WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
“ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านบวก เจรจาการค้าคืบหน้า”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : BH (จาก Fully Valued เป็นถือ)
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วันศุกร์ -10.31 จุด ปิดที่ 1625.57 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นที่ 49.9 พันล้านบาท ดัชนีมีความผันผวนไปทำยอดสูงสุดที่1639.10 และต่ำสุด 1625.41จุด ตลาดฯกังวลกับการที่พรรคพปชร.มีนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสูงถึง 425 บาทและAOT อาจเลื่อนการประมูลบริหารพื้นที่ออกไป ด้านต่างประเทศการเจรจาการค้าเป็นลบ อาจเลื่อนวันพบปะผู้นำเป็น เม.ย.62 และ BREXIT มีความไม่แน่นอน ต่างชาติขายต่อเนื่อง สำหรับผู้ขายสุทธิเป็นต่างชาติ 2.3 พันลบ. สถาบัน 0.8 พันลบ. ด้านผู้ซื้อสุทธิคือ รายย่อย 2.8 พันลบ. พอร์ตโบรกเกอร์ 0.3 พันลบ. ตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงปัจจุบัน ต่างชาติขายสุทธิแล้ว 10.9พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ
# ระยะสั้นคาด SET ผันผวนไปทางบวกเล็กน้อย หลังทรัมป์กล่าวอาจทราบผลเจรจาการค้าใน 3-4 สัปดาห์ จากก่อนหน้าจะเลื่อนไปเม.ย. ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านตอบรับบวกถ้วนหน้า บอนด์ยิลด์สหรัฐ ดัชนีความกังวลปรับตัวลงดี ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐมีหลายตัวออกมาทางบวก
# ปัจจัยลบคือ Fed ประกาศตัวเลขดัชนีภาคการผลิต มี.ค.อ่อนลง ดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับลง และความไม่แน่นอนของ Brexit ปัจจัยในประเทศที่สำคัญสุดคือ โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งก่อนวันที่ 24 มี.ค.หลังเลือกตั้งล่วงหน้าผ่านไป คะแนนที่ออกมาสำคัญที่สุด เพราะจะมีผลกับการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต ตลอดจนเสถียรภาพของรัฐบาล ระยะหลังการลงทุนหันไปสนใจนโยบายพรรคใหญ่ กลับไปมีผลกับดัชนีฯ
# กลยุทธ์ คือ เก็งกำไรรอบสั้นแนวต้านเป็น 1630-1635 จุด แต่หากมีแรงขายต่อ แนวรับเป็น 1620,1610 จุด ไม่ควรคาดหวังผลตอบแทนสูง ด้านการซื้อลงทุนระยะกลาง ทยอยสะสม โดยมีดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 ยังเป็น 1750 จุด (+0.9 SD) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรของตลาดฯปี 62 ที่ +8% y-o-yแนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี หุ้น Top Pick ในงวด 1Q62 คือ AOT,BBL,CPALL,HANA,PTT และ WHA
 
หุ้นเด่น DRT : แนวโน้มปี 62 ยังไปได้ดี ตั้งเป้ายอดขายเพิ่ม 5% โดยปัจจัยหนุนคือ การฟื้นฟูความเสียหายจากพายุปาบึก ธุรกิจอิฐมวลเบาดีขึ้นในปี 61-62 คาดมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดินเข้ามาใน 1Q62 จะมีกำไรหลังภาษีราว 60-70 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 13-15% ของคาดการณ์ Core Profit ในปี 62 แนะนำซื้อเพื่อรับปันผลสูง อัตราผลตอบแทนราว 7.4% จ่ายปีละ 2 ครั้ง ให้ราคาพื้นฐาน 6.50 บาท
 
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เปลี่ยนเป็นลบ {“ปิดลบ”ใต้“SMA10วัน”อีกครั้ง (โดยถูกกดดันจาก“โครงสร้างขาลง –ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯสัปดาห์นี้“แกว่งลง”เป็นหลัก แต่การลงต่อเนื่อง (และอยู่ใกล้“แนวรับย่อย”) ทำให้มีโอกาสรีบาวด์ฯสั้นๆตามมาได้ แนวต้าน(กรณี“ฝืน”ขึ้นก่อน) 1630 – 1635 (หรือ 1645) จุด {แนวรับย่อย “1620 / 1610” จุด}
สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ RATCH,FPT,M,MEGA หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ GOLD,BBL,INTUCH,KTC,BGRIM,PLANB หุ้นที่หลุด List MINT,SPRC,TTCL,BCPG,AOT,RJH,PR9 ส่วนหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit SAMTEL 
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
 
 
ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : BH (ถือ -ราคาพื้นฐาน 197.00)
HMPRO (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 17.50)
Stock in Focus : CPALL (ราคาปิด 75.50 บาท) : อ่อนตัวเป็นจังหวะซื้อ
In The News : ข่าวเด่นวันนี้
Turnover List Watch : ไม่มีหลักทรัพย์ติด Cash Balance ตามคาด
 
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: ทรัมป์กล่าวจะทราบผลการเจรจาการค้าในอีก 3-4 สัปดาห์นี้
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐจะทราบในอีก 3-4 สัปดาห์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีน ขณะที่สื่อรายงานว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ โดยทั้งสองฝ่ายระบุว่า มีความคืบหน้าในการเจรจาการค้า
# นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่จีนจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนให้คำมั่นว่า จะบังคับใช้ "มาตรการที่แข็งแกร่ง" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัวลงเนื่องจากผลกระทบของข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
# นายหลี่ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ครั้งที่ 13 เมื่อวันศุกร์ว่าเศรษฐกิจจีนเผชิญกับแรงกดดันในช่วงขาลง และทางการจีนจะใช้มาตรการเพื่อกระตุ้นตลาดภายในประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วยประชาชนกว่า 100 ล้านครัวเรือน
 
+ สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาเชิงบวก
# สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน(JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน พุ่งขึ้นสู่ระดับ 7.6 ล้านตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากอยู่ที่ระดับ 7.34 ล้านตำแหน่งในเดือนธ.ค.ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.31 ล้านตำแหน่งในเดือนม.ค.
# กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่งในภาคเอกชน ขณะที่ภาครัฐเพิ่มขึ้น 59,000 ตำแหน่ง และตัวเลขอัตราการลาออกจากงานโดยสมัครใจ ทรงตัวที่ระดับ 2.3%
# มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 โดยดีดตัวสู่ระดับ 97.8 ในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 95.0 หลังจากแตะระดับ 93.8 ในเดือนก.พ.
 
- สหรัฐ: ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาเชิงลบ
# ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงาน ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดิ่งลงสู่ระดับ 3.7 จุดในเดือนมี.ค. จากระดับ 8.8 ในเดือนก.พ. อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก
 
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ปรับขึ้น สะท้อนความคาดหวังเจรจาการค้าดีขึ้น
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,848.87 จุด เพิ่มขึ้น 138.93 จุด หรือ +0.54% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,822.48 จุด เพิ่มขึ้น 14.00 จุดหรือ +0.50% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,688.53 จุด เพิ่มขึ้น 57.62 จุด หรือ +0.76%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (15 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และการที่จีนรับประกันว่าจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
 
- ภาวะตลาดน้ำมัน : WTI ปรับลง เกิดแรงขายทำกำไร และมีอุปทานส่วนเกินเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 9 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 58.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 67.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
# น้ำมันสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (15 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วัน และตลาดยังถูกกดดัน หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่า ตลาดน้ำมันโลกจะมีปริมาณน้ำมันส่วนเกินเล็กน้อยในไตรมาสแรกของปีนี้
 
- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ปรับขึ้น หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.80 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่1,302.90 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (15 มี.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งทำให้ทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุกราดยิงที่มัสยิด 2 แห่งในเมืองไครส์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์เมื่อวานนี้ และนักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
 
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
• การเมืองไทย: กังวลนโยบายหาเสียงพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะประเด็นปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสูง
# ได้รับผลกระทบจากนโยบายพรรคพลังประชารัฐมีนโยบายจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 425 บาทต่อวัน จากปัจจุบันสูงสุดที่ 330 บาทต่อวัน หรือ 29% ทำให้กังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อ ราคาสินค้าปรับขึ้นสูง หลักทรัพย์ที่มีต้นทุนแรงงานมากจะได้รับผลกระทบเช่น รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งช่วงเช้ามีราคาปรับตัวลง
# ผลกระทบ: เริ่มมีแรงโจมตีจากพรรคอื่นๆ หากมีนโยบายเป็นเช่นนี้ คาดว่าจะมีการปรับตัวตามมา แต่การที่พรรคพลังประชารัฐถูกคาดหวังว่าจะมีโอกาสสูงเช่นกันที่จะได้จัดตั้งรัฐบาล จึงทำให้มีน้ำหนัก และมีความหวั่นวิตกเกิดขึ้น
 
-AOT: การเปิดประมูลบริหารพื้นที่สนามบิน อาจจะช้าออกไป
# AOT: รมว.คมนาคม ให้ AOT ชะลอเปิดประมูลดิวตี้ฟรี 4 สนามบินและพื้นที่เชิงพาณิชย์สุวรรณภูมิ เพื่อทบทวนรูปแบบ-ข้อกฎหมาย แต่ผู้บริหาร AOT มั่นใจว่าเปิดประมูลได้ (Aspen)
# ผลกระทบ: เป็นลบในระยะสั้น จากเดิมที่คาดว่าการเปิดประมูลดิวตี้ฟรีจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น AOT ว่าจะเปิดการเสนอราคาได้ราว พ.ค.62 แต่ต้องติดตามว่าในทางปฏิบัติจริงจะล่าช้าไปหรือไม่ เพราะทางบอร์ด AOT ก็ยืนยันว่าได้ทำถูกต้องตามขั้นตอนแล้ว อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยฯ DBSVTH คาดว่าจะเป็นเพียงปัจจัยลบในระยะสั้นเท่านั้น ยังคงคำแนะนำ ซื้อ AOT ด้วยราคาพื้นฐาน 75.00 บาท เพราะปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง หากราคาหุ้นปรับลงมาก็เป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นมากกว่า
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
 
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!