เมื่อวาน ดัชนีฯหุ้นไทยพักตัวต่อ (หุ้นใหญ่ที่บวกค่อนข้างกระจัดกระจายไม่มีธีม ส่วนหุ้นกลางเล็ก Outperform ได้แก่ STPI ได้ข่าวบวกหนุน)     

          วันนี้ คาดดัชนีฯหุ้นไทยจะปรับขึ้น ส่วนหุ้นนำตลาดจะเล่นกระจายกลุ่มล้อไปกับ "รายชือหุ้นใน MSCI ที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักผ่าน NVDR (ดูรายชื่อหุ้น MSCI ในรายงาน Weekly) และ FTSE ที่จะมีผล Rebalance ศุกร์นี้" กลยุทธ์ลงทุน แนะ เลือกหุ้นลงทุนรายตัว-ดักกระแสการลงทุน หุ้นที่เชื่อมโยงหรือได้ประโยชน์จาก "ฤดูกาล" ที่เริ่มพูดถึงกันมากขึ้นในตลาด 

          สัปดาห์นี้ คาดหุ้นไทยจะพักฐาน เพื่อรอฟื้นตัวอีกครั้ง  แนวรับ 1,618 ต้าน 1,650 จุด โดยปัจจัยหนุนที่ต้องตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ MSCI reviews .), FTSE ที่เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยจะมีผล 15 มีค.        

 

          (*) BREXIT วันนี้ รัฐสภาอังกฤษ จะโหวตข้อตกลง แผนการแยกตัวออกจาก EU และหากการโหวตยังไม่ผ่าน คาดว่าจะมีข้อเสนอให้ EU พิจารณา ขยายระยะเวลาเส้นตายออกไปจาก เดิม 29 มีค. นี้ 

          (0) สัปดาห์นี้คาดจะได้เห็นตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอลง เช่น ยอดขายสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่ ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนที่ ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯลดลง พร้อมทั้งคำเตือน GDP 1Q จากเฟด แต่ ผลกระทบจากเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ชะลอคาดจะไม่มีผลต่อหุ้นไทย ด้วยภาวะเศรษฐกิจในฝั่งเอเชีย จะสะท้อนภาพการขยายตัวที่ดีกว่า เช่น ตัวเลขการผลิตในจีน มาเลเซียที่ทรงตัวบวก และ ภาคการส่งออก ของ อินเดีย ฟิลิปปินส์ ที่ดีขึ้นกว่าเดือนก่อน

          ดังนั้นภาวะเศรษฐกิจ สหรัฐฯ ยุโรปที่ชะลอลงในปีนี้ สอดคล้องตามมุมมองของ MS จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่และ ตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีอัตราการขยายตัวที่ดีกว่า และกลายเป็นเปาหมายในการเคลื่อนย้ายเงินลงทุน เข้ามาในตลาดหุ้นฝั่งนี้เพิ่มขึ้น ตามการ Overweight ของ MS  

          (+) FTSE เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย จาก 1.83% สู่ระดับ 1.87% โดยหุ้นเข้าคำนวณ Large Cap Index ได้แก่ HMPRO, GULF, EA, MINT, MAKRO, BEM, DIF ส่วนหุ้นเข้า Mid cap index ได้แก่ MTC, GPSC มีผลวันที่ 15 มี.ค. / และ สัปดาห์หน้า MSCI จะพิจารณานำกระดาน NVDR มารวมคำนวณในดัชนีฯ MSCI Thailand / รอลุ้นถ้ารวมคำนวณจริงคาด น้ำหนักหุ้นไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 3% จาก 2.5%  

 

          BJC โฆษกสรรพสามิตเผย ยอดขายน้ำอัดลมพุ่ง รับหน้าร้อน ระบุ ตค.18- กพ.19 ภาษีน้ำอัดลม ผสมสี เก็บภาษีได้เพิ่ม 300 ลบ. เพิ่มราว 2-3% / BJC ผลิตขวดน้ำอัดลมปอนให้กลุ่มไทยเบฟ  

          KOOL ดักยอดขายรับ ฤดูร้อน แนวรับ 1.5 ต้าน 1.7 Stop loss 1.4     

 

 

TISCO: Big dividend prompts rating upgrade

          TISCO รายงานตัวเลขสินเชื่อเดือน ก.พ. เติบโต 0.3% MoM โดยหนุนจากสินเชื่อรถยนตร์ (สมหวัง) และกลุ่มสินเชื่อบริษัท เราคาดสินเชื่อจะเติบโตต่อเนื่องใน มี.ค. โดยเฉพาะหลังเลือกตั้ง เรามองว่าจากแผนการขยายธุรกิจที่ชะลอตัวลง, capital adequacy ratio ที่สูงที่สุดในกลุ่ม, และยังไม่มีแผนการลงทุนขนาดใหญ่ เรามีการปรับสมมติฐานเงินปันผลในปี 2019 มาที่ 7 บาท (เท่ากับปี 2018) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลราว 7.9% เราปรับราคาเปาหมายขึ้นจาก 89 บาทเป็น 97 บาท อิง PBV ที่ 2 เท่า และปรับคำแนะนำขึ้นจาก ถือ เป็น ซื้อ 

