วันนี้คาด หุ้นไทยจะ "Catch up" ตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ เดินหน้าบวกต่อเนื่องขณะที่ตลาดหุ้นไทยหยุดทำการมา 2 วัน ส่วนข่าวหนุนหุ้นไทย จะมาจาก 1-2 วันนี่ คาด สศค.จะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้ ครม.อนุมัติสัปดาห์หน้า  

          ระยะสัปดาห์ เราคาดว่า ตลาดหุ้นไทยที่ Underperform เพื่อนบ้าน มีโอกาสจะกลับมาขึ้นต่อเนื่อง ได้ดีกว่า จากเหตุผลข้างต้น บวกกับ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศที่จะออกมาช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยระหว่างรอรัฐบาลใหม่ ขณะที่ ภาวะเศรษฐกิจโลก จะได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากจีน, ถ้อยแถลงที่ Dovish ของ เฟด.       

 

          (+) วันนี้ กกต. ยื่นศาล รธน.ตีความ สูตรคำนวณ สส. ปาร์ตี้ลิสต์ /คาดถ้าศาลรับพิจารณา จะเป็นบวกต่อภาพรวมตลาด เพราะจะปัญหาที่โต้เถียงกัน จะได้ข้อยุติ  

          (+) เราคาดว่า ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล จะมีการเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เน้นไปที่มาตรการที่มีประสิทธิภาพดังที่เคยใช้ในอดีต แต่ใช้งบประมาณไม่มาก เพื่อฟืนฟูความเชื่อมั่นในการลงทุน และ การบริโภคในประเทศ ระหว่างรอยต่อของการรอรัฐบาลชุดใหม่ โดยเราคาดหุ้นที่จะได้อานิสงส์จากมาตรการครั้ง แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ได้แก่...(ติดตาม ในรายงาน Weekly) 

          (+) คาดจีนจะรายงาน GDP 1Q19 ขยายตัว 6.3% จากไตรมาสก่อน +6.4% y-y โดยตัวเลขที่ดีขึ้นตามลำดับในเดือน มีค. เช่น Industrial production +6% จากเดือน กพ.+5.3% y-y และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาในเดือน เมย. ซึ่งมีผลบังคับใช้ทันที คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวเศรษฐกิจ จีนใน 2Q19 ได้      

 

          LPN ซื้อดักมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ จากภาครัฐฯ และเพิ่มเข้า พอร์ต Weekly  

          AOT 18 เมย. ลุ้น PPP เดินหน้าให้ประมูล ดิวตี้ฟรี เพราะไม่ขัดกฎหมาย พรบ.ร่วมทุนฯ (ตามที่เราให้ความเห็นในรายงานไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา)

 

Thai Market Strategy: 1Q19 earnings preview: Not many stocks for earnings play 

          ใน 1Q19 เราคาดกำไรรวมของ SET จะลดลง 16%YoY แต่ฟืนตัวแรง 67%QoQ (ลดลง YoY เพราะผลประกอบการหลักที่อ่อนตัวลง และกำไรพิเศษที่ลดลง) ผลประกอบการ 1Q19 ที่เหมาะกับการเล่น Earnings play นั้นกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มหุ้นขนาดกลาง เช่น กลุ่ม อาหาร บ้าน สินเชื่อบุคคล และกลุ่มสื่อ เป็นต้น 

 

MINT: Turbulence ahead; buy on dip 

          เรามองว่าผลประกอบการที่คาดจะออกมาน่าผิดหวังใน 1Q19 จะกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น โดยเราคาดกำไรหลักที่ 1.3 พันล้านบาท ลดลง 22% YoY และ 32% QoQ ต่ำสุดตั้งแต่ 1Q12 จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นและการขาดทุนตามปัจจัยด้านฤดูกาลของ NH อย่างไรก็ตามหากราคาหุ้นปรับตัวลงเราแนะนำหาจังหวะเข้าซื้อรับกำไรที่คาดจะเติบโตดีใน 2Q-3Q19 โดยจุดเข้าที่เหมาะสมคือ 35-35 บาท คิดเป็น PER ที่ 23.8-24.5 เท่า ใกล้ระดับที่ปรับตัวลงไปใน 2018 เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 44 บาท 

 

