- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 29 March 2019 14:16
- Hits: 1958
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ขึ้นต่อในกรอบจำกัด ปัจจัยแวดล้อมดีขึ้นเล็กน้อย
KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์สิ้นเดือน มี.ค. บวกต่อกรอบจำกัด... หลังเมื่อวานนี้หุ้นไทยไซด์เวย์ก่อนฟื้นเล็กน้อยช่วงบ่าย ตามข่าว กกต. แถลงผลการเลือกตั้ง 100% (แต่ยังคงเป็นผลไม่เป็นทางการ เพราะต้องรอใบเหลือง ใบแดง ใบดำ ตามมาอีก) ซึ่งตัวเลขชี้ว่าพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนป๊อปปูล่าโหวต 8.4 ล้านเสียง สูงกว่าพรรคเพื่อไทย ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศเมื่อคืนนี้เป็นบวกเล็กน้อย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น หลังสำนักข่าว CNBC รายงานว่าการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน มีความคืบหน้าไปอีก และในสัปดาห์หน้าเจ้าหน้าที่ของจีนจะเดินทางไปยังสหรัฐฯ เพื่อเจรจาต่อ อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่าปัจจัยต่างประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูงจนถึงต้นสัปดาห์หน้า เนื่องจาก i) ปัญหา Brexit ยังคงไม่ได้ข้อสรุปใดๆ และ ii) ช่วงนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจโลกที่สำคัญๆ ของเดือน มี.ค. ออกมา อาจส่งผลให้ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกลับมาได้ทุกเมื่อ เราจึงมองว่าทางขึ้นของ SET มีจำกัด ส่วนในช่วงบ่ายวันนี้ ธปท. จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของเดือน ก.พ. ซึ่งจะเป็นชุดข้อมูลถัดไปซึ่งนักเศรษฐศาสตร์จะนำมาประเมิน GDP ไทยไตรมาส 1/2562
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร STEC*, RS*, ROBINS*
STEC* (เป้าพื้นฐาน 32 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 24.2 บาท และ 23.8 บาท / แนวต้าน 25 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 23.3 บาท) 2) ประเมินการลงทุนภาครัฐฯเดินหน้าประมูลต่อ หลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปได้ด้วยดี โดยฝ่ายวิจัยฯประเมินการเซ็นสัญญาโครงการใหม่ๆ จะเกิดขึ้นใน 2Q62 - 3Q62 หลังมีรัฐบาลใหม่ 3) Momentum ของกำไรยังเร่งตัวขึ้นจากการรับรู้รายได้แบบ S-curve ที่ชันขึ้นของโครงการรถไฟฟ้า (สายสีส้ม ชมพู และเหลือง)
RS* (เป้าพื้นฐาน 25 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 18.4 บาท และ 18.2 บาท / แนวต้าน 19.0 บาท และแนวต้านถัดไปที่ 20.5 บาท (Stop loss 17.5 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้ม Earniongs momentum ใน 1H62 จะโตต่อเนื่องจาก ยอดขายสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม โดยเพิ่มช่องทางขายผ่านไทนรัฐทีวี (เริ่ม มี.ค.นี้) โดยคาดรายได้จะเพิ่มขึ้นจากช่องทางขายใหม่นี้ราว 400 ล้านบาท (จากเดิมคาดรายได้จากการขายสินค้าความงามและสุขภาพ 2.7 พันล้านบาท)
ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 77 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 57.5 บาท / แนวต้านแรก 59 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสรีบาวด์ทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ?62 บาท (Stop loss 54 บาท) 2) แม้ฝ่ายวิจัยฯจะทำการปรับลดสมมติฐานอัตราการเติบโตของยอดขายและอัตรากำไรลงสะท้อนมุมมองจากการประชุมนักวิเคราะห์ไปแล้ว (บทวิเคราะห์วันที่ 27 ก.พ.) แต่ประมาณการกำไรปี 2562 ยังคาดว่าจะเติบโตราว 12% YoY (ปี 2561 โตเพียง +7% YoY) และประเมินว่าราคาหุ้นที่ปรับลงมาได้สะท้อนประเด็นดังกล่าวไปแล้ว 3) PE ปี 2562 = 19.7 เท่า ต่ำกว่าระดับ -1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ 20.7 เท่า
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
หุ้นเด่น Quantamental: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้เลือก CKP* (Stop loss 4.6 บาท), TK (Stop loss 9.3 บาท) / สำหรับนักลงทุนที่รับเสี่ยงได้น้อย (เน้นที่ปัจจัย Value เลี่ยงปัจจัย Momentum เพื่อเลี่ยงความเสี่ยง Momentum Crash) เลือก SPRC* (Stop loss 9.5 บาท), ROJNA (Stop loss 4.7 บาท), BJCHI (Stop loss 1.8 บาท)
หุ้นมีข่าว
(+) รฟท. เปิดประมูล "ไฮสปีดไทย - จีน " อีก 3 สัญญารวด วงเงินรวม 3.4 หมื่นล้านบาท(www.thebangkokinsight.com) ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อความดังกล่าว รฟท.ได้เปิดจำหน่ายเอกสารประกวดราคาเมื่อวานนี้ 3 สัญญา วงเงินรวม 3.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ รฟท. ได้มีการขายเอกสารประกวดราคาไปแล้ว 2 สัญญาซึ่งมีกำหนดในการยื่นประมูลในวันที่ 11 เมษายน 2562 ในส่วนของ 3 สัญญาที่เปิดจำหน่ายเอกสารประกวดราคานั้นมีกำหนดในการยื่นประมูลในวันที่ 14 เมษายน เราคาดว่าน่าจะสามารถลงนามสัญญาได้ใน 3Q62 โดยผู้รับเหมารายใหญ่ ทั้ง CK*, STEC* , ITD และ UNIQ จะเข้าซื้อซองในครั้งนี้ ในส่วนของ 7 สัญญาที่เหลือกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาแก้ไขราคากลางและจะอัพโหลดขึ้นเวปไซต์ของรฟท. เพื่อรับฟังความคิดเห็น ในเดือนเมษายนนี้
(+) GULF* เล็งประมูลงานอื้อมั่นใจรายได้ปีนี้ 3.3 หมื่นล. (กรุงเทพธุรกิจ) ผู้บริหาร "กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี" คาดรายได้ปีนี้แตะ 3.3 หมื่นล้าน หลังเตรียมรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ อีก 6 โครงการในปีนี้ ขณะหุ้นพุ่งต่อเนื่อง เผยตั้งแต่ต้นปีปรับเพิ่มแล้ว 17.5% ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่
(+) TK บุกสินเชื่อเช่าซื้อต่างประเทศ (กรุงเทพธุรกิจ) ห่วงกำลังซื้อในประเทศหด มุ่งขยายสาขานอกเท่าตัว "ฐิติกร" ตั้งเป้ารายได้ ปีนี้โต 6% รับอานิสงส์สินเชื่อเช่าซื้อ ต่างประเทศโตกว่า 100% แตะระดับ 1.8 ล้าน หลังเร่งขยายสาขาใหม่กว่า 1 เท่าตัว พร้อมลุย Micro Finance ในเมียนมาคาดสรุปไตรมาส 2 มองตลาดในประเทศทรงตัว กำลังซื้อภาคเกษตรอ่อนแอ รอประเมินสถานการณ์อีกครั้งหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่
