- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 01 April 2019 13:26
- Hits: 2297
บล.กรุงศรี : Money Wizard
ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ : SET Index ดีดตัวขึ้น +4.40 จุด (+0.27%) ปิดที่ 1,638 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 3.9 หมื่นล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มีความคืบหน้าซึ่งคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงได้ในภายในเดือนเม.ย. นอกจากนี้ยังได้แรงซื้อดักผล MSCI อนุมัติรวม NVDR ไว้ในการคำนวณน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,326 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 353 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX 4,518 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : มุมมองเป็นบวกคาดดัชนีปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,645 – 1,650 จุด ตอบรับความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยถัดไปช่วงต้นเดือนเม.ย.จีนจะเดินทางเพื่อหารือที่สหรัฐซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปการเจรจาการค้าภายในเดือนเม.ย. ประกอบกับตัวเลข PMI ภาคบริการของจีนเดือนมี.ค.ขยายตัวขึ้นสู่ 54.8 ส่งผลให้นลท.คลายความกังวลภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นเหนือ 60 US/Barrel จะเป็นแรงหนุนต่อกลุ่มพลังงาน รวมทั้ง MSCI อนุมัติให้รวม NVDR ไว้ในการคำนวณน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยนั้นเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางการลงทุนในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามดัชนีอาจมีแรงขายสลับในจังหวะที่ดีดตัวขึ้นจากภาวะการเมืองภายในที่ยังไม่ชัดเจน
กลยุทธ์การลงทุน :
• กลุ่มที่ได้ประโยชน์ MSCI อนุมัติรวม NVDR ไว้ในการคำนวณน้ำหนักการลงทุน SCC, BDMS, CPN , LH , BANPU ,INTUCH, RATCH, CENTEL และ DTAC
• กลุ่มโรงกลั่น (TOP, PTTGC, SPRC) คาดงบ 1Q19 เป็นบวกจากค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นและ Stock gain
• AMATA, STEC, BEM และ BTS ได้รับอานิสงส์การเลือกตั้งหนุนต่อความเชื่อมั่นการลงทุน
• กลุ่ม Defensive stock ในช่วงตลาดผันผวน BDMS, BCH, TTW, EA และ BGRIM
หุ้นแนะนำวันนี้ : CPN (ปิด 73.25 ซื้อ/เป้า 93) ราคาลดลงสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอใน 4Q18 ไปแล้วมองเป็นโอกาสซื้อคาดงบ 1Q19 ที่พลิกเติบโตทั้ง qoq และ yoy ขณะที่ภาพรวมทั้งปีโตต่อเนื่องอีก 15% จากการเปิดโครงการใหม่และปรับขึ้นค่าเช่า นอกจากนี้ CPN ยังเป็นอีกหนึ่งหลักทรัพย์ที่คาดว่า MSCI จะปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในการคำนวนรอบใหม่, JMT (ปิด 14.1 ซื้อ/เป้า 15.7) คาดแนวโน้มกำไรสุทธิในปีนี้จะยังพุ่งทำ All time high ได้ในทุกไตรมาสจากรายได้ของการเรียกเก็บหนี้ที่เพิ่มขึ้นตามพอร์ตหรือฐานลูกหนี้ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีพอร์ตหนี้ในการบริหารทั้งหมด 1.4 แสนล้านบาท สามารถสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องไปได้อีกอย่างน้อย 12 ปี
Top picks ปี 2Q19 : CPALL, IVL, MTC, SPRC และ TOP
KSS report วันนี้ : TISCO (ปิด 88.25 ซื้อ /เป้า 95), Corporate Day
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