ICT: Revised payment schedule for 900MHz juices mobile operators' cash flows 

          การใช้ ม.44 ในการยืดเวลาจ่ายชำระใบอนุญาตคลื่น 900MHz ทีประกาศออกมาจะหนุน Equity value/share, ช่วยผ่อนคลายกระแสเงินสด, ลดภาระหนี้และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยในช่วง 2020-23 และอาจจะนำไปสู่การปรับเพิ่มการจ่ายเงินปันผล(สามารถดูรายละเอียดมูลค่าที่เพิ่มขึ้นได้ในหน้า 2 ของรายงานฉบับเต็ม) เรายังคงชอบ DTAC ที่สุดในกลุ่ม 

          (*) คาดการณ์ กำไรกลุ่มธนาคารฯ ที่จะทยอยประกาศ พรุ่งนี้เป็นต้นไป  

          18 เมย. TISCO KTC TMB 

          19 เมย. KBANK KTB SCB TCAP BAY BBL 

 

 

SET Index ปิด 1660.45 (+0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 3.2 หมื่นล้านบาท  

 

แนวโน้มระยะสั้นมอง

          SET Index แนวรับ 1,665 แนวต้าน 1,670 / SET100 รับ 2,430 ต้าน 2,445 BSET100 รับ 10.65 ต้าน 10.75 / BMSCITH รับ 12.55 ต้าน 12.65 

 

กลยุทธ์เทคนิค: 

          สัญญาณทางเทคนิคแสดงตัวชี้วัดตลาดถึงจุดเปลี่ยนเป็นขาขึ้น เช่น การทะลุแนวต้านสำคัญ Fund Flow และจำนวนหุ้นในตลาดการปรับตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง เราคาดว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเหตุผล:

          1. โครงสร้างตลาดหุ้นไทยอยู่บนทิศทางขาขึ้นเคลื่อนทีเหนือเส้นแนวโน้ม  

          2. ระยะเวลา 3 เดือนกว่าต้นทุนเฉลี่ยดัชนีอยู่บริเวณ 1650 ดังนั้นการปรับฐานจะลงเพียงแค่ชั่วคราวแล้วดีดกลับ 

          3. ดัชนีทะลุเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น-ยาว พร้อมกับเครื่องมือวัดโมเมนตัมแสดงสัญญาณ Bullish signal  

          4. กระแสเงินลงทุนต่างชาติเริ่มไหลเข้า ปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นภูมิภาค   

 

          ดัชนีเดินหน้าปรับขึ้นลักษณะ Sideway upและยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ดีอีกครั้ง หากไม่มีปัจจัยลบที่มีนัยสำคัญ ดัชนีมีโอกาสปรับขึ้นทำจุดสูงสุดบริเวณเปาหมาย 1700 จุด / แนวรับ 1650 จุด 

          1.หุ้นที่เกิดสัญญาณบวกเกิดขึ้นคล้ายตลาด 2.หุ้นทีมีสภาพคล่องเนื่องจากเป็นกลุ่มที่สามารถรองรับกับกระแสเงินลงที่ไหลเข้า 3.โครงสร้างราคาถึงจุดกลับตัวเป็นขาขึ้นรอบใหม่ 4.แนะใช้เครื่องมือทางเทคนิคที่เหมาะกับโครงสร้างตลาดขาขึ้น เช่น  Moving average, MACD และ Stocahstic 

 

          Bull signal: SPALI,ANAN, MCOT 

          Bear signal: IRPC, CENTEL, TOA (closed below 5&25 days EMA ) 

          Portfolio: PTTEP, AMATA, OSP, GGC, PLANB, CPALL, ESSO, GLOBAL, BJC, JWD 

          

 

 

          SPALI (SPAL01C1907A)

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 20.40  

          ต้าน 22.00-22.50 

          เหตุผล SPALI ทะลุแนวต้านสำคัญยืนยันด้วยวอลุ่มหนาแน่น ขณะที่ DI บ่งชีจุดกลับตัวเป็นขาขึ้น 

 

          ANAN (ANAN01C1906A)

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 3.76 

          ต้าน 4.10/4.40 

          เหตุผล ปรับตัวขึ้นทะลุเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง พร้อมกับค่า RSI ยืนยันความแข็งแกร่งด้านราคา 

 

          MCOT   

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 11.00 

          ต้าน 13.00 / 13.50 

          เหตุผล วอลุ่มเพิ่มสูงขึ้นพร้อมกับราคาปิดทำจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี ขณะที่ MACD บ่งชี้โครงสร้างขาขึ้นรอบใหม่ คล้ายเหตุการณ์ในอดีตปี 2016