WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KGIบล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้          ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
 
รีบาวด์ก่อนไซด์เวย์ต่อ
          KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ รีบาวด์ ก่อนเทรดไซด์เวย์ต่อ... หนุนโดยจิตวิทยาที่เป็นบวกต่อแนวนโยบายการเงินทั้งของสหรัฐฯ และของไทย แต่ทางขึ้นของดัชนีฯ ยังมีจำกัด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการรอดูผลการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มี.ค. 2562 ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในฝั่งไทยในช่วงนี้... เมื่อคืน ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) แถลงผลการประชุม คงดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 2.25-2.50% และเปลี่ยนสัญญาณดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้ จากเดิมมองขึ้นอีก 2 ครั้งเป็นไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว (เป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาด) นอกจากนี้เฟดแถลงว่าจะยุตินโยบายลดสภาพคล่องในเดือน ก.ย. นี้ ซึ่งถือว่าเร็วกว่าที่ตลาดประเมินและน่าจะส่งผลดีต่อตลาดการเงินโลกในระยะถัดไป ด้านปัจจัยภายในประเทศ คณะกรรมการ กนง. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ตามที่เราและตลาดคาด และมีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 สู่ 3.8% จาก 4.0% ซึ่งทางเราประเมินว่าจะมีผลจำกัดต่อตลาดหุ้นไทย เนื่องจากประมาณการใหม่ของ ธปท. ยังคงใกล้เคียงกับ consensus 
 
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน   ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
 
เก็งกำไร RS*, CAZ / สะสม ROBINS*
          RS* (เป้าพื้นฐาน 25 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 17.8 บาท / แนวต้าน 18.4 บาท และถัดไป 19.0 บาท (Stop loss 17.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มกำไร 1Q62 - 2Q62 จะได้อานิสงส์จากการขยายช่องทางขายผ่าน ไทยรัฐทีวี (เริ่มเดือน มี.ค.) โดยจะเป็นการแบ่งส่วนแบ่งรายได้ทำให้ปิดความเสี่ยงด้านต้นทุน Fixed cost 3) PE ปี 2562 = 25.7 เท่า ใกล้เคียงกับ -2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีตที่ 26 เท่า
          CAZ (เป้าพื้นฐาน 6.0 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.86 บาท / แนวต้าน 5.4 บาท (Trailing stop ล๊อกกำไร 4.80 บาท) 2) คาดแนวโน้มกำไร 1Q62 จะเติบโต QoQ และ YoY ตามการส่งมอบงานและรับรู้รายได้ (Backlog ในมือที่ 2.5 พันล้านบาท ทยอยส่งมอบภายใน 1 - 1.5 ปี) 3) ราคาน้ำมันเริ่มมีเสถียรภาพ คาดจะทำให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกกลับมาขยายการลงทุน หลังจากชะลอการลงทุนไปก่อนหน้านี้ (งานประมูลออกมาเยอะ ไม่กดดันอัตรากำไรของผู้รับเหมาฯ) ขณะที่ในไทยเองคาด CAZ จะประมูล Sub-contract งานโรงกลั่นใหม่ของ TOP* (คาด CAZ สามารถรับงาน TOP* มูลค่าราว 4 พันล้านบาท) 4) PE ปี 2562 = 15 เท่า ไม่แพงเทียบอัตราการเติบโตของ EPS +23% CAGR (2561 - 63) 
          ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 77 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้นปรับลงแรงสะท้อนการปรับลดประมาณการของ Consensus (โดยฝ่ายวิจัยฯปรับลดสมมติฐาน Same store sales growth: SSSG ลงเหลือ +1% จาก +3%) จนทำให้ Valuation เริ่มอยู่ระดับน่าสนใจ โดย PE ปี 2562 = 19.5 เท่า (ต่ำกว่า -1 เท่าของส่วนเบี่ยนเบนมาตรฐานในอดีตที่ 20 เท่า) และ PBV = 3.5 เท่า (ใกล้เคียงกับ -1 เท่าของส่วนเบี่ยนเบนมาตรฐานในอดีตที่ 3.2 เท่า) 2) ราคาหุ้นเริ่มเข้าสู่ภาวะ Oversold คาดหากเริ่มหยุดการทำจุดต่ำใหม่ มีโอกาสที่จะรีบาวด์ หากหยุดทำจุดต่ำใหม่ที่ 57.25 บาทได้ แนะนำ ทยอยสะสม / แต่หากต่ำกว่า 57.25 บาท แนะนำรอซื้อที่แนวรับ 55 บาท (Stop loss 54 บาท)
 
หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"
          หุ้นเด่น Quantamental: แนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" และ ระมัดระวังความเสี่ยง "Momentum Crash" สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้เลือก CKP* (Stop loss 4.6 บาท), TK (Stop loss 9.3 บาท) / สำหรับนักลงทุนที่รับเสี่ยงได้น้อย (เน้นที่ปัจจัย Value เลี่ยงปัจจัย Momentum เพื่อเลี่ยงความเสี่ยง Momentum Crash) เลือก SPRC* (Stop loss 9.5 บาท), ROJNA (Stop loss 4.7 บาท), BJCHI (Stop loss 1.8 บาท)
 
