- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 31 July 2019 16:29
- Hits: 2480
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้เราคาด SET Index มีโอกาสปรับลงทดสอบแนวรับจิตวิทยาที่ 1,700จุด หลังบรรยากาศการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนแย่ลง บวกกับอยู่ระหว่างรอผลประชุมของ Fed ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่มีสัญญาณบวก
• Market Factor
• (watch) จับตาการประชุม Fed ในวันที่ 30-31 ก.ค. โดยตลาดคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในการประชุมครั้งนี้ที่ระดับ Implied Prob. 82% บวกกับรอการแถลงทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโนบายจากประธาน Fed นายเจอโรมพาวเวล
• (-) เริ่มต้นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนในวันที่ 30-31 ก.ค.อย่างไรก็ดีตลาดได้รับปัจจัยลบจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ทรัมป์ กล่าวหาว่ารัฐบาลจีนไม่ได้ซื้อสินค้าทางการเกษตรกับทางสหรัฐฯ ตามสัญญาและถ่วงเวลาเพื่อรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563
• (-) สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน มิ.ย.62 อยู่ที่ 100.49 หดตัว 5.54%YoY จากแนวโน้มเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง และส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม 2Q62 หดตัว 2.64%YoYพร้อมคาดการณ์ MPI ปี 62 ที่ 1.5-2.5% (อินโฟเควสท์)
• (-) ม.หอการค้าไทย คาดปีนี้การส่งออกของไทยจะมีมูลค่า 251,338 ล้านดอลลาร์ หดตัว -0.64% ซึ่งถือว่าเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 4 ปีโดยปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญครึ่งปีหลัง ได้แก่ ทิศทางเศรษฐกิจโลกปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัวลง, สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังมีแนวโน้มยืดเยื้อ, เงินบาทในปีนี้มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง, ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย, ความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก และตลาดจีนลดการนำเข้าสินค้าจากโลกและไทย (อินโฟเควสท์)
• (watch) ระมัดระวัง 15 หลักทรัพย์ (A,BLISS, BUI, CHUO, EARTH, GSTEEL, IFEC, KC, KTECH, NMG, POLAR, PRO, STHAI, TSF, WR) ที่จะซื้อขายเป็นวันสุดท้ายวันนี้ ก่อน ตลท.ขึ้น SP ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 62 เป็นต้นไป
• (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 104.39บาท หรือลดลง 9.34% Year To Date
• Update Flow เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา ต่างชาติพลิกขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 509.07 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติซื้อสุทธิรวม 20,231.86 ลบ.
• Investment Strategy
• สัปดาห์นี้เราประเมินการเคลื่อนไหวของดัชนี SET Index มีโอกาสผันผวนในกรอบ 1,700-1,730 จุดหลังเข้าสู่ช่วงแถลงมุมมองต่อ ศก. และแนวทางการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งล่าสุดจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ตลาดให้น้ำหนักกับการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้เพียง 0.25% ด้วยความน่าจะเป็น 82% และคาดทั้งปี 62 มีโอกาสลดดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้ง 57.4% แต่ด้วยตัวเลข ศก. สำคัญของสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมาออกมาดีกว่าคาด ทั้งอัตราการจ้างงานนอกภาคเกษตร, ดัชนี PMI ภาคบริการ และ GDP ช่วง 2Q62 อาจส่งผลต่อความเห็นของ FOMC ให้ Dovish น้อยลงในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่ธนาคารกลางอื่นอาทิ BoJ และ ธปท. คาดยังไม่เห็นการเปลี่ยนของนโยบายการเงินในช่วงสั้น นอกจากนี้หุ้นไทยยังมีสัญญาณลบจากการที่ต่างชาติกลับมาขายสุทธิสูงกว่า 4,346 ลบ. (ขายสุทธิรายวันสูงสุดในรอบ 9 เดือน) หลังการแถลงนโยบายของภาครัฐฯ ยังไม่มีสัญญาณเชิงบวกตามที่ตลาดคาด กอปรกับ 10Yr- Thai Bond Yield ปรับลงสู่ 1.904% ต่ำกว่า 10Yr US Bond Yield ที่ 2.065% และปัจจุบันซื้อขายด้วย PER ที่สูงราว 18.5x ทำให้ตลาดไทยมีความน่าสนใจลดลง ดังนั้นเราจึงแนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังและลงทุนในหุ้นหลักเพียง 2 กลุ่ม ดังนี้
• หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ: จากภาวะ ศก.ที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะภาคการบริโภคและการลงทุนของเอกชนทำให้เรามองว่าครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการวานนี้มีโอกาสสูงที่จะเร่งออกนโยบายกระตุ้น ศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุงศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวที่ยังมี Upside น่าสนใจ ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขา และ Mini BigCราว 200 สาขา), SEAFCO (ช่วง 2Q62 คาดโต 5.4%YoY ด้วยงานก่อสร้างที่รับรู้สูงกว่าปีก่อนเราปรับเพิ่มประมาณการหลังได้รับงานใหม่ขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท) DCC (คาดปี 62 โต YoY หนุนด้วยกำลังผลิต และต้นทุนกระเบื้องดีขึ้นจาก Economy of scale หลังเข้าบริหารและถือหุ้น RCI อีกทั้งตั้งเป้าขยายสาขา ปีนี้เพิ่มอีก 5 สาขาพร้อมปรับ Business Model แบ่งพื้นที่สาขาให้ธรุกิจที่เกี่ยวเนื่องเช่าเพื่อเพิ่มช่องทางรับรู้ รายได้แก่บริษัท นอกจากนี้ยังซื้อขายที่ PER15.2X ถูกกว่าทั้ง GLOBAL และ HMPRO) และ ROBINS (แม้ช่วง 2Q62 คาดกำไรหดทั้ง QoQ และ YoY หลังเผชิญ SSSG ที่คาดติดลบราว 0.5-1% แต่คาดราคาหุ้นปรับลงมาเพื่อสะท้อนปัจจัยดังกล่าวแล้วและคาดกำไรในช่วงครึ่งปีหลังจะยังโต HoH และโต YoY หนุนด้วยช่วง 4Q62 เป็นช่วง High Season และมีการกลับมาเปิดของ 3 สาขาที่ปิดปรับปรุง)
• กลุ่ม Defensive Stock: ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นเราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (คาดผลดำเนินงานมีโตต่อเนื่องตั้งแต่ช่วง 2Q62 หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯ ที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.) และ LH (คาดได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ที่จำกัดเนื่องจากมีสัดส่วนโครงการแนวราบมากกว่าคอนโดราว 2-3 เท่าบวกกับมีกำไรจากการลงทุนในHMPRO, QH และ LHFG ที่โตต่อเนื่อง หนุนคาดผลการดำเนินทั้งปีโต YoY และคาดมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานช่วง 1H62 คิดเป็น 3.2-3.6% ต่อปี)
30-Jul-19 Change (pts.) 26-Jul-19
SET Index 1,706.49 -11.48 1,717.97
SET50 Index 1,126.43 -4.98 1,131.41
SET100 Index 2,495.67 -14.58 2,510.25
High 1,722.20 Gainers 381
Low 1,704.03 Unchanged 379
Value (Bt m) 55,570.64 Losers 1,329
Volume (*000) 17,741,521
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 16.5 15.1 15.1
EPS Growth (%) 13.9 9.3 3.0
EV/EBITDA (x) 11.1 10.2 9.8
FWD PBV (x) 1.9 1.8 1.7
Dividend Yield (%) 3.0 3.3 3.5
ROE 11.2 11.4 11.3
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 30-Jul-19 WTD MTD YTD
Institution (2,858.03) (2,858.03) (28,123.48) (4,736.02)
Proprietary (487.27) (487.27) 1,982.29 19,660.22
Foreign 509.07 509.07 20,231.86 60,881.05
Individual 2,836.22 2,836.22 5,909.34 (75,805.25)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary