- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 March 2019 00:03
- Hits: 2781
บล.ทิสโก้ : M a r k e t I n s i g h t
M a r k e t I n s i g h t
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +12.29 จุด อานิสงส์ต่อเนื่องจาก FED, เก็งผลเลือกตั้ง
SET แกว่งอิงแดนบวกในกรอบ 1633-46 ปรับขึ้น 2 วันติด อานิสงส์ต่อเนื่องจาก FED ปรับนโยบายการเงินเป็น “Dovish” ชัดเจน ทั้งจะไม่ปรับขึ้นดบ.ในปีนี้ และชะลอการดึงสภาพคล่องออกจากระบบ นอกจากนี้ยังมีแรงซื้อเก็งผลการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 2.29 พันลบ. และพลิก Long S50 Futures 6,402 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ลง-ผันผวน ตลาดบอนด์สหรัฐฯ ส่งสัญญาณศก.ถดถอย
หุ้นโลกวันศุกร์ (22 มี.ค.) ดิ่งเหว ดัชนี DJ ร่วง 460 จุด ส่วนหุ้นยุโรปร่วงเฉลี่ยเกือบ 2% หลังดัชนีชี้วัดภาคการผลิต (PMI) สหรัฐฯ ต่ำสุดในรอบ 19 เดือน มาที่ 52.5 จุด ขณะที่ของยูโรโซนต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี อยู่ที่ 47.6 จุด โดยตลาดบอนด์สหรัฐฯ ส่งสัญญาณกลัวศก.ถดถอย โดยเกิด Inverted Yield Curve ในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี และ 3 เดือน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007 ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 1.6% จากความกังวลศก.โลกชะลอตัว มอง SET ผันผวนในทิศทางปรับตัวลง คงจะฝืนภาพใหญ่จากหุ้นโลกที่ปรับตัวลงแรงได้ลำบาก ความกังวลศก.โลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย กระตุ้นให้นลท.เข้าสู่โหมด “Risk-off” ขณะที่ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ มีผู้ไปใช้สิทธิ 31.3 ล้านคน หรือคิดเป็น 61% และนับคะแนนไปแล้ว 92.5% โดยพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.มากเป็นอันดับ 1 ที่ 130 ที่นั่ง ตามด้วยพรรคพลังประชารัฐ 120 ที่นั่ง, พรรคอนาคตใหม่ 81 ที่นั่ง, พรรคภูมิใจไทย 50 ที่นั่ง และพรรคประชาธิปัตย์ 50 ที่นั่ง อย่างไรก็ดี คะแนนของพรรคพลังประชารัฐรวมอยู่ที่ 7.6 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วน 24.5% สูงกว่าของพรรคเพื่อไทยที่อยู่ที่ 7.4 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วน 23.8% ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ได้คะแนนเสียง 5.3 ล้านคน (17.1%), พรรคภูมิใจไทยได้คะแนน 3.3 ล้านคน (10.8%) และพรรคประชาธิปัตย์ 3.2 ล้านคน (10.5%) อย่างไรก็ดี ในมุมมองของเรา ตัวเลขยังไม่นิ่งและน่าจะยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่ ทำให้ต้องรอความชัดเจนจากกกต.แถลงผลการเลือกตั้งอีกครั้งในช่วงบ่าย 2 โมงวันนี้ แนวรับ 1630-32, 1625+/- แนวต้าน 1655-60
กลยุทธ์การลงทุน : มอง SET ลงเพื่อขึ้น เป็นจังหวะทยอยสะสม
มองการปรับตัวลงของ SET เป็นโอกาสดีในการทยอยซื้อ เชื่อความชัดเจนของการรับรองผลการเลือกตั้งของ กกต. และการจัดตั้งรัฐบาลจะค่อยชัดเจนขึ้น คาดจะช่วย SET ปรับขึ้นในระยะถัดไป, ใช้ Stop ที่ SET ปิดต่ำกว่า 1625
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick LH – เป็นหนึ่งในหุ้น 10 อันดับแรกที่คาดว่าจะได้รับการปรับน้ำหนักเพิ่มมากสุดหาก MSCI เปลี่ยนแปลงกฎใหม่นำ NVDR เข้ามารวมคำนวณ ทราบผลสิ้นเดือนนี้, มีปันผลงวดนี้ 0.35 บ./หุ้น XD 3 พ.ค. คิดเป็น Div. Yield 3.3% น่าจะช่วยรองรับความผันผวนของตลาดช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี, เป้าพื้นฐาน 12.5 บ. / เราคาดกลุ่มแบงก์มีกำไรรวม 1Q19F ลดลง 2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 24% QoQ โดย BAY จะมีกำไรโตโดดเด่นสุดเนื่องจากมีรายการขายเงินลงทุน “เงินติดล้อ” แต่เราแนะนำ “ถือ” ขณะที่หุ้นแบงก์ที่เราชอบสุด คือ BBL (เป้าพื้นฐาน 235 บ.), KBANK (231 บ.) / หุ้นที่ตลาดมีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรและเป้าราคาหุ้นขึ้น – GGC, JWD, MAJOR, MINT, NWR, RS, S, SQ, STEC / หุ้นคาดได้ประโยชน์จาก MSCI เปลี่ยนกฎใหม่ – SCC, BDMS, INTUCH, CPN, RATCH, LH, BANPU, CENTEL, DTAC / หุ้นเข้าข่าย Window Dressing เด่น AEONTS, HMPRO, MINT, SEAFCO, VGI / หุ้นธีม “Pre-election Rally” – หุ้นบลูชิพขนาดใหญ่ที่เป็นเป้า Fund Flows ไหลเข้า ชอบ BBL, KBANK, SCB, AOT, MINT, SCC หุ้นอิงบริโภคในปท.และสื่อ CPALL, BJC, AEONTS, VGI, PLANB หุ้นอ่อนไหวการเมือง STEC, PR9, SC / หุ้นปันผลดีมี Yield > 3% รออยู่ในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า - ชอบ ANAN, AP, JMT, LH, QH, ROJNA, VNT, WHAUP
• หุ้นเด่น มี.ค. (Smart Tactics) BDMS, BEM, DTAC, JWD, MAJOR, RATCH, RS, SCC, STEC
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
25-29 มี.ค. TH อาจมีการทำราคาปิด Window Dressing
25 มี.ค. JP, US ดัชนีชี้วัดทุกภาคอุตฯ ญี่ปุ่นใน ม.ค., ดัชนีชี้วัดภาคอุตฯ (Chicago) สหรัฐฯ ใน ก.พ.
US ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ ใน ก.พ., ดัชนีชี้วัดภาคอุตฯ (Dallas) สหรัฐฯ ใน มี.ค.
US รายได้, การใช้จ่าย และการเปลี่ยนแปลงค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลสหรัฐฯ ใน ม.ค.
ที่มา : Bloomberg, TISCO Research
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171
02-633-6467
ธนพล บำรุงพงศ์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 46537
02-633-6471