WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม 
 
Choppy ride...but Hold for now 
          คาดดัชนีฯหุ้นไทยจะ Sideways พักฐาน ไปตลอดสัปดาห์ คาดแนวรับ 1,635/1,640 จุดแนวต้าน 1,655 จุด โดยคงมุมมองการแรลรี่ขึ้นของตลาดหุ้นไทยจะกลับมาอีกครั้ง เมื่อการเมืองในประเทศ ที่มีลุ้นความชัดเจนของรัฐบาลใหม่ ก่อนวันประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ 9 พค.นี้ ส่วนปัจจัยต่างประเทศ เราเชื่อว่า จะเริ่มเห็น ผลการเจรจาทางการค้าระหว่าง จีน-สหรัฐฯ ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ส่วนประเด็น BREXIT เราไม่ได้ให้น้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก (ต่อให้ไม่ได้ข้อตกลงก่อนเส้นตาย 12 เมย.นี้ ซึ่งล่าสุดจะขอเลื่อน EU ออกไปอีก 50 วัน) ในแง่ของพื้นฐาน ผลการดำเนินงาน บจ.ไทย 1Q19 เรายังคงเชื่อมั่น ว่าจะได้เห็นการรายงาน งบที่ดีขึ้น และหนุนตลาดหุ้นไทยได้    
 
What to watch: 
          (+) ทรัมป เผย อีก 4 สัปดาห์ จะลงนามข้อตกลงการค้ากับจีน หลังได้ข้อสรุปผ่านเจรจาล่าสุด
          (+) MS คาดภาวะการค้าโลกที่ชะลอตัวและฉุดเศรษฐกิจโลก กำลังมีสัญญาณที่ดีขึ้น และ มีโอกาสจะผ่านจุดต่ำสุดใน 1Q19 โดยได้ปัจจัยหนุนจาก มาตรการกระตุ้นการบริโภคขนานใหญ่จากรัฐบาลจีน เช่น การลดภาษีมูลค่าเพิ่ม, มาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคต่างๆ, การลดภาษีนิติบุคคล 
          คาดหุ้นที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจจีนทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น BPP TKN JWD SGP CPF GFPT PTTGC TOP มีโอกาสจะกลับมา Outperform ตลาดอีกครั้ง จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน     
          (+) ราคาหุ้นที่ปรับลงมาสะท้อน มุมมองที่ระมัดระวังต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่ม พลังงานน้ำมัน โรงกลั่น ปิโตรฯ ชิ้นส่วนส่งออก จากความกังวลต่อ เศรษฐกิจโลก การค้าโลกที่ชะลอตัวลง แต่ถ้า...มีโอกาสที่การค้าโลก เศรษฐกิจโลก พลิกฟนได้ดีกว่าที่คิด และอาจจะกหลายเป็น Positive surprise ต่อราคาหุ้นที่เชื่อมโยง 
          (+) รายงานการประชุม เฟด วันพุธนี้ ตลาดคาดหวังจะได้รายละเอียดสำหรับการยุติลดงบดุล 1) เปาหมายระยะยาวของประเภททรัพย์สิน ที่ธนาคารกลางจะเข้าซื้อ 2) การเข้าซื้อทรัพย์สินจะเปลี่ยนรูปแบบเร็วแค่ไหน ด้วยปัจจุบัน เฟด ซื้อแต่ ทรัพย์สินระยะยาว แต่รอบนี้คาดจะย้ายเงินมาสู่ ทรัพย์สินระยะสั้น เช่น Treasury bill เพิ่มขึ้น และด้วยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ชะลอลง คาดจะผลักดันให้ เฟดกลับมาใช้ QE อีกครั้ง 
          (+) การประชุมธนาคารกลาง ยุโรป คาด ECB จะไม่ตัดสินใจส่งสัญญาณใดๆ ต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น TLTRO III   
          (+) ตัวเลขการค้าโลกจะเริ่มพบสัญญาณที่ดีขึ้น ผ่านตัวเลขส่งออก จีน ที่พลิกบวก 6.7% จาก -20.8% และฟิลิปปินส์ ส่งออกคาด -0.8% y-y จาก -1.7% y-y 
 
