SET แกว่งอิงแดนบวกในกรอบ 1622-34 ค่อยๆ รีบาวด์ หลังส่วนต่าง Bond Yield 10 ปี และ 2 ปีฟื้นตัวขึ้น ช่วยผ่อนคลายความกังวล “Inverted Yield Curve” แต่วอลุ่มเทรดน้อย 3.8 หมื่นลบ. นลท.ยังระมัดระวังการลงทุน รอดูการจับขั้วเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 670 ลบ. และพลิก Long S50 Futures 11,047 สัญญา 

หุ้นโลกเมื่อวาน (26 มี.ค.) ฟื้นตัวขึ้น จากแรงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ขึ้นแตะระดับ 60$/บาร์เรลอีกครั้ง จากการส่งออกน้ำมันที่ลดลงของเวเนซุเอลาและคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในวันพุธนี้จะปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน  มอง SET แกว่งไซด์เวย์ แม้คาดว่าราคาหุ้นกลุ่มพลังงานจะได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน และแรงซื้อเก็งประเด็น MSCI และ “Window Dressing” แต่บรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังถูกปกคลุมด้วยความกังวลศก.โลกชะลอตัว โดยตัวเลขศก.สหรัฐฯ เมื่อคืนออกมาแย่กว่าคาด ส่วนผลผลิตภาคอุตฯ ไทย (MPI) พลิกหดตัว 1.6% ใน ก.พ. ครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ประกอบกับเราเชื่อว่านลท.ยังรอติดตามปัจจัยชี้นำใหม่ โดยเฉพาะประเด็นการเมืองวันนี้ 10 โมงเช้า พรรคเพื่อไทยและพันธมิตรจะแถลงจุดยืนการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่รัฐสภาอังกฤษจะโหวตหาทางเลือก Brexit อื่นๆ ที่นอกเหนือจากร่างข้อตกลงฯ ของนางเทเรซา เมย์ ที่ยังขาดเสียงสนับสนุนในการโหวตเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แนวรับ 1625+/-, 1618 แนวต้าน 1636 

 

มอง SET อ่อนตัวเป็นโอกาสดีในการทยอยซื้อ เชื่อการรับรองผลการเลือกตั้งของ กกต. และการจัดตั้งรัฐบาลจะค่อยเห็นภาพชัดเจนขึ้น จะช่วย SET ปรับขึ้นได้ในระยะถัดไป, ใช้ Stop ที่ SET ปิดต่ำกว่า 1625 เพื่อคุมความเสี่ยง

•    ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick RS – เป็นหุ้นอิงการบริโภคที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ไม่ว่าพรรคการเมืองขั้วไหนจะได้จัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากทุกพรรคการเมืองเน้นการสร้างรายได้-เพิ่มอำนาจซื้อให้กับประชาชน, คาดกำไรปีนี้และปีหน้าโต +30% และ +13% ตามลำดับ จากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่และขยายช่องทางจัดจำหน่าย ล่าสุดบ.ได้ไทยรัฐทีวีเป็นพันธมิตรในธุรกิจ MPC, เตรียมย้ายกลุ่มไปค้าปลีกใน 29 มี.ค., เป้าพื้นฐาน 22 บ. / VGI ประกาศเข้าซื้อหุ้น PLANB 18.59% วงเงิน 4.62 พันลบ. ในราคาหุ้นละ 6.4 บ. เรามีมุมมองเชิงบวก และยังแนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 8.9 บ. ส่วน PLANB ด้วยจำนวนหุ้นเพิ่มทุนที่เพิ่มขึ้น (Dilution Effect) ส่งผลให้เป้าพื้นฐานใหม่ลดลงจาก 7.6 บ. เป็น 6.9 บ. แต่ยังแนะนำ “ซื้อ” บ.ประกาศปันผล 0.091 บ./หุ้น XD  9 พ.ค./ หุ้นคาดได้ประโยชน์จาก MSCI เปลี่ยนกฎใหม่ – SCC, BDMS, INTUCH, CPN, RATCH, LH, BANPU, CENTEL, DTAC / หุ้นเข้าข่าย Window Dressing เด่น AEONTS, HMPRO, MINT, SEAFCO, VGI / หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากนโยบายหาเสียงของทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะได้ร่วมเป็นรัฐบาลหรือไม่ก็ตาม การบริโภค CPALL, BJC, CPN, AEONTS, RS การลงทุน AMATA, WHA, STEC, SEAFCO, BTS, BEM / เราคาดกลุ่มแบงก์มีกำไรรวม 1Q19F ลดลง 2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 24% QoQ โดย BAY จะมีกำไรโตโดดเด่นสุดเนื่องจากมีรายการขายเงินลงทุน “เงินติดล้อ” แต่เราแนะนำ “ถือ” ขณะที่หุ้นแบงก์ที่เราชอบสุด คือ BBL (เป้าพื้นฐาน 235 บ.), KBANK (231 บ.) / หุ้นที่ตลาดมีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรและเป้าราคาหุ้นขึ้น – GGC, JWD, MAJOR, MINT, NWR, RS, S, SQ, STEC / หุ้นปันผลดีมี Yield > 3% รออยู่ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า - ชอบ ANAN, AP, JMT, LH, QH, ROJNA, VNT, WHAUP

•    หุ้นเด่น มี.ค. (Smart Tactics) BDMS, BEM, DTAC, JWD, MAJOR, RATCH, RS, SCC, STEC 

 

25-29 มี.ค.    TH    อาจมีการทำราคาปิด Window Dressing

27 มี.ค.    CH, US    ผลกำไรภาคอุตฯ จีนใน ก.พ., สต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐฯ ใน ก.พ. (เบื้องต้น)

28 มี.ค.    EU    ปริมาณเงิน M3 ใน ก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรปใน มี.ค. (สุดท้าย)

    US    GDP สหรัฐฯ ใน 4Q18 (ครั้งที่ 3), ยอดขายบ้านรอปิดการขายสหรัฐฯ ใน ก.พ.

     US    ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 23 มี.ค.