WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aceบล.เออีซี : Daily Focus
 
Market Outlook
 
วันนี้คาดดัชนี SET ปรับตัวขึ้นต่อจากความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยมีมากขึ้นทั้งจาก Earning Yield Gap และการนำ NVDR เข้ามาคำนวณใน MSCI EM Indexประเมิน SETเคลื่อนไหวในกรอบ 1,640-1,655 จุด
Market Factors
 
(+) ตัวเลข ศก. เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นหลังสหรัฐฯรายงานตัวเลขดัชนีดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (ISM PMI) เดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น (Actual 55.3 vs Previous 54.2) ส่วนทางจีนรายงานตัวเลขดัชนีดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Caixin/Markit PMI) เดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน (Actual 50.8 vs Previous 49.5)
(watch) จับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนอีกครั้งหลังรองนายกรัฐมนตรีของจีนนายหลิวเหอจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
(+) สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4% DoD ปิดที่ระดับ US$ 61.59/barrel หลังตัวเลขภาคการผลิตเดือน มี.ค.ของทั้งสหรัฐฯ และจีน ฟื้นตัวดีกว่าตลาดคาด
(+) กระทรวงพาณิชย์ รายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน มี.ค.62 อยู่ที่ 102.37 ขยายตัว 1.24% YoY (จากตลาดคาด 0.90%) และขยายตัว 0.41% จากเดือน ก.พ.62 ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (CORE CPI) เดือน มี.ค.62 อยู่ที่ 102.34 ขยายตัว 0.58%YoY และขยายตัว 0.02% MoM (Bangkokbiznews)
(watch) อัพเดท Flow การลงทุนตลาดหุ้นของนลท.ต่างชาติ โดยเดือน ม.ค. 62 ซื้อสุทธิ 6,721.62 ลบ. เดือน ก.พ. 62 ขายสุทธิ 3,410.15 ลบ. เดือน มี.ค.ขายสุทธิ 16,397.37 ลบ. และ MTD ขายสุทธิ 193.95 ลบ.
Investment Strategy
 
สัปดาห์นี้เรามองทิศทางของ SET Index แกว่งในทิศทางบวกด้วย 2 เหตุผล 1) Earning Yield Gap ระหว่าง SET Index และ 10 Year US Government Bond ปรับตัวสูงขึ้น 21.8 bips ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 3.3396% เข้าใกล้ค่าเฉลี่ย 10 ปี ที่ระดับ 3.5281% ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้น และ 2) MSCI นำ NVDR มาคำนวณใน MSCI EM Index ทำให้น้ำหนักตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ดังนั้นสัปดาห์นี้เราจึงมอง SET Index มีแนวรับ 1,640 จุด และแนวต้าน 1,670 จุด มองเป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้นใน 3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้
กลุ่มนิคมและโลจิสติกส์:กลุ่มนิคม อานิสงส์บวกทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่นแนะนำ AMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,274ไร่, พื้นที่รอการพัฒนาอีกราว 8,837 ไร่ และที่ดินสำหรับ Commercial Area รวม 1,227 ไร่ โดยตั้งเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ไว้ที่ 1,005 ไร่ จาก ปีก่อนที่มียอดขายรวม 863 ไร่), WHA (คาดได้แรงหนุนจากธุรกิจนิคมและโลจิสติกส์ที่เติบโตดี โดยบริษัทตั้งเป้าขายที่ดินใหม่ 1,600 ไร่ จากปีก่อนมียอดขาย 1,232 ไร่ หลังล่าสุดเปิดตัวนิคมแห่งใหม่พื้นที่ 2,000 ไร่ ซึ่งมีลูกค้าจีนเตรียมเซ็นสัญญาซื้อแล้วราว 285 ไร่ พร้อมปรับราคาขายและค่าเช่าที่ดินในเขต EEC ขึ้นอีก 10%) นอกจากนี้มองกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ได้อานิสงส์บวกจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ แนะนำ BEM (ตั้งเป้าปีนี้ธุรกิจรถไฟฟ้ามีจำนวนผู้โดยสารจะเติบโต 5-7%YoY จากปีก่อนมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 3.1 แสนเที่ยวคน/วัน ทั้งนี้ตั้งเป้าปี 64 จำนวนผู้โดยสารจะแตะ 5-5.5 แสนเที่ยวคน/วัน จากการเปิดเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-หลักสอง ก.ย. 62 และช่วงเตาปูน-ท่าพระ มี.ค. 63 ส่วนปริมาณจราจรบนทางด่วนปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 1-2%YoY ใกล้เคียงปีก่อนที่เติบโต 1.3%YoY) และ WICE (ปี 62 คาดกำไรเติบโต 30%YoY หนุนด้วยเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 25%YoY จากการรุกธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ขนส่งข้ามพรมแดน Cross-Border Services โดยมีเส้นทางหลักคือจีน-South East Asiaบวกกับ แผนขยาย Network ไปยังตลาดโลจิสติกส์ที่ประเทศจีน)
Turnaround Stock: โดยเลือกหุ้นที่กำไรปี 61 ชะลอลงแต่จะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นในปี 62 เลือก TKS (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 29.8%YoY จากงานบัตรเลือกตั้งและการเพิ่มสินค้าและบริการด้านนวัตกรรม + แนวโน้มสดใส นอกจากนี้มี Upside Risk หากได้งาน E-Passport), TWPC (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 146.6%YoY จากแผน Inorganic Growth และสภาวะขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มดีขึ้น, TVDปี 62 ตั้งเป้ารายได้รวม 4,800 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YoYแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจของทีวี ไดเร็ค 3,300 ลบ. และจาก 6 บริษัทในเครืออีก 1,500 ลบ. ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์หลักจากการทำ Omni Channel Direct Marketing Experience โดยผสมผสานการทำตลาดผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
กลุ่มโรงพยาบาล: มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปีนอกจากนี้เตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง), BCH (แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF), BDMS (คาดกำไรปี 62 โต YoYจากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการWellness Clinic รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วง 1Q62 (4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น) ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน)
หุ้นในกลุ่ม SET100ที่มีโอกาสถูก Short Covering
 
หุ้นกลุ่มที่คาดมีแรงซื้อจากการทำ Short Covering โดยเรา Screen หุ้นที่ช่วง YTD มีสัดส่วนการถูก Short Sales เทียบกับมูลค่าซื้อขายเป็นสัดส่วนที่สูง ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside จากราคาพื้นฐานของ Bloomberg Consensus เลือก IVL (Short Sale/Value 9%, Upside 40.6%), PTTEP (Short Sale/Value 8.5%, Upside 14.5%) และ TRUE (Short Sale/Value 5.1%, Upside 22%)
 
 
 
 
 
 
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!