 

FOOD: ENSO-neutral condition dominates 2H19

          เรามองว่าภาวะ El Ni-o ได้ผ่านจุด Peak ไปแล้วที่ 96% และมีโอกาสของการเกิดขึ้นปรับตัวลงมาเรื่อยๆที่ 77% ปลาย ม..ค และ 50% ในช่วง 2Q19 ในขณะที่ 3Q19 ปรับตัวลดลงไปเหลือ 38% ทำให้เรามองว่า 2H19 จะไม่เกิดภาวะดังกล่าว โดยตั้งแต่ พ.ค. ภาวะโอกาสของ Neutral ได้ปรับตัวขึ้นมาที่ 50-60% และโอกาสการเกิด La Ni-a ปรับตัวขึ้นจาก 0% ในช่วงต้นปีมาที่ 17% ใน 3Q19 จากข้อมูลดังกล่าวเรามองว่าจะเกิดภาวะฝนตกดีในช่วงครึ่งปีหลัง และภาวะร้อนกว่าปกติจะเกิดขึ้นเพียงในระยะสั้นช่วง มี.ค.-เม.ย. ในกลุ่มเรายังคงชอบผู้ประกอบการปศุสัตว์มากกว่าสินค้าเกษตร โดยเลือก CPF เป็น Top pick  

 

Refining & Chemical: Price and spread update (as of 8 March 2019) 

          ค่าการกลั่นเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น $0.67 จากสัปดาห์ก่อน ขึ้นมาสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ $4.19 นำโดย Gasoline ที่เพิ่มขึ้น $1.99 เป็น $5.29 (เป็นบวกต่อ SPRC มากสุด) แต่น้ำมันดีเซลกลับลดลง $0.51 มาเป็น $14.43 (กระทบ TOP) สำหรับผลิตภัณฑ์เคมีคอลส่วนต่างราคา MEG และ PVC และผลิตภัณฑ์โดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น บวกต่อหุ้นในกลุ่มอย่าง IVL และ PTTGC      

 

GPSC แก้ไขสัญญาซื้อ GLOW เหลือ 92 บาท

          กกพ. มีมติเห็นชอบการควบรวมกิจการระหว่าง GPSC และ GLOW แล้ว หลังจากที่ GLOW ได้ขาย SPP1 ให้ BGRIM ทั้งนี้ GPSC และ GLOW ได้ตกลงเปลี่ยนแปลงราคาซื้อขายหุ้นลง จากเดิม 95 บาท มาอยู่ที่ 92 บาท เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพิ่มเติม  โดย GLOW ได้รับเงินจากการขาย SPP1 จำนวน 3.3 พันล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 2 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะนับเข้ามาเป็นสินทรัพย์ของ GPSC หลังจากการเข้าซื้อเสร็จสิ้นลง ข่าวดังกล่าวน่าจะสร้าง positive sentiment ต่อราคาหุ้น GPSC ในระยะสั้นจากราคาซื้อ GLOW ที่ถูกลง อย่างไรก็ตามเนื่องจากเรายังมีความกังวลต่อการเพิ่มทุนของ GPSC จึงยังคงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ GPSC โดย BGRIM (BUY, Bt35) ยังเป็น Top pick สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้า 

 

Flow Tracker: ต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง

          นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 222 ล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งขายต่อเนื่องจากการซื้อสุทธิ 228 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค 5 ประเทศที่เราดู พบว่ากระแสเงินจากต่างชาติรวมเป็นยอดขายสุทธิ 1,464 ล้านเหรียญ ซึ่งกลับจากยอดซื้อสุทธิ 216 ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับสัปดาห์นี้ เราคาดว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคจะยังคงเผชิญแรงขายต่อเนื่อง เนื่องจากดัชนีระยะสั้นส่งสัญญาณอ่อนแอลง ทั้งนี้ดัชนี Volume Flow ของตลาดหุ้นไทยส่งสัญญาณถึงแรงขายในหุ้นทุกกลุ่มที่เราครอบคลุม และเราคาดว่าในสัปดาห์นี้แรงขายในหุ้นกลุ่มเหล่านี้จะยังคงมีอย่างต่อเนื่องเนื่องจากดัชนี Volume Flow ส่งสัญญาณอ่อนแอลงเช่นกัน 

 

          (+/0) STPI  บวกแรงเมื่อวาน หลังอนุญาโตตุลาการสั่งให้คู่สัญญา ตปท.จ่ายค่าจ้างตามสัญญาค้างชำระราว 2.6 พันลบ. ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการขอรับชำระเงินตามคำตัดสินโดยไม่ชักช้า อย่างไรก็ดียังคงมีความไม่แน่นอนว่าบริษัทจะสามารถได้รับเงินตามคำตัดสินเมื่อใด อันเป็นความเสี่ยงตามปกติของการบังคับคดีและการเก็บเงินจากลูกหนี้การค้าหลังกระบวนการอนุญาโตตุลาการ (ที่มา อินโฟเควสท์) 

