WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aceบล.เออีซี : Daily Focus
 
Market Outlook
วันนี้คาดดัชนี SET ปรับตัวขึ้นต่อจากความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยมีมากขึ้นทั้งจาก Earning Yield Gap และการนำ NVDR เข้ามาคำนวณใน MSCI EM Indexประเมิน SETเคลื่อนไหวในกรอบ 1,645-1,660 จุด
 
Market Factors
(-) ดัชนี DJIA ปรับลง 0.3%DoD หลังตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนปรับลง 1.6%MoM ส่วนดัชนี S&P500 กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มพลังงานปรับลง 0.8% และ 0.7% ตามลำดับและกลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มวัสดุก่อสร้างปรับเพิ่ม0.9% และ 0.4% ตามลำดับ
(+) สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.6% DoDปิดที่ระดับ US$ 62.58/barrel สร้างจุดสูงสุด YTD หลังสหรัฐฯ อาจออกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่ม
(+) กรมการค้าต่างประเทศร่วมเจรจราความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-ตุรกี ครั้งที่ 5 โดยมุ่งเน้นการขจัดอุปสรรคทางการค้า ทั้งในด้านภาษีและที่ไม่ใช่ภาษีคาดช่วยผลักดันมูลค่าการค้าทั้งสองฝ่ายถึงระดับ2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าไทยที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์เช่น พืชเส้นใย ขนสัตว์และไหม สิ่งทอ ยานยนต์และชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์อินทรีย์ พลาสติกและผลิตภัณฑ์จากพลาสติก ยางและผลิตภัณฑ์จากยาง หม้อไอน้ำ เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น(กรุงเทพธุรกิจ)
(watch) จับตาการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียนครั้งที่5 ซึ่งจะมีกำหนดการรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯในวันที่5 เม.ย. 62 ณจ.เชียงรายมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจและความท้าทายด้านนโยบายการรวมตัวและการเปิดเสรีบริการด้านการเงินการระดมทุนเพื่อการบริหารจัดการภัยพิบัติการสร้างภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์และความร่วมมือด้านกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
(+) MSCI นำ NVDR เข้ามาคำนวณใน MSCI EM Indexส่งผลให้มี Flow ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้น โดยMTD พลิกกลับมาซื้อสุทธิ 1,047.7 ลบ.
 
Investment Strategy
สัปดาห์นี้เรามองทิศทางของ SET Index แกว่งในทิศทางบวกด้วย 2 เหตุผล 1) Earning Yield Gap ระหว่าง SET Index และ 10 Year US Government Bond ปรับตัวสูงขึ้น 22.7bipsตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.3495% เข้าใกล้ค่าเฉลี่ย 10 ปี ที่ระดับ 3.5281% ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้นและ 2) MSCI นำ NVDR มาคำนวณใน MSCI EM Index ทำให้น้ำหนักตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ดังนั้นสัปดาห์นี้เราจึงมอง SET Index มีแนวรับ 1,645 จุด และแนวต้าน 1,675 จุด มองเป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้นใน 3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้
กลุ่มนิคมและโลจิสติกส์:กลุ่มนิคมอานิสงส์บวกทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่นแนะนำ AMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,274ไร่, พื้นที่รอการพัฒนาอีกราว 8,837ไร่และที่ดินสำหรับ Commercial Area รวม 1,227 ไร่ โดยตั้งเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ไว้ที่ 1,005 ไร่ จากปีก่อนที่มียอดขายรวม 863 ไร่),WHA(คาดได้แรงหนุนจากธุรกิจนิคมและโลจิสติกส์ที่เติบโตดี โดยบริษัทตั้งเป้าขายที่ดินใหม่ 1,600 ไร่ จากปีก่อนมียอดขาย 1,232 ไร่ หลังล่าสุดเปิดตัวนิคมแห่งใหม่พื้นที่ 2,000 ไร่ ซึ่งมีลูกค้าจีนเตรียมเซ็นสัญญาซื้อแล้วราว 285 ไร่ พร้อมปรับราคาขายและค่าเช่าที่ดินในเขต EEC ขึ้นอีก 10%) นอกจากนี้มองกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ได้อานิสงส์บวกจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แนะนำ BEM (ตั้งเป้าปีนี้ธุรกิจรถไฟฟ้ามีจำนวนผู้โดยสารจะเติบโต 5-7%YoYจากปีก่อนมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 3.1 แสนเที่ยวคน/วันทั้งนี้ตั้งเป้าปี 64จำนวนผู้โดยสารจะแตะ 5-5.5 แสนเที่ยวคน/วัน จากการเปิดเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-หลักสอง ก.ย. 62 และช่วงเตาปูน-ท่าพระ มี.ค. 63 ส่วนปริมาณจราจรบนทางด่วนปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 1-2%YoY ใกล้เคียงปีก่อนที่เติบโต 1.3%YoY) และ WICE(ปี62 คาดกำไรเติบโต30%YoY หนุนด้วยเป้ารายได้ปีนี้เติบโต25%YoY จากการรุกธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ขนส่งข้ามพรมแดนCross-Border Servicesโดยมีเส้นทางหลักคือจีน-South East Asiaบวกกับ แผนขยายNetwork ไปยังตลาดโลจิสติกส์ที่ประเทศจีน)
Turnaround Stock: โดยเลือกหุ้นที่กำไรปี 61 ชะลอลงแต่จะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นในปี 62เลือก TKS (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 29.8%YoY จากงานบัตรเลือกตั้งและการเพิ่มสินค้าและบริการด้านนวัตกรรม + แนวโน้มสดใส นอกจากนี้มี Upside Risk หากได้งาน E-Passport), TWPC (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 146.6%YoY จากแผน Inorganic Growth และสภาวะขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มดีขึ้น, TVDปี62 ตั้งเป้ารายได้รวม 4,800 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YoYแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจของทีวี ไดเร็ค 3,300 ลบ. และจาก 6 บริษัทในเครืออีก 1,500 ลบ. ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์หลักจากการทำ Omni Channel Direct Marketing Experience โดยผสมผสานการทำตลาดผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 
กลุ่มโรงพยาบาล: มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปีนอกจากนี้เตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง), BCH (แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF), BDMS (คาดกำไรปี 62 โต YoYจากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการWellness Clinic รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วง 1Q62 (4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น) ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน)
หุ้นในกลุ่ม SET100ที่มีโอกาสถูก Short Covering
หุ้นกลุ่มที่คาดมีแรงซื้อจากการทำ Short Coveringโดยเรา Screen หุ้นที่ช่วง YTD มีสัดส่วนการถูก Short Sales เทียบกับปริมาณซื้อขายเป็นสัดส่วนที่สูง ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside จากราคาพื้นฐานของ Bloomberg Consensus เลือก IVL (Short Sale/Volume9%, Upside 40.6%), PTTEP (Short Sale/Volume 8.2%, Upside 14.5%) และ TRUE (Short Sale/Volume 5.1%, Upside 22%)
 
AECS - Fundamental and Strategic Team
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary
 
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ประจำวันที่ 3 เม.ย. 2562

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!