ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ : SET Index อ่อนตัวลงเล็กน้อย -2.42 จุด (-0.15%) ปิดที่ 1,649 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท จากแรงขายทำกำไรระยะสั้นโดยส่วนใหญ่เป็นแรงขายในกลุ่มโรงไฟฟ้าจากข่าวกลุ่มผู้ประกอบการพลังงานหมุนเวียนเตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองให้ระงับแผน PDP 2018 ฉบับใหม่ นอกจากนี้การขึ้น XD ของหุ้น SCC และ SCCC ก็เป็นตัวฉุดต่อดัชนีเช่นกัน สำหรับนักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นขายสุทธิ 14 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,119 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX 1,230 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : มุมมองเป็นกลางคาดดัชนีแกว่งตัว 1,640 – 1,655 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะยังคงได้ปัจจัยบวกจากความคาดหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่มีความคืบหน้าซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปร่วมกันในเดือนเม.ย. อย่างไรก็ตามความกังวลปัญหา Brexit ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป และกลุ่มผู้ประกอบการพลังงานหมุนเวียนเตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองในวันนี้ให้ระงับแผน PDP 2018 ฉบับใหม่ซึ่งกดดันต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า นอกจากนี้ควรระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังดัชนีดีดตัวขึ้นตอบรับปัจจัยบวกมาระดับนึงแล้ว รวมถึงภาวะการเมืองภายในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอน  

กลยุทธ์การลงทุน : 

•    กลุ่มพลังงาน (PTTEP ,TOP, PTTGC, SPRC) คาดงบ 1Q19 เติบโตจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มโรงกลั่นค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นรวมถึง Stock gain

•    กลุ่มที่คาดว่างบ 1Q19F จะเติบโตขึ้น BDMS, BCH, EA , BPP , BGRIM , SGP

•    กลุ่มที่ได้ประโยชน์ MSCI อนุมัติรวม NVDR ไว้ในการคำนวณน้ำหนักการลงทุน SCC, BDMS, CPN , LH , BANPU ,INTUCH, RATCH, CENTEL และ DTAC

หุ้นแนะนำวันนี้ : EA (ปิด 49.5 ซื้อ/เป้า 63) คาดกำไรสุทธิ 1Q19 พุ่งทำ All time high ต่อเนื่องรับข่าวดีโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมานเริ่ม COD หลายโครงการ อาทิ หนุมาน 1 และ 8 กำลังการผลิตรวม 90MW เริ่ม COD 25 ม.ค., หนุมาน 5 จำนวน 48 MWเริ่ม COD 22 มี.ค.และ ล่าสุด หนุมาน 9 จำนวน 42 MW เริ่ม COD 30 มี.ค., SGP (ปิด 9.60 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 10) ได้ Sentiment บวกจากราคา LPG ในตลาดโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากระดับ 400$/ton ในช่วงต้นปีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 520$/ton ในปัจจุบัน คาดหนุนให้ผลประกอบการของ SGP ในช่วง 1Q19 พลิกมีกำไรจากที่ขาดทุนกว่า 734 ล้านบาทใน 4Q18

Top picks ปี 2Q19 : CPALL, IVL, MTC, SPRC และ TOP

KSS report วันนี้ : ADVANC (ปิด 186.5 ซื้อ/เป้า 215)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :          

•    (+) คาดหวังจีนและสหรัฐยุติข้อพิพาทการค้า แต่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ดี ถ่วงดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเพียง 39 จุด : Trade talk จีนสหรัฐใกล้ได้ข้อสรุป ล่าสุด นาย ไมรอน บริลเลียนต์ รองประธานบริหารฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของหอการค้าสหรั ฐเปิดเผยว่าปัจจุบันข้อตกลงการค้าจีนสหรัฐคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% เหลือเพียงเงื่อนไขบังคับใช้เพื่อรับประกันว่าจีนจะทำตามข้อตกลง หากทุกอย่างคืบหน้าคาดว่าจีนและสหรัฐจะกำหนดวันประชุมระหว่าง โดนัล ทรัมป์ และ สี จิ้นผิง เผื่อลงนามยุติข้อพิพาทการค้าได้ในเร็วๆนี้ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศเมื่อคืนยังไม่ดี อาทิ การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 129,000 ตำแหน่ง ต่ำสุดในรอบ 18 เดือน และ ISM รายงานดัชนีภาคบริการเดือน มี.ค.ลดลงสู่ระดับ 56.1 ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

•    (-) น้ำมันดิบ WTI ลดลง 12 เซนต์ หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่ตลาดส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงเล็กน้อย 12 เซนต์ (-0.2%) ปิดที่ 62.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ผิดหวังตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 4.25 แสนบาร์เรล อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบลดลงไม่มาก เพราะยังมีปัจจัยหนุนจากข่าวสหรัฐจะลดจำนวนประเทศที่ได้รับการยกเว้นการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านลงเป็น 4 ประเทศจากปัจจุบันที่ได้รับการยกเว้นทั้งหมด 7 ประเทศ (จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, อิตาลี, กรีซ, ไต้หวัน และ ตุรกี)

•    (-) กกร.ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้เป็น 3.7%-4% จากเดิม 4%-4.3% จากการลดคาดการณ์การส่งออกจาก 5%-7%เป็น 3%-5% : คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับลดคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้เป็น 3.7%-4% จากเดิม 4%-4.3% หลังจากคาดว่าการส่งออกในปีนี้จะขยายตัวได้เพียง 3%-5% ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้เดิมที่ 5%-7% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่เปราะบางจากปัญหา Trade war และ Brexit ที่ยังไม่แน่นอน

•    (+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตาม – วันนี้ รฟท.เจรจากลุ่มซีพีหาข้อสรุปโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน, พรุ่งนี้สหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มี.ค. และสัปดาห์หน้าติดตามการประกาศ ใบเหลือง ใบแดง และการประกาศสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของ กกต.