WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aecบล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้เราคาดดัชนี SET ฟื้นตัว หนุนด้วยปัจจัยบวกจาก ตปท. ราคาน้ำมันฟื้นตัวต่อหลัง OPEC ส่งสัญญาณลดกำลังการผลิต บวกกับดัชนีความกลัวที่ปรับลดลง (VIX Index) ในช่วงรอผลการประชุม FED คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,625
Market Factors
•          (Watch)จับตาการประชุม FED เกี่ยวกับสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยการประชุมครั้งนี้ในวันที่     19-20 มี.ค. คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.25-2.50% จาก Impled Prob. ที่ระดับ 97.7%
•         (Watch) นับถอยหลังการเลือกตั้ง 24 มี.ค. เพื่อรอดูความคืบหน้า และทิศทางการบริหารงานของรัฐบาลใหม่
•         (Watch) จับตาผลประชุม กนง. วันพรุ่งนี้ เกี่ยวกับทิศทาง และความเห็นต่อการปรับดอกเบี้ยนโยบาย 
•        (Watch) VIX Index ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ที่ 13.1 แสดงให้เห็นถึงความกังวลของนักลงทุนต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลดลงโดยปรับลดลง 48.47% YTD และ ลดลง 3.46% MTD
•        (watch) อัพเดท Flow การลงทุนตลาดหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเดือน ม.ค. 62 ซื้อสุทธิ 6,721.62 ลบ. และเดือน ก.พ. 62 ขายสุทธิ 3,410.15 ลบ. ส่วน Month to date ต่างชาติขายสุทธิ 15,287.6 ลบ.
Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้มอง SET Index ได้อานิสงส์จากมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน เพราะเข้าใกล้ช่วงโค้งสุดท้ายของวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. นี้คาดจะทำให้ลดความกังวล Political Risk พร้อมกับมามีความเชื่อมั่นมากขึ้น หนุนให้ทั้งการลงทุนและการท่องเที่ยวดีขึ้น ดังนั้นมอง SET Index มีแรงซื้อกลับในช่วงปลายเดือนมองภาพรายเดือนดัชนีมีแนวรับ 1,610 จุด และแนวต้าน 1,675 จุด มองเป็นโอกาสเข้าซื้อ 3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้
•    กลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์หลังเลือกตั้ง:กลุ่มค้าปลีก (มองได้อานิสงส์บวกจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำที่พรรคการเมืองหลักทั้ง 4 นำมาใช้เป็นนโยบายหลักในการหาเสียง ซึ่งมีค่าเฉลี่ยของค่าแรงขั้นต่ำใหม่สูงกว่าระดับปัจจุบันที่ 330 บาทต่อวัน ราว 25-26.9% คาดหนุนกำลังซื้อกลุ่มรากหญ้าให้ปรับตัวดีขึ้น เลือกหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ ได้แก่ CPALL, AEONTS), กลุ่มท่องเที่ยว (คาดเมื่อประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง     ทำให้นักท่องเที่ยวบางกลุ่มมีมุมมองความเสี่ยงทางการเมืองของประเทศไทยที่ลดลง คาดทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เลือกหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์ ได้แก่ AAV, AOT) และ กลุ่มสื่อ (คาดเอเจนซี่ที่ชะลอการใช้เม็ดเงินในช่วงก่อนหน้าจะกลับมาอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่อุตสาหกรรมอีกครั้ง หลังการเลือกตั้งมีความชัดเจนและการบริโภคในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น โดยแนะนำกลุ่มที่เห็นสัญญาณบวกจากส่วนแบ่งในเม็ดเงินโฆษณาที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือน ก.พ. ได้แก่ กลุ่มดิจิตอลทีวี (เพิ่มจาก 62.7% ณ สิ้น ธ.ค. เป็น 64.8%) แนะนำ BEC และกลุ่ม Out of Home (เพิ่มจาก 12.2% ณ สิ้น ธ.ค. เป็น 13.7%) แนะนำ VGI
•    Turnaround Stock: โดยเลือกหุ้นที่กำไรปี 61 ชะลอลงแต่จะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นในปี 62เลือก TKS (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 29.8%YoY จากงานบัตรเลือกตั้งและการเพิ่มสินค้าและบริการด้านนวัตกรรม + แนวโน้มสดใส นอกจากนี้มี Upside Risk หากได้งาน E-Passport), TWPC (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 146.6%YoY จากแผน Inorganic Growth และสภาวะขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มดีขึ้น, TVDปี62 ตั้งเป้ารายได้รวม 4,800 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YoY แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจของทีวี ไดเร็ค 3,300 ลบ. และจาก 6 บริษัทในเครืออีก 1,500 ลบ. ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์หลักจากการทำ Omni Channel Direct Marketing Experience โดยผสมผสานการทำตลาดผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 
•    กลุ่มโรงพยาบาล: มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่   ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปีนอกจากนี้เตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง), BCH (แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF), BDMS (คาดกำไรปี 62 โต YoYจากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการWellness Clinic  รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วง 1Q62 (4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น) ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน)
 
    18-Mar-19    Change (pts.)    15-Mar-19
SET Index    1,617.57    -8.00    1,625.57
SET50 Index    1,074.63    -5.38    1,080.01
SET100 Index    2,367.28    -12.95    2,380.23
 
High    1,630.45    Gainers         360 
Low    1,612.85    Unchanged    404
Value (Bt m)    38,474.99    Losers   1,029 
Volume (*000)    13,554,993          
 
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    14.7    13.5    13.5
EPS Growth (%)    13.9    9.3    7.4
EV/EBITDA (x)    9.9    9.3    9.0
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6
Dividend Yield (%)    3.3    3.5    3.9
ROE    11.5    11.7    11.4
 
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    18-Mar-19    WTD    MTD    YTD
Institution    177.33    177.33    625.65    27,388.98
Proprietary    (853.43)    (853.43)    (1,100.17)    2,845.44
Foreign     (1,016.45)    (1,016.45)    (15,287.62)    (11,976.14)
Individual    1,692.55    1,692.55    15,762.14    (18,258.28)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)    [email protected]
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    [email protected]
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!