หุ้นมีข่าว
          (0) ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยทรงตัว YoY ที่ระดับ 3.57 ล้านคนในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 (เว็บไซต์กระทรวงท่องเที่ยวฯ) เราเห็นว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน ก.พ.62 ไม่สร้างความตื่นเต้นทางบวกให้กับตลาด หลังการฟื้นตัวแรงขึ้นในช่วงเดือน ธ.ค.61 และ ม.ค.62 ซึ่งเชื่อว่าเป็นผลกระทบจากฐานการเปรียบเทียบแบบ YoY เนื่องจากสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยดีมากในช่วง 1H61 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่หดตัว 12.3% YoY ในเดือน ก.พ.62 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบทางลบถูกลดทอนส่วนหนึ่งจากนักท่องเที่ยวกลุ่มเอเชียใต้ที่เพิ่มขึ้น 11.6% YoY หากมองไปข้างหน้า เราเชื่อว่า ภาพรวมนักท่องเที่ยวจะเพิ่มแรงขึ้นในช่วง 2H62 เนื่องจากผลกระทบทางลบจากเหตุการณ์เรื่อล่มภูเก็ตในช่วง 2H61 เรายังคงน้ำหนักการลงทุนเป็น Neutral สำหรับกลุ่มขนส่ง ซึ่ง AOT* ยังคงเป็น top pick เนื่องจากตัวเลขผู้โดยสารต่างชาติเพิ่มขึ้นที่ระดับ 8.1% YoY 4.2% YoY และ 4.5% YoY ในเดือน ม.ค.-ก.พ.62 และช่วง 18 วันแรกเดือน มี.ค.62 ตามลำดับ เรายังคงราคาเป้าหมาย 82.12 บาท
          (+) 42 รายชิง 'อู่ตะเภา' 2 แสนล. BTS* จับคู่ร่วมประมูล (กรุงเทพธุรกิจ) กองทัพเรือเปิดยื่นซอง อู่ตะเภาวันนี้ คาด"บีทีเอส-บางกอกแอร์-ซีพี" ลงสนาม ขณะที่ทอท.รอเสียบร่วมเป็นพันธมิตรผู้ชนะ เผยมีเอกชนจ้างเป็นที่ปรึกษาทำแผนบริหารสนามบิน-ระบบความปลอดภัย "ซีพี" ชี้ไฮสปีด-อู่ตะเภา เป็นหัวใจของอีอีซี
          (+) MEGA* ทุ่ม 500 ล้านผุดโรงงานเพิ่ม (กรุงเทพธุรกิจ) "เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์" เดินหน้าลงทุนขยายโรงงานผลิตยาทั้ง ใน-ต่างประเทศ เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ เล็ง หาโอกาสซื้อกิจการเพิ่ม หวังดันกำไรสุทธิ ปี 65 โต 1 เท่าตัว จากปี 61 อยู่ที่ 1.2 พันล้าน ลั่นปีนี้ใช้งบลงทุน 500 ล้าน
          (+) RATCH* กู้ 4.1 พันล้านลุยโรงไฟฟ้า (โพสต์ทูเดย์) RATCH* กู้ 4.1 พันล้าน ลุยโรงไฟฟ้า RATCH* กู้เงิน 4.1 พันล้าน ลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในออสเตรเลีย จ่อ COD ปี 2563 หนุนกำลังผลิตในพอร์ตพุ่ง
          (0) ลุ้น JCK เพิ่มทุนจำนวน 214 ล้าน ขายแบบ 'พีพี' (โพสต์ทูเดย์) บอร์ด JCK ไฟเขียวเพิ่มทุน 214 ล้านหุ้น วางเป้าขายแบบพีพีเพื่อเติมสภาพคล่อง ลดหนี้ เสริมแกร่งฐานะการเงิน
          (0) CHAYO ขายหุ้น PP40 ล้านหุ้น นักลงทุนพร้อมใจติดไซเลนต์ 6 เดือน (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) ชโย กรุ๊ป ขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้นักลงทุน 28 ราย รวมไม่เกิน 40 ล้านหุ้น ราคา 3.83 บาทต่อหุ้น คาดได้เงินจากการขายหุ้นครั้งนี้ 153.2 ล้านบาท เติมเงินสดเข้ากระเป๋าบริษัทเพื่อประมูลซื้อหนี้เพิ่มและใช้รองรับการขยายกิจการ ด้านกลุ่มนักลงทุนใหม่พร้อมเต็มใจให้ไซเลนต์พีเรียด 6 เดือน เรียกความเชื่อมั่นผู้ถือหุ้น รายย่อย
 
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
          ZEN (เป้า Consensus 16.7 บาท) ประเมินแนวรับ 14.9 บาท / แนวต้าน 15.6 บาท (Stop loss 14.7 บาท)
          OSP (เป้า Consensus 27.9 บาท) ประเมินแนวรับ 26.0 บาท / แนวต้าน 27.25 - 29.0 บาท (Stop loss 25.5 บาท) 
          PLANB* (เป้าพื้นฐาน 8.8 บาท) ประเมินแนวรับ 6.35 บาท / แนวต้านแรก 6.50 บาท ถัดไปที่ 6.80 บาท (Stop loss 6.30 บาท) 
          MEGA* (เป้าพื้นฐาน 39 บาท) ประเมินแนวรับ 32.25 บาท / แนวต้าน 34.5 บาท (Trailign stop 32 บาท) 
 
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
          SCN* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 4.3 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการกำไรปี 2562 และ 2563 ลง -45% และ 53% ตามลำดับ จาก i) ปรับลดสมมติฐานปริมาณขายแก๊สธรรมชาติลง และ ii) การเริ่มเปิดดำเนินการสถานี NGV ใหม่ 4 แห่ง ล่าช้า ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯอยู่ระหว่างติดตามการลงทุนในธุรกิจที่สร้างรายได้สม่ำเสมอ เช่น โซลาร์ฟาร์มที่พม่า และ รถบัส NGV (สัญญาซ่อมบำรุง) ว่าจะช่วยหนุนผลการดำเนินในอนาคตได้เพียงใด 
          นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล
          66.2658.8888 ต่อ 8843
          [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!