- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 11 March 2019 20:42
- Hits: 2657
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Money Wizard
ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ : SET Index อ่อนตัวลง -3.09 จุด (-0.19%) ปิดที่ 1,630 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 3.4 หมื่นล้านบาท นักลงทุนยังกังวลกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลังจาก ECB ปรับลดคาดการณ์ GDP ของยูโรโซนในปีนี้และปีหน้า ขณะที่จีนรายงานยอดส่งออกและนำเข้าเดือน ก.พ.ออกมาหดตัว Fund Flow ต่างชาติยังเป็นลบ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอีก 524 ล้านบาท ขายติดต่อกันเป็นวันที่ 10, Net Short TFEX 9,363 สัญญา และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 175 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index จะยังผันผวนในทิศทางลงทดสอบระดับ 1,615 – 1,620 จุด เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ หุ้นกลุ่ม Global play จะยังถูกกดดัน นักลงทุนยังกังวลกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลังจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักรายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอในหลายกิจกรรม โดยล่าสุด จีนรายงานยอดส่งออกนำเข้าเดือน ก.พ. หดตัว 20.7%yoy และ 5.2%yoy ตามลำดับ ขณะที่สหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.พ.เพิ่มขึ้นเพียง 20,000 ตำแหน่ง ต่ำสุดในรอบ 17 เดือน และน้อยกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง ประกอบกับนักลงทุนบางส่วนเริ่มชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนหลังการเลือกตั้ง
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy เน้น Domestic play
•กลุ่มโรงกลั่น (TOP, PTTGC, SPRC) คาดงบ 1Q19 เป็นบวกจากค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นและ Stock gain
•กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ได้ประโยชน์เม็ดเงินที่จะสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
•กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19 และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนขยายตัวขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้ : EA (ปิด 47.5 ซื้อ/เป้า 63) คาดกำไรสุทธิ 1Q19 พุ่งทำ All time high รับข่าวดีโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน 1 และ 8 กำลังการผลิตรวม 90MW เริ่ม COD ตั้งแต่ 25 ม.ค. สัปดาห์หน้าจะถูกปรับเข้าคำนวณในดัชนี FTSE Larg cap รอบใหม่, JMT (ปิด 14.1 ซื้อ/เป้า 15.7) คาดแนวโน้มกำไรสุทธิในปีนี้จะยังพุ่งทำ All time high ได้ในทุกไตรมาสจากรายได้ของการเรียกเก็บหนี้ที่เพิ่มขึ้นตามพอร์ตหรือฐานลูกหนี้ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีพอร์ตหนี้ในการบริหารทั้งหมด 1.4 แสนล้านบาท สามารถสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องไปได้อีกอย่างน้อย 12 ปี
Top picks ปี 1Q19 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : CK (ปิด 26 ซื้อ/เป้าใหม่ 40 เดิม 31), EA (ปิด 47.5 ซื้อ/เป้า 63)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
•(-) ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.พ.ออกมาต่ำคาด แต่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงเฉลี่ยกลับเพิ่มขึ้นอาจสร้างความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ : กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้น 20,000 ตำแหน่ง ต่ำสุดในรอบ 17 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานร่วงลงสู่ระดับ 3.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%อย่างไรก็ตามตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.4% ในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. และเมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.4% จาก 3.1% ในเดือน ม.ค.และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 3.2% (เศรษฐกิจไม่ดีแต่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น)
•(-) มูลค่า ส่งออก และ นำเข้า จีนเดือน ก.พ. หดตัว 20.7%yoy และ 5.2%yoy สร้างความกังวลต่อภาคการค้าโลกและกดดันภาคการส่งออกของไทย : จีนรายงานมูลค่าการส่งออกเดือน ก.พ.ลดลง 20.7%yoy สู่ระดับ 1.3524 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 5.2%yoy สู่ระดับ 1.3112 แสนล้านดอลลาร์ สร้างความกังวลต่อภาคการค้าโลก รวมถึงภาคการส่งออกของไทยที่อาจจะยังหดตัวต่อเนื่องอีก เนื่องจากจีนเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกหลักของบ้านเรา
•(+) ปัจจัยที่ต้องติดตาม - FTSE ปรับน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยรอบเดือน มี.ค. และจะมีผลบังคับใช้โดยใช้ราคาปิด ณ สิ้นวันที่ 15 มี.ค.: โดยหุ้นไทยจะถูกเพิ่มน้ำหนักใน FTSE All Word Asia-Pacific จาก 1.83% เป็น 1.87% คาดจะมีเม็ดเงินไหลเข้าประมาณ 5 พันล้านบาท โดยรอบนี้มีหุ้นที่เข้าคำนวณในดัชนี Large Cap คือ HMPRO, GULF, EA, MINT, MAKRO, BEM, DIF และหุ้นที่เข้าดัชนี Mid Cap คือ MTC, GPSC ทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้โดยใช้ราคาปิด ณ สิ้นวันที่ 15 มี.ค.
นักวิเคราห์ ปัจจัยพื้นฐาน : อาทิตย์ จัทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และนักกลยุทธ์ : ชัยยศ จิวางกูร Registration No.15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์ : ยุภาวณี เล้าตระกูชัย ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี