เมื่อวานที่ผ่านมา SET มีแรงซื้อเด่น นำโดย กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอย่าง PTTEP, PTTGC, IVL กลุ่มอสังหา SPALI, AP และการเงิน KTC, TCAP ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,657.7 จุด (+11.5 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย  4.4 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้า 2.6 หมื่นล้านบาท)

          นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อหุ้นไทยที่ 3,204 ลบ. (สถาบันซื้อสุทธิ 765 ลบ.) และเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิที่ 28,972 สัญญา

 

          IMF ปรับเป้า GDP โลกลง จากสหรัฐ, ยุโรป แต่ ปรับจีนขึ้น: เมื่อคืนที่ผ่านมา IMF ได้ออกแถลงการณ์ปรับเป้าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกปีนี้เหลือ 3.3% จากเดิมเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาที่ 3.5% เป็นผลจากการปรับ GDP สหรัฐลงเหลือ 2.3% (เดิม 2.5%) และยุโรปลงเหลือ 1.3% (เดิม 1.6%) รวมถึงแคนาดาและแม็กซิโก สาเหตุจากปัจจัยสงครามการค้าต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ประกอบกับสนธิสัญญา USMCA (คิดเป็นสัดส่วนการค้าสูงกว่า 30% ของการค้าสหรัฐ) ที่เซ็นมานานกว่า 4 เดือน ร่วมกับยังไม่ผ่านสภา และคาดส่งผลต่อเนื่องใน 1H19 อย่างไรก็ตามปรับเป้าการเติบโตเศรษฐกิจจีนขึ้นเล็กน้อยเป็น 6.3% ( จาก6.2% ) พร้อมคงเป้า Asean5 (รวมประเทศไทย) ที่ 5.1% ในขณะที่ประเมินว่าในช่วง 2H19 จะได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินและการคลัง สอดคล้องกับมุมมองของเราในปีนี้นั่นคือ "Happy Problem" โดยสรุปภาพดังกล่าวเป็น Sentiment บวกอ่อนๆต่อการเก็งกำไรฝั่งภูมิภาค Emerging market 

 

          เมื่อคืนที่ผ่านมา : IMF ปรับลดการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกจาก 3.50% เหลือ 3.30%/ JOLTs Job Opening ของสหรัฐฯอยู่ที่ 7.087 ล้านตำแหน่งน้อยกว่าที่คาดไว้ที่ 7.550 ล้านตำแหน่ง

 

          แนะเก็งกำไร PTTEP ราคาเหมาะสม 150 บาท (ยังมี Upside อีก 8 บาท จาก Murphy เบิ้องต้นคาด EBITDA เติบโต 15% ในปี 2020) ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นเด่น ภายหลัง OPEC รายงานกำลังการผลิตต่ำสุดในรอบ 4 ปี ที่ 30.3 ล้านบาร์เรลในเดือนที่ผ่านมา และล่าสุดการที่สหรัฐคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันในเวเนซุเอลา (ผลิตต่ำสุดในรอบ 16 ปีที่ 7.4 แสนล้านบาร์เรล) และอิหร่าน เป็นปัจจัยหนุนน้ำมันในระยะสั้น    

          2Q19 แนะทยอยสะสม 2 Themes ได้แก่ 1) กลุ่มที่คาดได้รับผลกระทบจำกัด จากขั้วการเมือง นำโดย กลุ่มค้าปลีก BJC ราคาเป้าหมาย 65.0 บาท และกลุ่มท่องเที่ยว SPA ราคาเป้าหมาย 15.80 บาท และกลุ่มที่คาด Downside จำกัด, Margin ฟื้นตัว ในขณะที่ Valuation น่าสนใจ นำโดย BCP ราคาเป้าหมาย 39.0 บาท และ BCH 20.0 บาท

 

          ลุ้นปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน Neckline ที่ 1675 ผ่านได้ Upside เปิด  :  ดัชนีปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อหลักหุ้นกลุ่มพลังงาน ปิโตร และขนส่ง ทำให้ดัชนีเริ่มมีแนวโน้ม Break แนวต้าน 1656 (EMA200Day)  ระยะสั้นคาดมีโมเมนตัมส่งต่อขึ้นทดสอบแนวต้าน Neckline Head and Shoulders หัวกลับ ที่ 1675 โดยระหว่างวันจังหวะอ่อนตัวยังมองเป็นโอกาสสะสมตามแนวรับ 1645-1650 ส่วนระยะกลางถึงยาวหาก Break 1675 ได้แนวโน้มหลักจะกลับเป็นขาขึ้นรอบใหม่

          กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: Let Profit Run ไปที่แนวต้าน 1675 หากไม่ผ่านอาจทยอยขายทำกำไรระยะสั้น แต่หากผิดคาดอ่อนตัวหลุด 1645 แนะนำ Lock Profit ในขาขึ้นรอบนี้  2) ไม่มีหุ้น: ทยอยซื้อหุ้นเมื่อดัชนีอ่อนตัวสู่แนวรับ 1645-1650 เพื่อเล่น Rebound ไปที่แนวต้าน 1675

          แนวรับ : 1630, 1645 แนวต้าน : 1675, 1690

 

          ปัจจัยต่างประเทศ :   -

          ปัจจัยในประเทศ :   จับตากกต.เผยสูตรการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ 

 

          JMART (7.70-7.80, Tp 8.10//8.30, Cut 7.60)

          THANI (5.60-5.70, Tp 6.00//6.20, Cut 5.50)

 

 

BCP

          มั่นใจ EBITDA พุ่ง 30% (ทันหุ้น)

          ความเห็น : เราเห็นด้วยกับข่าวนี้ เราเชื่อว่า BCP เป็นโรงกลั่นที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากมาตรการ IMO 2020 จากการผลิตน้ำมันขั้นกลางสัดส่วนถึง 65% นอกจากนั้นน้ำมันเตาที่ผลิตได้ยังเป็นแบบกำมะถันต่ำ ได้รับผลกระทบเชิงลบจากมาตรการน้อยกว่าชนิดกำมะถันสูง อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในประเทศเป็นจำนวนมาก ทำให้มาร์จิ้นธุรกิจการตลาดน้ำมันคาดปรับขึ้นจากอุปทานที่ตึงตัว แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 39 บาท

 

MAJOR

          หนังใหม่ทำเงิน หนุนผลงานปี 62 โดดเด่น (ทันหุ้น)

          ความเห็น : รายได้หนังใน 1Q62 ค่อนข้างดีจากทั้งหนังฮอลิวูดและไทย ได้แก่ Captain Marvel, How to Train Your Dragon 3, Alita, เฟรนด์โซน และ พี่นาค ซึ่งคาดจะทำให้กำไร 1Q62 เติบโตเด่น ขณะที่ในปีนี้ยังมีหนังซึ่งมีแนวโน้มรายได้ดีหลายเรื่องเข้าฉาย เช่น The Avengers 4, Shazam!, Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw, Toy Story 4 และ Godzilla แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 30 บาท

 

FOOD

          ครม.ยกเป็นวาระแห่งชาติสกัด "อหิวาต์หมู" ห้ามระบาด (ไทยรัฐ)

          ความเห็น : ไทยยังคงควบคุมไม่ให้โรคอหิวาต์หมูระบาดได้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เลี้ยงในระบบฟาร์มปิด ขณะที่ราคาหมูในเดือน เม.ย. ยังยืนในระดับค่อนข้างสูงต่อเนื่องที่ 73-74 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 20% YoY เป็นบวกต่อ CPF ซึ่งคาดผลประกอบการฟื้นตัวเด่น แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 31.50 บาท

 

JMART

          ส่งสัญญาณโค้งแรกโตแกร่งหวังปีนี้พลิกกำไร (ทันหุ้น)

          ความเห็น : เรามีมุมมองบวกมากขึ้นต่อผลประกอบการของ JMART ในปีนี้ คาดเห็นการฟื้นตัวพลิกกลับมามีกำไรเทียบ QoQ หลังมีการตั้งสำรอง J Fintech  และ J Camera ในไตรมาสที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเราได้สอบถามไปยัง JMT หลังราคาปรับตัวลงแรงวานนี้ ยังไม่มีประเด็นที่กระทบพื้นฐานบริษัทอย่างมีนัย การปรับตัวลงวานนี้เป็นโอกาสเข้าซื้อ  บนแนวโน้ม 1Q62 ผลประกอบการจะขยายตัวได้ระดับ 25-30% แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 17.00 บาท

 

PROPERTY

          ราคาประเมินใหม่รับภาษีที่ดิน (ประชาชาติธุรกิจ)

          ความเห็น : การปรับเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินเป็นปกติของการทำราคาประเมินแต่ละรอบ ผู้บริโภคจะมีผลกระทบจำกัดในส่วนของค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นอิงราคา ขณะที่ราคาที่ดินซื้อขายจริงโดยปกติจะสูงกว่าราคาประเมินและในบางพื้นที่มีส่วนดันให้ราคาขายจริงสูงขึ้นและอาจมีผลต่อการพัฒนาโครงการของผู้ประกอบการในอนาคตได้