• (+) คาด SET Index เดือน เม.ย. จะฟื้นตัวในรูปแบบ Sideway up บนกรอบดัชนีที่ระดับ 1,630-1,700 ข่าว MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย, Fed ไม่ขึ้นดอกเบี้ยอีกปีนี้จะช่วยลดแรงกดดันจากปัญหาการเมืองในประเทศ Top pick – BDMS, CPN, EA, TOP และ TWPC : SET Index เดือน มี.ค. ลดลง 0.9% แต่ดีกว่าพอร์ตลงทุนของเราที่ให้ผลตอบแทน -1.4% แนวโน้มเดือน เม.ย. คาด SET Index จะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นในรูปแบบ sideway up แม้โดยภาพรวมจะถูกกดดันจากปัญหาการเมืองในประเทศแต่จะถูกชดเชยด้วยข่าว MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย, Fed ส่งสัญญาณไม่ขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้ และ Trade talk จีนกับสหรัฐมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามบรรยากาศการซื้อขายจะยังไม่คึกคักและการฟื้นตัวของดัชนีจะเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากเดือนนี้มีวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และมีบริษัทจดทะเบียนขึ้นเครื่องหมาย XD รวมกว่า 90 บริษัท เราคงกรอบ SET Index เดือนนี้ที่ระดับ 1,630-1,700 จุด ตามเดิม กลยุทธ์ยังเป็น Selective buy เน้นหุ้นที่งบ 1Q19 เติบโตแข็งแกร่ง และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ กลุ่มโรงกลั่น, โรงไฟฟ้า รวมถึงหุ้นที่ได้รับเข้าคำนวณและเพิ่มน้ำหนักในดัชนี MSCI รอบใหม่ Top pick เดือน เม.ย. BDMS, CPN, EA, TOP และ TWPC
• (-) Brexit ยังต้องลุ้น ล่าสุดรัฐสภาอังกฤษลงมติคว่ำร่าง Brexit ของนางเทเรซา เมย์เป็นครั้งที่ 3 ทำให้อังกฤษเสี่ยงที่จะเกิด Brexit แบบไร้ข้อตกลง : สถานการณ์ที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ Brexit เริ่มเห็นสัญญาณตึงเครียดมากขึ้น เมื่อล่าสุด (29 มี.ค. 19) รัฐสภาอังกฤษลงมติด้วยคะแนนเสียง 344 ต่อ 286 เสียงคว่ำร่างข้อตกลง Brexit ของนางเทเรซาร์ เมย์ เป็นครั้งที่ 3 นั่นหมายความว่าอังกฤษมีสิทธิที่จะขยายเวลา Brexit ออกไป ได้เพียงแค่วันที่ 12 เม.ย. 19 นี้เท่านั้น (เดิม 29 มี.ค. 19) ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่อังกฤษจะเกิด Brexit แบบไร้ข้อตกลง (No deal) หรือ Hard brexit ซึ่งตลาดมองว่าเป็นแนวทางที่เลวร้ายสุด (Worst case Scenario) เพราะจะส่งผลลบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของอังกฤษ รวมถึงเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศสมาชิกในสหภาพยุโรป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าสหภาพยุโรปจะขยายเวลา Brexit ให้กับอังกฤษอีกหรือไม่ โดยมีกระแสข่าวว่าสหภาพยุโรปจะจัดประชุมเพื่อหารือกับประเด็นนี้อีกครั้งในวันที่ 10 เม.ย. 19
• (+) MSCI ประกาศอนุมัติให้รวม NVDR ไว้ในการคำนวณส่งผลให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 3% จากเดิม 2.5% : สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา MSCI ประกาศอนุมัติให้รวม NVDR ไว้ในการคำนวณน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย ส่งผลให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยในดัชนี MSCI EM เพิ่มขึ้นเป็น 3% จากเดิม 2.5% ซึ่งจะมีมูลค่าเงินลงทุนไหลเข้าประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท มีหุ้นที่จะถูกนำเข้าคำนวณใหม่ทั้งหมด 4 หลักทรัพย์ คือ CENTEL, DTAC, INTUCH และ RATCH ส่วน MTC จะถูกปรับออก นอกจากนี้ยังมีหุ้นที่อยู่ในดัชนีอยู่แล้วและถูกเพิ่มน้ำหนักการลงทุน อาทิ SCC, BDMS, CPN, BANPU และ LH ส่วนหุ้นที่ถูกลดน้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธนาคารและ Finance อาทิ SCB, TISCO, TCAP, KKP, SAWAD และ THANI