          (+) BJC  (ผลิตขวดฯ) รองโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จากอากาศที่กำลังร้อนขึ้นในช่วงนี้ส่งผลให้การจัดเก็บน้ำอัดลมขายดี ทำให้การจัดเก็บภาษีน้ำอัดลมสูงขึ้น โดยพบว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบ 2562 คือในเดือนตุลาคม 2561-กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีจาก น้ำหวาน ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ในเครื่องดื่มประเภทน้ำสี-น้ำอัดลม เพิ่มขึ้นจากประมาณการ 300 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2-3% โดยคาดว่าในปีนี้หลังจากการปรับขึ้นภาษีน้ำหวานอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2562 กรมจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีรวม 25,000 ล้านบาท/ปี จากปีก่อนจัดเก็บภาษีได้ 22,000 ล้านบาท/ปี (ที่มา มติชน) 

          (*) GPSC ตื่นขายหุ้น GPSC กังวลเพิ่มทุนเท่าตัว เพื่อซื้อ GLOW ในราคาสุดท้ายที่สรุปแล้ว อยู่ที่ 91.99 บ. (จากเดิม 94.892) ที่มา ข่าวหุ้น 

          (+) PRM  เผยกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งและกักเก็บ (FSU) มีความต้องการใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากข้อกำหนดของ IMO พร้อมซื้อเรือใหม่เพิ่มทันทีอีก 1 ลำ เพื่อขยายกองเรือที่ให้บริการในกลุ่มธุรกิจนี้ จากเดิม 5 ลำ เป็น 6 ลำ สนับสนุนเปาหมายการเติบโตของธุรกิจ 10-15%  

          PRM ลงทุนซื้อเรือ FSU ขนาดประมาณ 300,000 DWT (VLCC) เข้ามาให้บริการเพิ่มเติมอีก 1 ลำ เพื่อรองรับปัจจัยบวกดังกล่าว (ที่มา ASPEN)   

 

 

SET Index ปิด 1627.43 (-0.17%)  มูลค่าการซื้อขาย 3 หมื่นล้านบาท

 

          SET Index แนวรับ 1,623 แนวต้าน 1,633 / SET100 รับ 2,375 ต้าน 2,390 BSET100 รับ 10.36 ต้าน 10.44 / BMSCITH รับ 12.27 ต้าน 12.35

 

          ตลาดมีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับการฟื้นตัวระยะสั้น ถึงแม้จะมีแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก เช่น การปรับตัวลงของตลาดหุ้นโลก แรงขายของต่างชาติ นอกจากนี้กระแสเงินลงทุนบางส่วนขยับเข้าหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ดอลลาร์ ซึ่งแน่นอนเรายังคงเผชิญกับตลาดหุ้นขาลงแต่ในด้านเทคนิคเราสามารถหาจุดการเทรดเพื่อรอโอกาสการเล่นรีบาวด์ในภาวะตลาดขาลง เช่น ดัชนีปรับตัวลงมาถึงกรอบล่าง Lower band และยิ่งลงลึกมากก็จะส่งผลให้ค่า Stochastic อยู่ในภาวะ Oversold โอกาสที่ดัชนีจะรีบาวด์ขึ้นในระยะสั้นมีความแม่นยำสูงมากขึ้นนอกจากนี้ตัวเลขสถิติการปรับฐานของตลาดโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 5-8% พร้อมกับวอลุ่มจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 

 

          แนวโน้มตลาดระยะสั้น 1-2 วันข้างหน้ามีโอกาสรีบาวด์จาก Oversold มองแนวรับ 1620 จุด / แนวต้าน 1640 จุด 

 

          หุ้นที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นจากแนวรับพร้อมกับวอลุ่มเพิ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ หรือ หุ้นขนาดกลาง-เล็กราคายังไม่ได้ขึ้นมากนักจะปรับตัวดีในช่วงตลาดพักตัว  

          Technical signal recovery: BCH, CPF, KTC  

          Technical bearish signal: KCE, MTC, GPSC, EPG (Probability breakdown major support)  

          Port หุ้นคงเหลือแนะถือต่อ: IVL, TASCO, JMT, PRM, BJC, BEAUTY, TRUE, SAMART, MAKRO 

 

 

 

          BCH 

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 15.70  

          ต้าน 17.50  

          เหตุผล ฟื้นตัวบนแนวรับสำคัญ 15 หนุนด้วยสัญญาณกลับตัวระยะสั้น "Bull Stochastic" 

 

          CPF 

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 25.00  

          ต้าน 30.00  

          เหตุผล ราคาสู้บริเวณแนวรับสำคัญ 25 บ. ขณะที่ RSI ลงต่ำ Oversold ลุ้นการฟื้นตัวจากแนวรับ 

 

          KTC 

          แนะนำ ซื้อ 

          รับ 30.50 

          ต้าน 35.00 

          เหตุผล เครื่องมือ Bollinger band และ MACD บ่งชี้สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น