WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Mayบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
 
กลยุทธ์การลงทุนรายวัน
 
MARKET SUMMARY
          เมื่อวานที่ผ่านมา SET เผชิญกับแรงขายสูง โดยหุ้นใหญ่ถูกแรงขาย นำโดย CPALL, PTT, IVL, PTTEP, KBANK, SCB, ADVANC อย่างไรก็ตาม STEC บวกสวนตลาดเด่น ณ.สิ้นวัน ปิดตลาดที่ 1,625.9 จุด  (-20.3 จุด ) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.7 หมื่นลบ. (วันก่อนหน้า 4.6 หมื่นลบ.)
          นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยที่ 1,643 ลบ. (สถาบันขายสุทธิ 1,188 ลบ.) และเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิที่ 16,356 สัญญา
 
INVESTMENT THEME
          คาดสภาล่างเสียงไม่ขาด อาจทำให้ตลาดแกว่งเพื่อรอดูการเปิดสภาจริง: เราเริ่มเห็นเสียงจากบรรดาพรรคใหญ่พอสมควร (อย่างไม่เป็นทางการ) เบื้องต้นเพื่อไทย 135-137 เสียง, พลังประชารัฐ 119 เสียง, อนาคตใหม่ 87 เสียง, ประชาธิปัตย์ 55เสียง, ภูมิใจไทย 52 เสียง, เสรีรวมไทย 11 เสียง, ชาติไทยพัฒนา 11 เสียง เราประเมินว่า 1) พรรคพลังประชารัฐมีโอกาสสูงที่จัดตั้งรัฐบาล และเลือกคุณประยุทธ์เป็นนายกคนถัดไป  2) เสียงในสภาล่างใกล้เคียงกันมากในระดับ 240-260 ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเป็นตัวแปรสำคัญในครั้งนี้ โดยหากต้องการผ่านร่างกฎหมายต้องใช้เสียงมากกว่าหรือเท่ากับ 251 เสียงในสภาล่าง (โดยปกติเสียงควรจะห่างกันในระดับ 30 เสียงขึ้นไป เพื่อความมั่นคง) อย่างไรก็ตาม เราแนะรอการประกาศผลอย่างเป็นทางการจากกกต.อีกครั้ง ในวันที่ 9พ.ค. ซึ่งหากคะแนนเสียงยังใกล้เคียงกันในระดับดังกล่าว คาดจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไปจนถึงวันเปิดสภาในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค. ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศนักลงทุนยังคงกังวลกับโอกาสการเกิด Recession หลัง Bond yield สหรัฐระยะยาวเทียบกับระยะสั้นเช่น 10 ปี / 3 เดือนเริ่มทยอยติดลบ
          สำหรับการลงทุนเดือนมีนาคม : สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งตัวในกรอบ  1,620 จุด +/- เนื่องจากรอ 3 ปัจจัย อย่าง 1) คะแนนเสียงอย่างเป็นทางการจากกกต.ในเวลา 14.00 วันนี้ เพื่อคาดการณ์การจัดตั้งรัฐบาล 2) ความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในวันที่ 27-28 มี.ค. และ 3) การแกว่งตัวของ Bond Yield สหรัฐระยะยาวที่ถูกดดัน  แนะถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% และถือ BEM, CPALL, PTTEP
 
BIG ISSUE
          เมื่อคืนที่ผ่านมา : Apple จับมือ Master card และ Goldman Sachs เปิดตัวบัตรเครดิต
 
STOCK PICK & TRADING IDEA
          แนะทยอยสะสมหุ้นที่ได้รับผลกระทบจำกัดจากผลการเลือกตั้ง แนะสะสม TU ราคาเหมาะสม 21.70 บาท/หุ้น คาดกำไร Q1 เติบโตเด่น โดยปัจจุบันราคาทุน่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีประมาณ 1,480-1,500 เหรียญ/ตัน ทำให้คาดมี margin(%) เด่น ในขณะที่ธุรกิจกุ้งได้ผลบวกจากการปรับราคาขายและขยายตลาดไปสู่สินค้าที่มีอัตรากำไรสูง ในเชิงความเสี่ยงลดลงหลังจากในปีก่อนได้ตั้งสำรองค่าใช้จ่ายคดีความของ Chicken of the Sea และเลิกธุรกิจแซลมอนในสกอตแลนด์ที่ขาดทุน ภาพรวมประเมินกำไรจากการดำเนินงานปีนี้ที่ 5,900 ลบ. (+12%YoY) ในเชิงเทคนิคกรอบ 18-19.0 หาก Break ได้ในเชิงเทคนิคมองว่าดี
 
TECHNICAL VIEW
          เกิด False Break ที่แนวต้าน ทำให้กลับมาแกว่งในกรอบ Sideway:  ดัชนีปรับตัวลงจากแรงขายหุ้น Big Cap. แทบทุกกลุ่ม ทำให้ในช่วงเช้าดัชนีเปิด Gap ลงมา ส่งผลให้แท่งเทียนเกิดเป็นสัญญาณ False Break ที่บริเวณกรอบบน Sideway ที่ 1645 แม้ระหว่างวันอ่อนตัวลงต่อ แต่ยังไม่หลุดแนวรับ Low 1615 ประกอบกับในกราฟ 60 นาที Modified Stochastic ที่เข้าเขต Oversold จึงมองว่าระยะสั้นหากไม่หลุดแนวรับ 1615-1620 มองว่าเป็นโอกาสเล่น Rebound 
          กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound ขึ้นทดสอบแนวต้านระหว่างวัน มองเป็นโอกาสขายหุ้นเพื่อเล่นรอบ  2) ไม่มีหุ้น: ทยอยซื้อหุ้นเมื่อดัชนีอ่อนตัวระหว่างวัน และเน้นเป็นเพียงการ Trading เล่น Rebound
          แนวรับ : 1600, 1620 แนวต้าน : 1635, 1645
 
EYES ON
          ปัจจัยต่างประเทศ :   จับตา EC พิจารณายืดเวลา Brexit / 27 มี.ค.จับตาสหรัฐบินเจรจาการค้ากับจีน
          ปัจจัยในประเทศ :   
 
หุ้นเทคนิค :  
          BEM (9.90-10.10, Tp 10.50//10.80, Cut 9.80
          ALLA (1.56-1.59, Tp 1.66//1.70, Cut 1.54)
 
ข่าวเด่นเช้านี้
 
รับเหมา
          เล็งตั้งรัฐบาลใหม่ต่อยอด บิ๊กโปรเจ็กต์  (ทันหุ้น)
          ความเห็น : การเมืองปัจจุบันยังมีความไม่ชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะคะแนนแต่ละขั้วการเมืองค่อนข้างใกล้เคียงกัน จึงขึ้นกับพรรคตัวแปร  สำหรับ 5 โครงการ เมกะโปรเจ็กต์ EEC ซึ่งบางพรรคการเมืองไม่สนับสนุน กำลังอยู่ในขั้นตอนประมูลและช่วงที่เซ็นสัญญาจะค่อนข้างคาบเกี่ยวระหว่างช่วงเวลารัฐบาลชุดปัจจุบันกับรัฐบาลใหม่ เราเราให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเท่าตลาด แนะนำเก็งกำไรช่วงอ่อนตัวใน STEC (เป้าหมาย 29 บาท) และ NWR (เป้าหมาย 1.3 บาท)
 
TOP
 
ศึกษาต่อยอดโครงการ CFP (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา)
          ความเห็น : เป็นโครงการที่จะนำผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโครงการ CFP ได้แก่ แนฟทามาสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นปิโตรเคมีต่อไป โดยอาจเป็นการศึกษาร่วมกับกลุ่ม PTT อย่างไรก็ตามยังไม่มีการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว โครงการ CFP ยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จในปี 2566 แนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 85 บาท
 
PTTEP
 
ทริสคงเรทติ้ง 'ปตท.สผ.' มั่นใจฐานะการเงินแกร่งซื้อหุ้น'เมอร์ฟี่ออยล์' ไร้ผลกระทบ (กรุงเทพธุรกิจ)
          ความเห็น : ราคาซื้อขายกิจการของ Murphy  ที่ 2,127 ล้านเหรียญ คิดเป็น EV/2P Reserve 7.8 เหรียญต่อ boe ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของการซื้อขายโครงการตั้งแต่ 2H57-ปัจจุบัน ที่ 11 เหรียญต่อ boe แหล่งที่มาของเงินทุนจากเงินสดในมือที่สูงถึง 4,001 ล้านเหรียญ ณ. สิ้นปี2561 ไม่จำเป็นต้องพึ่งเงินกู้จากสถาบันการเงิน ขณะที่งบลงทุนสำหรับโครงการต่างๆ สามารถนำเงินที่ได้จาก 2 โครงการที่ผลิตอยู่แล้วมาใช้ลงทุนต่อยอดได้ แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 150 บาท
 
EA
 
อวดกำลังผลิตพุ่ง 542 MW จ่อ COD ลมหนุมานอีก 2 แห่ง (ข่าวหุ้น)
          ความเห็น : อยู่ในประมาณการของตลาดอยู่แล้ว โดย story ถัดไปคือ การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในงาน Motor Show วันที่ 27 นี้ ซึ่งเป็น upside นอกประมาณการของเรา โดยการส่งมอบรถยนต์ EA วางแผนในปลายปี-ต้นปีหน้า ทำให้ระหว่างนี้เรายังคงเรตติ้ง ซื้อเก็งกำไร 52.00 บาท/ หุ้น
Research House  02 658 5000                           
นักกลยุทธ์ : สรพล วีระเมธีกุล  | วิจิตร อารยะพิศิษฐ                    
Line ID : @maybankfriends
www.maybank-ke.co.th

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!