หุ้นแนะนำ 
          BPP TKN Dragon Roaring theme  (ดูรายงาน Weekly tactical)  
          Weekly port เพิ่ม BPP ถอด TU 
 
รายงานวันนี้  
 
Chemical: Play the polyester chain peak season
          ในช่วง 2Q19 ซึ่งเป็น Peak season ของสายผลิตภัณฑ์ Polyester (PTA และ PET resin) คาดหนุนให้มาร์จิ้นกว้างขึ้น ซึ่ง IVL มี Polyester มากที่สุด และเราคาดสาย Polyester จะเป็นขาขึ้นตลอดปี 2019 หนุนโดย demand ที่โตแข็งแกร่ง ขณะที่ supply ยังคงตึงตัว เราคาดจะหนุนให้ส่วนต่างกำไรแข็งแกร่งตลอดปี 2019-20 เราแนะน้ำหนักการลงทุนของกลุ่มเป็น OVERWEIGHT และแนะนำ ซื้อ IVL เป็น top pick 
 
หุ้นมีข่าว/ประเด็นข่าวที่มีผลต่อตลาด 
          (+) ดัน 'ท่องเที่ยว' พยุงเศรษฐกิจ สตม.ชง ครม.สัปดาห์หน้า ยืดอายุ 'ฟรีวีซ่า' อีก 6 เดือน (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) 
          (+) 'ทรัมป' เผยข่าวดี ไม่เกิน 4 สัปดาห์ลงนามการค้าจีน หลังการเจรจาเพื่อผ่าทางตันกรณีพิพาทการค้าของสองประเทศคืบหน้าไปมาก ด้าน "สี จิ้นผิง" เร่ง 2 ฝายสรุปการเจรจา การค้าร่วมกันโดยเร็ว โดยเหลือ 3 ประเด็นหลัก ที่ต้องหาข้อสรุปร่วมกันให้ได้ คือ มาตรการภาษีศุลกากร การขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและกลไกการบังคับใช้ข้อตกลง (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) 
          (*/-) รพ.เอกชนขูดรีดค่ายาแพงกว่า 5 พันรายการ สูงสุดเกิน 300% มีโทษหนักถึง 7 ปี เล็งเรียกเอกชนหารือให้ลดราคาลง ขู่หากไม่ให้ความร่วมมือ เจอโทษหนักคุก 7 ปี ปรับอีก 1.4 แสนบาท "อธิบดีกรมการค้าภายใน" เผย มีโรงพยาบาลอีก 58 แห่ง ยังแข็งข้อหัวหมอไม่ส่งข้อมูล เตรียมทำหนังสือทวงถามอีกรอบ (ที่มา เดลินิวส์) 
          (+) GGC  เผยรง.ผลิตเมทิลเอสเทอร์แห่งที่ 2 ขนาด 2 แสนตัน/ปี เริ่มดำเนินการผลิตแล้วเมื่อ 5 เม.ย. (ที่มา ตลท.) / ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสามารถนำไปใช้ผสมกับน้ำมันดีเซลผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซล เพื่อรองรับตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับภาคการขนส่ง ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และสามารถนำไปใช้เป็นสารละลายซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ในภาคเกษตรกรรมได้อีกด้วย 
          (+) TCAP  TISCO  KKP  มอเตอร์โชว์ ยอดขาย รวมทั้งสิ้น 49,278 คัน แบ่งออกเป็นรถยนต์ 37,769 คัน ขณะที่รถจักรยานยนต์ 5,343 คัน และแบรนด์รถยนต์ไฟฟาหรืออีวี 6,166 คัน โดยมีผู้เข้าชมงานกว่า 1.6 ล้านคน (ที่มา เดลินิวส์) 
          (*/+) นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานยังไม่ได้รับทราบถึงกรณีที่ผู้ประกอบการธุรกิจพลังงานหมุนเวียนยื่นหนังสือร้องเรียนไปยัง ศาลปกครองเพื่อขอให้ศาลใช้อำนาจสั่งระงับหรือชะลอการประกาศใช้แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟาของประเทศไทย (พีดีพี 2018) ปี 2561-80 แต่อย่างใด โดยกระทรวงพลังงาน ยังยืนยันว่าแผนพีดีพีดังกล่าวจัดทำขึ้นภายใต้พื้นฐานที่คำนึงถึงความมั่นคงด้านพลังงานและให้ความสำคัญกับพลังงานหมุนเวียนที่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบผลิตไฟฟามากขึ้น ดังนั้น หากราคาพลังงานหมุนเวียนมีต้นทุนต่ำก็สามารถผลิตเพื่อขายเข้าระบบได้ตามปกติ (ที่มา มติชน) 
          (+) PLANB  บลจ.กสิกรไทย เก็บหุ้น PLANB จำนวน 0.567% ถือเพิ่มเป็น 5.3936% (ที่มา กลต.)  
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
 
