WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม
 
Sideways    
          เมื่อวานหุ้นไทย Sideways ในกรอบแคบ แต่ได้แรงซื้อหุ้น รายตัว เช่น GULF VGI TQM ปรับขึ้นได้ดีกว่าดัชนีฯ 
          วันนี้คาดหุ้นไทย Consolidated ในกรอบ 1622-1634 จุด หุ้นไทยยังคงอยู่ในโหมดเฝารอความชัดเจน จาก การเมืองในประเทศกับการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ ตลาดหุ้นสหรัฐจากนี้ไปมีความเสี่ยงดิ่งลงต่อเนื่องตามที่ MS คาดการณ์ อาจมีผลลบต่อจิตวิทยาตลาด แต่เชื่อว่า หุ้นไทยจะรับความผันผวนของตลาดหุ้นโลกได้ดี และมี โอกาสที่จะ Outperform ตามการจัดสรรพอร์ตลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวในตลาดพัฒนาแล้ว
 
What to watch:    
          (0) การเมือง: เมื่อวาน พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวจับมือ 6 พรรค ร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยระบุเสียง สส.สนับสนุน 255 เสียง เกินกึ่งหนึ่ง 
          (+) กลุ่มบ้านฯ ธปท.ขอดูผลกระทบ เกณฑ์ LTV ใหม่ ภายใน 90 วัน / เราเชื่อว่าการชะลอตัวของภาค อสังหาฯ จะมีผลให้ ธปท. ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ใหม่ 
          (*/+) รมต.คลังอาเซียน เร่งลงนาม 4 สัญญา หนุนไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุน ลุยเปิดเสรีธุรกิจหลักทรัพย์พร้อมเปิดทางให้ต่างชาติถือหุ้น 100% / การผลักดันตลาดหุ้นไทยให้เป็นศูนย์กลางในภูมิภาค ยิ่งปิดโอกาสเรื่องการเก็บภาษีกำไรจากการค้าหุ้น      
          (+) ประธาน ECB ระบุพร้อมชอละการขึ้นดอกเบี้ยออกไปอีก หลังดอกเบี้ยแท้จริงในยุโรปยังติดลบ 
          (*/0) รัฐสภาอังกฤษลงมติเปลี่ยนวัน Brexit เป็น 12 เม.ย.หรือ 22 พ.ค. ขณะคว่ำข้อเสนอทางเลือกอื่นทั้งหมด 
          (*) สหรัฐฯขาดดุลการค้าลดลงเหลือ US$5.11 หมื่นล้าน ดีกว่าคาดที่ -US$5.7 หมื่นล้าน จากเดือนก่อน -US$5.9 หมื่นล้าน    
 
หุ้นแนะนำ 
          AOT คาดจะมีความคืบหน้าสำหรับการ ประมูล Duty free เร็วๆนี้  
          EA เซ็นสัญญา ขายรถยนต์ไฟฟาให้สหกรณ์ แท็กซี่ 3.5 พันคัน คาดวิ่ง ต้นปีหน้า 
          PRM  ค่าระวางเรือน้ำมัน ทะยานขึ้นหลัง สหรัฐฯ แอลจีเรียส่งออกน้ำมันเพิ่ม ด้านจีนนำเข้าสูงติดต่อกัน 5 เดือนแล้ว MS คาดหนุนอุปสงส์เรือน้ำมันพุ่งขึ้นต่อเนื่อง   
 
รายงานวันนี้ 
 
BGRIM: Sunshine after the storm
          เรามองว่าไตรมาสที่แย่ที่สุดของ BGRIM ได้ผ่านไปแล้ว และคาดกำไรจะเริ่มฟื้นตัวใน 2Q19 จากอัตรากำไรที่ฟื้นตัวตามราคาแก๊สที่ลง เรายังคาด BGRIM จะมีกำไรเติบโตที่สุดในกลุ่มสำหรับปีนี้หนุนโดยอัตรากำไรที่ดีขึ้น (ราคาแก๊สลง) และกำลังการผลิตที่ขยายตัว และยังมีอัพไซด์จากการปรับขึ้นค่า Ft และโอกาสในการลงทุนใหม่ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 35 บาท   
 
