WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aecบล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้เราคาดดัชนี SET ลุ้นขึ้นหนุนด้วยราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อ บวกกับ การคลายความกังวลของนักลงทุนหลัง FED คงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมพร้อมส่งสัญญาณไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ประเมินกรอบเคลื่อนไหว 1,625-1,640 จุด
 
Market Factors
•    (+) ผลการประชุม FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ2.25-2.5% โดยมีทิศทางคงอัตราดอกเบี้ยใน  ปีนี้ส่งผลเชิงบวกในระยะสั้นแต่ในระยะยาวยังมีความเสี่ยงจากการปรับลดคาดการณ์ศก.ของ FED เหลือเพียง 2.1% และปรับลดอัตราเงินเฟ้อลงเหลือ1.8% และปรับเพิ่มอัตราการว่างงานสู่ระดับ3.7%  
•    (+) ทิศทางราคาน้ำมันดิบ NYYMEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ 60.16 ดอลลาร์/บาเรลล์ ปรับเพิ่มขึ้น 29.3% YTD และ 7.8% MTD.
•    (-) กนง.มีมติเอกฉันท์ คงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.75% มองเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ใกล้เคียงกับศักยภาพ แม้ว่าจะชะลอลงกว่าที่ประเมินไว้จากอุปสงค์ต่างประเทศที่ชะลอลง อุปสงค์ในประเทศยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง (กรุงเทพธุรกิจ)
•    (-) กนง.ปรับคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 62 เหลือโต 3.8% จากเดิมคาดโต 4.0% จากปัจจัยด้านการส่งออก หลังการส่งออกสินค้าชะลอลงกว่าที่ประเมินทิศทางของเศรษฐกิจโลกรวมถึงผลกระทบจากสงครามการค้า โดยปรับลดมูลค่าการส่งออกไทยในปีนี้เหลือโต 3.0% จากเดิมคาดโต 3.8% (ไทยรัฐ)
•    (watch) อัพเดท Flow การลงทุนตลาดหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเดือน ม.ค. 62 ซื้อสุทธิ 6,721.62 ลบ. และเดือน ก.พ. 62 ขายสุทธิ 3,410.15 ลบ. ส่วน Month to date ต่างชาติขายสุทธิ 16,095.04ลบ.
Investment Strategy
•    แม้เมื่อคืนตลาดหุ้นจะได้อานิสงส์บวกจาก Sentiment ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลัง FED ส่งสัญญาณไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ดีนักลงทุนต้องระมัดระวังในช่วงปลายสัปดาห์นี้ SET Index อาจเผชิญกับแรงขายจากความกังวลของนักลงทุนหลังธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดคาดการณ์ GDP          ปี 2562 โตลดลงเหลือ 3.8% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 4.0% ส่วนสัปดาห์หน้ามองทิศทางของ SET Index ขึ้นอยู่กับผลการเลือกตั้งและบทสรุปของโอกาสที่จะเกิดการจัดตั้งรัฐบาลผสม ดังนั้นมอง SET Index มีความผันผวนสูง โดยดัชนีมีแนวรับ 1,615 จุด และแนวต้าน 1,640 จุด มองหากดัชนีย่อเป็นโอกาสเข้าซื้อ 3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้
•    กลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์หลังเลือกตั้ง:กลุ่มค้าปลีก (มองได้อานิสงส์บวกจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำที่พรรคการเมืองหลักทั้ง 4 นำมาใช้เป็นนโยบายหลักในการหาเสียง ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของค่าแรงขั้นต่ำใหม่สูงกว่าระดับปัจจุบันที่ 330 บาทต่อวัน ราว 25-26.9% คาดหนุนกำลังซื้อกลุ่มรากหญ้าให้ปรับตัวดีขึ้น เลือกหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ ได้แก่ CPALL, AEONTS), กลุ่มท่องเที่ยว (คาดเมื่อประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ทำให้นักท่องเที่ยวบางกลุ่มมีมุมมองความเสี่ยงทางการเมืองของประเทศไทยที่ลดลง คาดทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เลือกหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ ได้แก่ AAV, AOT, PLAT) และกลุ่มสื่อ (คาดเอเจนซี่ที่ชะลอการใช้เม็ดเงินในช่วงก่อนหน้าจะกลับมาอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่อุตสาหกรรมอีกครั้ง หลังการเลือกตั้งมีความชัดเจนและการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น โดยแนะนำกลุ่มที่เห็นสัญญาณบวกจากส่วนแบ่งในเม็ดเงินโฆษณาที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ. ได้แก่ กลุ่มดิจิตอลทีวี (เพิ่มจาก 62.7% ณ สิ้น ธ.ค. เป็น 64.8%) แนะนำ RS, BEC และกลุ่ม Out of Home (เพิ่มจาก 12.2% ณ สิ้น ธ.ค. เป็น 13.7%) แนะนำ VGI
•    Turnaround Stock: โดยเลือกหุ้นที่กำไรปี 61 ชะลอลงแต่จะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นในปี 62 เลือก TKS (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 29.8%YoY จากงานบัตรเลือกตั้งและการเพิ่มสินค้าและบริการด้านนวัตกรรม + แนวโน้มสดใส นอกจากนี้มี Upside Risk หากได้งาน E-Passport), TWPC (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 146.6%YoY จากแผน Inorganic Growth และสภาวะขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มดีขึ้น, TVDปี62 ตั้งเป้ารายได้รวม 4,800 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YoYแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจของทีวี ไดเร็ค 3,300 ลบ. และจาก 6 บริษัทในเครืออีก 1,500 ลบ. ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์หลักจากการทำ Omni Channel Direct Marketing Experience โดยผสมผสานการทำตลาดผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 
•    กลุ่มโรงพยาบาล: มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปีนอกจากนี้เตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง), BCH (แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF), BDMS (คาดกำไรปี 62 โต YoYจากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการWellness Clinic  รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วง 1Q62 (4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น) ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน)
 
20-Mar-19    Change (pts.)    19-Mar-19
SET Index    1,627.62    -2.47    1,630.09
SET50 Index    1,081.97    -2.33    1,084.30
SET100 Index    2,383.74    -4.27    2,388.01
 
 
 
High    1,635.42    Gainers       516 
Low    1,626.97    Unchanged    577
Value (Bt m)    36,490.69    Losers 724 
Volume (*000)    12,315,047          
 
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    14.8    13.6    13.6
EPS Growth (%)    13.9    9.3    7.4
EV/EBITDA (x)    9.9    9.2    9.0
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6
Dividend Yield (%)    3.3    3.5    3.9
ROE    11.5    11.7    11.4
 
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    20-Mar-19    WTD    MTD    YTD
Institution    1,435.39    1,338.35    1,786.67    28,550.00
Proprietary    (389.30)    (375.16)    (621.90)    3,323.70
Foreign     (1,409.09)    (1,823.89)    (16,095.06)    (12,783.58)
Individual    363.00    860.70    14,930.29    (19,090.12)
 
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)    [email protected]
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    [email protected]
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!