(+) BANPU* รุกโซลาร์ฟาร์มเวียดนาม ปีนี้ราคาถ่านหิน 95 เหรียญ/ตัน (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) บ้านปูเตรียมสรุปดีลโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่เวียดนาม 400 เมกะวัตต์ คาดชัดเจนในไตรมาส 2 นี้ และเร่งซื้อแหล่งก๊าซฯ ในสหรัฐฯ คาดได้ข้อสรุปครึ่งหลังปี 62 ส่วนทิศทางราคาถ่านหินในปีนี้อ่อนตัวลง เล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 85-95 เหรียญสหรัฐ/ตัน
(0) CAZ โต้ข่าวสภาพคล่องต่ำหนี้สินพุ่งจากเงินมัดจำ (ทันหุ้น) CAZ รูดเฉียดฟลอร์ เจอมือดีปล่อยข่าวลือขาดสภาพคล่อง หนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน ชี้หนี้สินที่สูง 830 ล้านบาท เป็นเงินมัดจำที่ได้จากลูกค้าถึง 420 ล้านบาท แถมได้เงินไอพีโอมาหนุนอีก 300 ล้านบาท ยืนยันเดินหน้างานกลุ่มปตท. ต่อเนื่อง ผู้ถือหุ้นใหญ่กอดหุ้นครบ ลั่นชัดปีนี้ยังโตแรง
(+) LH* จ่อคลอดหุ้นกู้ 6 พันล.ยอดขายมี.ค.กลับมาดี (ทันหุ้น) LH* เล็งคลอดหุ้นกู้ 5-6 พันล้านบาท เดือนเมษายน หวังลดต้นทุนการเงินต่ำจากปัจจุบัน 2.4% เผยยอดขายมีนาคม 2562 ดีขึ้น เปิด 4 โครการแล้วมั่นใจปีนี้ยอดขายตามเป้า 3.3 หมื่นล้านบาท เตรียมขายเซ็นเตอร์พ้อยท์สุขุมวิท ทองหล่อ เข้ากอง LHHOTEL ตามแผน
(+) RWI โชว์คว้าออเดอร์ งานรถไฟความเร็วสูง ดันดีมานด์ลวดเหล็กโต (ข่าวหุ้น) RWI คว้าออเดอร์รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย เริ่มก่อสร้างช่วงแรกแล้ว กรุงเทพฯ-โคราช ระยะทาง 253 กม. เชื่อมั่นโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่เดินหน้า หนุนให้ดีมานด์ลวดเหล็กโตต่อเนื่อง ปั๊มยอดขายปีนี้โตกว่า 44,000 ตัน
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ZEN (เป้า Consensus 16.7 บาท) ประเมินแนวรับ 14.7 บาท / แนวต้าน 15.1 - 15.4 บาท (Stop loss 14.7 บาท)
PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.8 บาท) ประเมินแนวรับ 6.3 บาท / แนวต้าน 6.6 - 6.9 บาท (Stop loss 6.2 บาท)
KTB* (เป้าพื้นฐาน 22.4 บาท) ประเมินแนวรับ 18.9 บาท / แนวต้าน 19.4 - 19.6 บาท (Stop loss 18.6 บาท)
AMATA* (เป้าพื้นฐาน 25 บาท) ประเมินแนวรับ 20.8 บาท / แนวต้าน 21.7 (Stop loss 20.8 บาท)
OSP (เป้า Consensus 27.9 บาท) ประเมินแนวรับ 26.5 บาท / แนวต้าน 27.5 - 29.0 บาท (Stop loss 25.5 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
PTTEP* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 145 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 1Q62 = 1.21 หมื่นล้านบาท (-10% YoY, +36% QoQ) การลดลงแบบ YoY และเพิ่มขึ้นแบบ QoQ สาเหตุหลักๆมาจากอัตราแลกเปลี่ยน หากตัดรายการดังกล่าวออกกำไรปกติจากการดำเนินงานไตรมาสนี้ (EBT) จะลดลง -10% QoQ เพราะปริมาณขายที่ลดลง ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" และมี Upside การปรับประมาณการฯจากการซื้อกิจการที่ยังไม่ได้รวมในประมาณการฯปัจจุบัน (มีโอกาสปรับเป้าหมายขึ้นราว 7 - 9 บาท)
BH* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 200 บาท ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการกำไรปี 2562 ลง -4.6% เนื่องจากประเมินว่ามีโอกาสที่จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเครือ BH* จะเติบโตชะลอตัวลง .