CPALL: The best retail play for 2Q19 
          เรามองว่าความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นค่าแรงได้สะท้อนไปในราคาหุ้นแล้ว แต่กำไรที่คาดจะออกมาแข็งแกร่งใน 2Q19 ยังไม่ได้ถูกยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น โดยปกติไตรมาส 2 จะเป็น High season จากหน้าร้อน และในปีนี้มีปรากฏการณ์ El Ni-o ที่จะทำให้ร้อนนานกว่าปกติ ซึ่งอาจะลากยาวไปถึงปลายไตรมาส อีกทั้งในปีที่แล้วเป็นปีที่ฐานต่ำเนื่องจากมีฝนตกตั้งแต่ใน เม.ย. และฐานต่ำต่อเนื่องไปใน 3Q18 จากการทำโปรโมชั่นแสตมปที่ไม่ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีเท่าไรนัก ทำให้ปีนี้คาดจะเห็นการเติบโตที่ดีต่อเนื่องใน 2Q-3Q19 ประเด็นค่าแรงเรามองว่ากว่าจะมีการปรับขึ้นก็คือใน 2Q20 และปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 82 บาท 
 
Quantitative Strategy: ดัชนีระยะกลางแย่ลง 
          ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยปรับลง 0.3% สอดคล้องกับที่เราคาดการณ์ เราเชื่อว่าโอกาสที่ตลาดจะยังคงถูกกดดันในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้ายังคงมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจาก 1) ค่าความผันผวนของตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะสูงขึ้นทะลุเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าโอกาสที่ตลาดจะถูกเทขายอีกมีมากขึ้น 2) ดัชนีชี้วัดความต้องการรับความเสี่ยง (Risk Demand Index) เข้าสู่โซน Pessimistic ดังนั้นนักลงทุนมักจะอ่อนไหวหากมีข่าวร้ายเข้ามาในตลาด ซึ่งจะทำให้ตลาดผันผวนมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ดัชนีชี้วัดโมเมนตัมระยะสั้น (Short-term Momentum) ได้ปรับตัวเข้าสู่แดนลบและยังมีโอกาสปรับลงได้อีกมากจนกว่าถึงระดับ Oversold 3) ดัชนีชี้วัดภาพระยะกลางของตลาดแย่ลงเนื่องจากทั้งดัชนี Medium-term Bull-to-Bear และบารอมิเตอร์วัดความเสี่ยง (Risk Barometer) อ่อนแอลง กล่าวโดยสรุป เครื่องมือชี้วัดเชิงปริมาณแย่ลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มจะยังคงผันผวนในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า หุ้นที่เพิ่มเข้าพอร์ต: AEONTS, หุ้นที่ถอดออกจากพอร์ต: CENTEL, M 
 
หุ้นมีข่าว/ประเด็นข่าวที่มีผลต่อตลาด 
          (+) EA  ชูบริษัทย่อยเข้าเซ็น MOU กับสหกรณ์แท็กซี่ จองสิทธิซื้อ MINE SPA1 3,500 คัน เตรียมจำหน่ายสมาชิก ให้บริการรถแท็กซี่ EV-เริ่มวิ่งต้นปีหน้า (ที่มา ASPEN)
          
