT, SAPPE, SISB
(-) เศรษฐกิจไทย 2Q19 ชะลอ จากส่งออกที่หดตัว การลงทุนภาคเอกชนชะลอ นักท่องเที่ยวโตชะลอแต่เริ่มขยับขึ้นเล็กน้อยในเดือน มิ.ย. จากตลาดอินเดีย การบริโภคยังขยายตัวแต่มีทิศทางชะลอเกือบทุกหมวดสินค้าในเดือน มิ.ย. สอดคล้องกับกำไรปกติของหุ้นใน FSS Coverage ที่คาด -2% Q-Q, -13% Y-Y แต่คิดว่ากนง.ยังไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ย รอมาตรการกะตุ้นศก.ของรัฐบาลก่อน
(+) Central Retail เตรียม IPO และรวมธุรกิจค้าปลีกทั้งในไทยและตปท. รวมถึง ROBINS เข้ามาอยู่ในบมจ.เดียว จึงจะ Tender ROBINS ในราคาหุ้นละ 66.50 บาทราวต้นปีหน้าและ swap เป็นหุ้นของ CRC แนะนำให้ตอบรับคำเสนอซื้อ
(0) KUMWEL เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบป้องกันฟ้าผ่าครบวงจร ภายใต้แบรนด์ KUMWELL เราคาดกำไรปกติปี 2019 -13% Y-Y จากการเริ่มขายสินค้าใหม่ที่มาร์จิ้นต่ำ แต่จะโต 14% Y-Y ในปี 2020 หลังโรงงานแห่งที่ 2 เฟส 1 ผลิตเต็มปี และหันมาเน้นขายสินค้าพร้อมให้บริการมากขึ้น ประเมินมูลค่าหุ้นโดยอิง PE 11x ได้ราคาเหมาะสมปีนี้ 1.40 บาท (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ KUMWEL)
(-) ตลาดดาวโจนส์ ปรับลง 333.75 จุด ปิดที่ 26,864.27 จุด แม้คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ลดดอกเบี้ย 0.25% ตามตลาดคาด แต่นักลงทุนผิดหวังที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในอนาคต
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก หนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารยุโรปหลายแห่ง
(-) ตลาดเอเชียปรับลง จากการปรับลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่ของเกาหลี หลังข้อมูลการส่งออกของเกาหลีในเดือนก.ค. ปรับลงถึง 11% จากปีก่อน
(0) ค่าเงินบาทแกว่งในกรอบแคบ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 30.83 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ ปิดที่ 58.58 ดอลลาร์/บาร์เรล จากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และยังลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวานนี้ตามคาด
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,437.80 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 823.42 / -1.47 ตัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1 ส.ค. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.), Business Sentiment (ก.ค.)
- จีน: Caixin Manufacturing PMI (ก.ค.)
- เกาหลีใต้: ส่งออก-นำเข้า (ก.ค.)
2 ส.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตร (ก.ค.)
5 ส.ค. - จีน: Caixin PMI Composite (ก.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.)
- อินโดนีเซีย: 2Q19 GDP
6 ส.ค. - ออสเตรเลีย: ธนาคารกลางประชุม
7 ส.ค. - ไทย: กนง.ประชุม
- อินเดีย: ธนาคารกลางประชุม
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research