ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ : SET Index ดีดตัวขึ้น +5.99 จุด (+0.37%) ปิดที่ 1,644 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท จากปัจจัยบวก MSCI  อนุมัติให้รวม NVDR ไว้ในการคำนวณน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย ประกอบกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปมาก  ส่งผลให้มีแรงซื้อในกลุ่ม Fin, Tourism และ ICT หนุนให้ดัชนีดีดตัวขึ้น สำหรับนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อย 194 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,622  ล้านบาท และ Net Long TFEX 5,806 สัญญา

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : มุมมองเป็นบวกคาดดัชนีปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,650 – 1,655 จุด เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหลังตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค.ของทั้งสหรัฐและจีนปรับตัวขึ้น (สหรัฐ 55.3 และ จีน 50.8) รวมถึงความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนเม.ย. นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือนเหนือ 61 US/Barrel ตอบรับสหรัฐคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านและเวเนซุเอลาจะเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มพลังงานอีกด้วย อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะมีแรงขายสลับให้ดัชนีอ่อนตัวลงจากความไม่แน่นอนของภาวะการเมืองภายในประเทศ

 

กลุ่มพลังงาน (PTTEP ,TOP, PTTGC, SPRC) คาดงบ 1Q19 เติบโตจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และกลุ่มโรงกลั่นค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นรวมถึง Stock gain

AMATA, STEC, BEM และ BTS ได้รับอานิสงส์การเลือกตั้งหนุนต่อความเชื่อมั่นการลงทุน

กลุ่มที่คาดว่างบ 1Q19F จะเติบโตขึ้น BDMS, BCH, EA และ BGRIM

กลุ่มที่ได้ประโยชน์ MSCI อนุมัติรวม NVDR ไว้ในการคำนวณน้ำหนักการลงทุน SCC, BDMS, CPN , LH , BANPU ,INTUCH, RATCH, CENTEL และ DTAC

หุ้นแนะนำวันนี้ : EA (ปิด 48.75 ซื้อ/เป้า 63) คาดกำไรสุทธิ 1Q19 พุ่งทำ All time high ต่อเนื่องรับข่าวดีโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมานเริ่ม COD หลายโครงการ อาทิ หนุมาน 1 และ 8 กำลังการผลิตรวม 90MW เริ่ม COD 25 ม.ค., หนุมาน 5 จำนวน 48 MWเริ่ม COD 22 มี.ค.และ ล่าสุด หนุมาน 9 จำนวน 42 MW เริ่ม COD 30 มี.ค., PTTEP(ปิด 127 ซื้อ/เป้า 150) ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบพุ่งแรง ขณะที่ PTTEP มี Growth story จากการเข้าซื้อ Murphy oil ในมาเลเซียหนุนปริมาณขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10-15% ต่อปี

 

Top picks ปี 2Q19 : CPALL, IVL, MTC, SPRC และ TOP

 

KSS report วันนี้ : Property sector (Top pick: QH และ SPALI), Thailand Stategy: Yield Inversion - Keep Calm and Carry On, Thailand Stategy: Global growth shows sign of stabilizing

(+) ดาวโจนสพุ่งแรงกว่า 330 จุด คลายกังวเศรษฐกิจชะลอตัวหลังจีนและสหรัฐรายงานดัชนีภาคการผลิตออกมาดีเกินคาด : ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 330 จุด (+1.27%) ปิดที่ระดับ 26,258 จุด เนื่องจาก 1) นักลงทุนคลายกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจาก Bond yield 10 ปีของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ขณะที่จีนและสหรัฐรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตดีเกินคาด โดย Caixin รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน มี.ค.ฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 50.8 จาก 49.9 ในเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน (ค่าสูงกว่า 50 สะท้อนถึงภาคการผลิตที่แข็งแกร่ง) ส่วนสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐในเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 55.3 จาก 54.2 ในเดือน ก.พ.สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 54.5 และ 2) คลายกังวลต่อปัญหา Trade war หลังจากจีนประกาศขยายเวลาการระงับเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วน ให้กับสหรัฐออกไปอีกหลังถึงกำหนดในวันที่ 1 เม.ย.19

(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งทะลุ 61$/bbl ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ตอบรับกลุ่ม OPEC ผลิตน้ำมันดิบลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.45 ดอลลาร์ (+2.4%) ปิดที่ 61.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จาก 2 ปัจจัยบวกสำคัญ คือ 1) คลายกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวตามดัชนีดาวโจนส์ตอบรับดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนและสหรัฐฟื้นตัวขึ้นดีกว่าที่ตลาดคาด และ 2) OPEC รายงานการผลิตน้ำมันดิบในเดือน เม.ย.ลดลงสู่ระดับ 30.385 ล้านบาร์เรลต่อวันจาก 30.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน มี.ค. นับเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มธุรกิจน้ำมัน เราเลือก PTTEP และ TOP เป็น Top pick ของกลุ่ม

(-) สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ – แบงก์ชาติส่งสัญญาณตรวจสอบสินเชื่อเงินทอนในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์คล้ายเกณฑ์คลุมสินเชื่อ LTV ในภาคอสังหาฯ – ผู้ว่าแบงก์ชาติเปิดเผยว่าปัจจุบัน ธปท.เริ่มเห็นสัญญาณผิดปกติที่เกิดขึ้นในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และ ธปท.จะเริ่มเข้าไปตรวจสอบผู้ประกอบการสินเชื่อรถยนต์ในตลาด หลังพบกรณีการให้สินเชื่อเงินทอนเกิดขึ้นคล้ายคลึงกับสินเชื่อบ้าน และมีโอกาสก่อให้เกิดหนี้เสียซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นปัจจัยลบต่อเสถียรภาพทางการเงิน การส่งสัญญาณเตือนของแบงก์ชาติต่อประเด็นดังกล่าวจะเป็นผลลบต่อ Sentiment การลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิกลุ่มธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ (TCAP, TISCO, และ KKP)