           คาดว่า ค่าระวางเรือน้ำมัน จะยังคงปรับขึ้นต่อเนื่อง (หนุนราคาหุ้น PRM ขึ้นตาม)  ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ข้อตกลงในการเลิกใช้น้ำมันเตาของอุตสาหกรรมเดินเรือ หรือ IMO 2020 จะหนุนความต้องการใช้เรือบรรทุกน้ำมันดิบเพื่อ สนับสนุนอุปสงค์การกลั่นน้ำมันใสขั้นกลาง ที่เพิ่มขึ้น 
          2) มูลค่ากิจการเรือน้ำมัน ยังคงให้ Discount 10% (EV/Fleet value) เมื่อเทียบราคาตลาด เนื่องจาก ตลาดยังกังวลต่อทิศทาง ปริมาณน้ำมันดิบที่อาจจะลดลง ตามการปรับลดกำลังการผลิตของ OPEC ไปจนถึงปลายปีนี้ ในการประชุมเดือน มิย. และ กังวลอุปทานเรือใหม่ที่จะออกมาตามตารางการผลิตซึ่ง MS มองเป็น Upside surprise ต่อราคาหุ้นเรือ Oil tanker (ดูรายงาน Tactical view ของ BLS research)
          (+) กลุ่มบ้าน: ธปท.จ่อปรับเกณฑ์แอลทีวี รอดูผลกระทบ 90 วัน หลังมาตรการบังคับใช้วันที่ 1 เม.ย.นี้ หากยังพบการเก็งกำไรในส่วนนี้อยู่ ก็พร้อมเพิ่มระดับความเข้มข้นของมาตรการให้เข้มงวดมากขึ้น แต่ถ้ากระทบกับผู้กู้ที่ต้องการอยู่อาศัยจริง ก็พร้อมปรับลดความเข้มงวดของเกณฑ์ลง ซึ่งเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง (ที่มา เดลินิวส์) / เรามองเป็นบวกต่อกลุ่มอสังหาฯ เนื่องจากสต็อกที่อยู่อาศัยที่ยังเหลือเป็นจำนวนมาก อาจหนุนให้ ธปท.ผ่อนเกณฑ์ หากการใช้มาตรการดังกล่าว กดดันภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ    
          (+) PTG  เดินหน้าลุยกลุ่ม non-oil ขายแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย-คอฟฟี่เวิลด์ (ที่มา แนวหน้า)
 
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน  
 
Trend Forecasting 
 
SET Index ปิด 1629.40 (-0.18%) มูลค่าการซื้อขาย 3.8 หมื่นล้านบาท  
 
แนวโน้มระยะสั้นมอง
          SET Index แนวรับ 1,620 แนวต้าน 1,640 / SET100 รับ 2,380 ต้าน 2,400 BSET100 รับ 10.42 ต้าน 10.50 / BMSCITH รับ 12.30 ต้าน 12.40
 
หัวข้อ: "สแกนกลุ่มอุตสาหกรรมขึ้นลงในรอบ 1 เดือน"
 
กลยุทธ์เทคนิค:
          โครงสร้างตลาดแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ ขณะที่ผลตอบแทนจากการลงทุนในรอบ 1 เดือน ปรับตัวลง 1.35% เนื่องจากนักลงทุนรอดูชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่  ภาพรวมกลุ่มอุตสาหกรรมมีเดีย ไฟแนนซ์ โรงพยาบาลจัดอยู่ในกลุ่มแข็งแกร่ง (Out perform)  ตรงกันข้ามกับกลุ่มเกษตร อิเล็คทรอนิกส์ ปิโตรเคมี ปรับตัวลดลงมากกว่าตลาด จัดอยู่หมวดกลุ่มอ่อนแอ (under perform)   
 
มุมมองตลาด: 
          ตลาดยังคงอยู่ในโหมด wait & see เพื่อรอดูความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง แนะเลือกลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง    
 
วิธีการเลือกหุ้น:
          กลยุทธ์ในเชิงเทคนิคเราจะเลือกซื้อกลุ่มที่แข็งแกร่ง แต่จะขายกลุ่มที่ปรับตัวได้แย่กว่าตลาด ใช้สัญญาณทางเทคนิคเข้าช่วยจับจังหวะการซื้อขาย 
          Bull signal: BEC, PTTEP, KTC 
          Bear signal: CBG, WORK, TMB (break down 5&25-days EMA) 
          Portfolio: BCH, KTC, RS, PTTEP, IVL, SCB, KTB, JAS, AOT, AMATA 
          
          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค 
          [email protected] +662-618-1334
 
Track with Technical 
 
          BEC 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 6.60            
          ต้าน 8.00 
          เหตุผล BEC ส่งสัญญาณเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้นเนื่องจาก MACD ปรับตัวขึ้นเหนือเส้น 0 คล้ายรูปแบบในอดีต 
 
          PTTEP 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 124.00 
          ต้าน 132.00 
          เหตุผล โครงสร้างระยะกลางบ่งชี้รูปแบบขาขึ้น Higher low หนุนด้วยสัญญาณกลับตัวระยะสั้น MACD 
 
          KTC 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 34.00 
          ต้าน 38.00 
          เหตุผล KTC ขึ้นทดสอบกรอบบนสามเหลี่ยมขาขึ้น "Symmetrical triangle" กรณีทะลุผ่านจะส่งผลให้โครงสร้างเปลี่ยนเป็นขาขึ่น   
 
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!