Trend Forecasting
 
SET Index ปิด 1646.18 (+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 2.6 หมื่นล้านบาท  
 
แนวโน้มระยะสั้นมอง
          SET Index แนวรับ 1,640 แนวต้าน 1,655 / SET100 รับ 2,410 ต้าน 2,425 BSET100 รับ 10.53 ต้าน 10.60 / BMSCITH รับ 12.40 ต้าน 12.50
 
หัวข้อ: "ปัจจัยอะไรบ้างที่หนุนดัชนีปรับตัวขึ้น"  
 
กลยุทธ์เทคนิค: 
          ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นโลกและสินทรัพย์เสี่ยง ตลาดกำลังจับตาการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-จีนมีโอกาสบรรลุข้อตกลงกันได้ ในส่วนของปัจจัยที่ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้แก่  
          1.โครงสร้างดัชนียังคงยืนได้ดีปิดเหนือแนวรับสำคัญ 1600 จุด  
          2.หุ้นขนาดใหญ่ SET50-SET100 ฟนตัวจากการลงแรง ขณะที่หุ้นขนาดกลางถึงเล็กเริ่มส่งสัญญาณฟนตัวเช่นเดียวกัน  
          3.การแข็งค่าเงินสหรัฐฯอิ่มตัวก่อนที่จะกลับมาเป็นแนวโน้มเชิงลบ(กระตุ้นให้เงินทุนต่างชาติไหลกลับมาสู่ตลาดหุ้นเอเซีย)  
 
มุมมองตลาด: 
          ตลาดปรับขึ้นด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบางช่วงเทศกาลสงกรานต์ สัปดาห์นี้มองโอกาสการปรับขึ้น Sideway up แนะลงทุนหุ้นและกลุ่มอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง 
 
วิธีการเลือกหุ้น: 
          เนื่องจากตลาดแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ แนะปรับใช้ชาร์ตรายสัปดาห์ โดยเลือกหุ้นที่มีสัญญาณแข็งแกร่ง 1.วอลุ่มเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2.ราคาปิดฟนตัวจากแนวรับ 3.หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI ฟนตัว 4.สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic&MACD  
                              
          Bull signal: PLANB, AMATA ,MTC 
          Bear signal: SCC, HUMAN, NOK (1-week low) 
          Portfolio: PTTEP, AMATA, OSP, SAPPE, COM7 ,AH,GGC, KCE, TRUE, GFPT, TFG 
          
          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค           
          [email protected] +662-618-1334
 
Track with Technical 
 
          PLANB 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 6.60  
          ต้าน 8.00 
          เหตุผล โครงสร้างระยะสัปดาห์ปรับขึ้นทดสอบกรอบสามเหลี่ยมบน กรณีทะลุผ่านจะเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้นรอบใหญ่ หนุนด้วยเครื่องมือวัดโมเมนตัม DI+ 
 
          AMATA 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 21.50 
          ต้าน 23.00 
          เหตุผล รูปแบบในอดีตชี้ว่าหุ้นจะปรับตัวขึ้นจากเส้นแนวรับสำคัญ 21 พร้อมกับสัญญาณบวก Bull Stochastic จำนวน 5 ครั้งล่าสุด 
 
          MTC 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 48.00 
          ต้าน 55.00 
          เหตุผล สัญญาณบวกจากเส้นค่าเฉลี่ย Golden cross มาพร้อมกับ RSI บ่งชี้ความแข็งแกร่งด้านราคา  

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!