ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index บวก 4.4 จุด (+0.26%) ปิดที่ระดับ 1,662 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,621 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มสื่อสารรับข่าว คสช.เตรียมประกาศใช้มาตรา 44 ยืดค่าไลเซนส์คลื่น 900MHz นำขึ้นโดย ADVANC และ TRUE นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,725 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และ Net Long TFEX ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 28,957 สัญญา แต่ยังขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 2,000 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index ปรับขึ้นทดสอบ High เดิมที่ระดับ 1,670 - 1675 จุด จาก 1) ปัจจัยภายนอกผ่อนคลาย ล่าสุดสหภาพยุโรป (EU) เห็นชอบให้อังกฤษขยาย Brexit ไปจนถึง 31 ต.ค.19 และ Fed minute คณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่ส่งสัญญาณจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้และอาจจะปรับลดได้หากมีความจำเป็น 2) หุ้น Big Cap อาทิ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน และสื่อสารยังมีปัจจัยบวกต่อเนื่อง โดยกลุ่มธุรกิจน้ำมันได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบเดินหน้าทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 เดือน กลุ่มสื่อสารมีกระแสข่าวระบุวันนี้ คสช.จะประกาศใช้มาตรา 44 ยืดชำระค่าไลเซนส์งวดสุดท้ายของคลื่น 900MHz และ 3) Fund flow ต่างชาติเริ่มเห็นความต่อเนื่องในการเข้าซื้อส่งผลบวกโดยตรงต่อหุ้นในกลุ่ม Big cap โดยเฉพาะ 2 กลุ่มที่กล่าวไปข้างต้น คือ ธุรกิจน้ำมันและสื่อสาร

กลยุทธ์การลงทุน : เน้น Big Cap

•    กลุ่มพลังงาน (PTTEP ,TOP, PTTGC, SPRC) คาดงบ 1Q19 เติบโตจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มโรงกลั่นค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นรวมถึง Stock gain

•    กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ข่าวททท.เตรียมเสนอครม.ยกเว้นวีซ่านทท.ออกไปอีก 6 เดือนถึงเดือนต.ค.

•    กลุ่มที่คาดว่างบ 1Q19F จะเติบโตขึ้น BDMS, BCH, CPN, EA, BPP, BGRIM, SGP, GFPT

หุ้นแนะนำวันนี้ : TRUE (ปิด 5.2 ซื้อ/เป้า 6.8) ได้ Sentiment บวกจากข่าว คสช.เตรียมใช้มาตรา 44 ยืดค่าไลเซนต์คลื่น 900MHz งวดสุดท้ายให้ผู้ประกอบการมือถือเพื่อจูงใจให้เกิดการประมูลคลื่น 5G เรามอง TRUE ได้ประโยชน์มากสุด 1) มีกำไรเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่คาดว่าจะลดลง 2 พันล้านบาทต่อปี 2) ลดแรงกดดันต่อประเด็นของการเพิ่มทุน และ 3) Valuation เพิ่มขึ้นจาก Cash outflow  ที่ลดลง, PTTEP (ปิด 132.5 ซื้อ/เป้า 150) ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบบวกต่อ ขณะที่ PTTEP มี Growth story จากการเข้าซื้อ Murphy oil ในมาเลเซียหนุนปริมาณขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10-15% ต่อปี

Top picks ปี 2Q19 : CPALL, IVL, MTC, SPRC และ TOP

KSS report วันนี้ : KTC (ปิด 40.75 ปรับลดเป็นถือ/เป้า 37), SCC (ปิด 466 ถือ/เป้า 480)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :          

•    (+) Brexit ผ่อนคลาย EU เห็นชอบขยาย Brexit ให้อังกฤษเป็น 31 ต.ค.19 จากเส้นตายเดิม 12 เม.ย.19 : ผู้นำประเทศสมาชิก 27 ชาติของสหภาพยุโรป (EU) มีมติเห็นชอบให้อังกฤษขยายเวลาการถอนตัวออกจากยุโรป (Brexit) ไปเป็นวันที่ 31 ต.ค.19 จากเดิม 12 เม.ย.19 และเป็นการขยายเวลามากกว่าที่นาง เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ยื่นขอต่อ EU คือ 30 มิ.ย.19 อย่างไรก็ตามมีข้อแม้ที่อังกฤษต้องดำเนินการ 3 ประการ คือ 1) สถาบันและหน่วยงานต่างๆของ EU ทั้งใน EU และ อังกฤษจะต้องดำเนินงานได้อย่างราบรื่น 2) อังกฤษจะต้องเข้าร่วมเลือกตั้งกับ EU ในปลายเดือนหน้า และ 3) การดำเนินการต่างๆและการตัดสินใจของอังกฤษจะต้องเป็นไปอย่างสร้างสรรค์

•    (+) Fed minute คณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่ส่งสัญญาณจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้ : รายงานการประชุมของเฟดซึ่งจัดประชุมไปเมื่อ 19-20 มี.ค.ประเด็นส่วนใหญ่ยังคล้ายกับถ้อยแถลงหลังการประชุม โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่ยังเห็นชอบให้คงอัตราดอกเบี้ยและจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้ อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการขยายตัวของเศรษฐกิจว่ามีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอัตราที่สูงหรือต่ำกว่าปกติทั้งในระยะกลางและในระยะยาว

•    (+) น้ำมันดิบไปต่อ WTI เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ ปิดที่ 6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตอบรับ OPEC ผลิตน้ำมันดิบลดลงและสต๊อกน้ำมันเบนซินสหรัฐลดลงเกินคาด : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ (+1%) ปิดที่ 64.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตอบรับข่าว OPEC ผลิตน้ำมันดิบในเดือน มี.ค.ลดลง 534,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 30.02 ล้านบาร์เรล/วัน ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ขณะเดียวกันสหรัฐรายงานสต๊อกน้ำมันเบนซินลดลง 7.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล สต๊อกน้ำมันเบนซินที่ลดลงบ่งชี้ถึงการลดลงของสต๊อกน้ำมันดิบในสัปดาห์ถัดไป

•    (+) วันนี้ กทท. ประกาศเปิดซองประมูลโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 (ท่าเรือ F) มูลค่า 84,000 ล้านบาท มี 2 กลุ่มกิจการเข้าร่วมประมูล (GULF, PRM) : ตามกำหนดเดิมวันนี้ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จะประกาศผลการประมูลโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 (ท่าเรือ F) มูลค่า 84,000 ล้านบาท โดยมีเพียง 2 กลุ่มธุรกิจที่เข้าประมูล คือ 1) กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ประกอบด้วย บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด (บริษัทในกลุ่มบมจ.ปตท (PTT)) , GULF และ บริษัท China Harbour Engineering Commpany Limited 2) กลุ่มกิจการร่วมค้า NPC ประกอบด้วย บริษัท แอสโซซิเอท อินฟินิตี้ จำกัด, PRM, บริษัท พีเอชเอส ออแกนิค ฮิลลิ่ง จำกัด และ China Railway Construction Corporation Limited