- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 08 March 2019 16:43
- Hits: 4963
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Selective Buy//Wait to Accumulate around 1,600+-
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ในช่วงครึ่งเช้าตามคาดเพื่อรอดูผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญประเด็นยุบพรรคไทยรักษาชาติ อย่างไรก็ตามตลาดถือว่าตอบรับเชิงบวกกับคำตัดสินและสามารถปิดเหนือระดับแนวต้านบริเวณ 1,630 จุดได้ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นบางลงเหลือเพียง 570 ลบ. (และพลิกมา Long ใน Index Futures สูงถึง 1.3 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways Down จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบหลัง ECB ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อยูโรโซนลงและทำให้ตลาดกังวลลามไปถึงเศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัว อย่างไรก็ตามเราคาดว่า SET มีโอกาสปรับตัวได้แข็งกว่าภูมิภาคจากการเมืองการเลือกตั้งที่มีความชัดเจนขึ้นหลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวานนี้ ขณะที่มาตรการ LTRO III มีโอกาสหนุนให้เม็ดเงินไหลเข้า Emerging Market ในระยะถัดไป
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว//รอสะสมหุ้นพื้นฐานบริเวณ 1,600 จุดบวกลบ
หุ้นเด่นเดือน มี.ค : EA, ERW, PLANB, RS, TVO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$207ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$148ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$18ล้าน ขณะที่ไหลเข้าฟิลิปปินส์ US$11ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคกังวลภาวะเศรษฐกิจหลัง ECB ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซนลง
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> ROBINS <<
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 80 บาท (ตัดขาดทุน 63 บาท)
- คาดกำไรปีนี้ +15% Y-Y เป็น 3,422 ลบ. จากกำลังซื้อที่ฟื้นตัว, แผนการเปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง, การเติบโตของรายได้ค่าเช่า, และอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัวตามสัดส่วนสินค้า House Brand
- การเมืองที่มีความชัดเจนขึ้น ส่งผลบวกการเดินหน้าหาเสียงโค้งสุดท้าย เป็นบวกต่อ Domestic Play ซึ่ง ROBINS ยัง Laggard หุ้นใน SET50 อยู่ราว 5%
- ราคาหุ้นวันนี้จะเปิดลง 1.35 บาทจากการขึ้น XD แต่ 2 ปีที่ผ่านมาหุ้น ราคาปิดสิ้นวันทรงตัวถึงบวก
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ECB ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ที่ประชุม ECB คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเท่าเดิม แต่กลับมาปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้สถาบันการเงินเป็นครั้งที่ 3 (TLTRO 3) ครั้งแรกทำเมื่อปี 2014 และครั้งที่ 2 ทำเมื่อปี 2016 ซึ่งเป็นปีที่ตลาดหุ้นยุโรปให้ผลตอบแทนเป็นลบช่วงต้นปีแล้วพลิกเป็นบวกช่วงปลายปีทั้งคู่ พร้อมกันนี้ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ลงเหลือ 1.1% จาก 1.7% และปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อลงเหลือ 1.2% จาก 1.6% โดยให้เหตุผลว่ามาจากปัญหาหนี้อิตาลี, Brexit, และสงครามการค้า ผลที่ตามมาคือเงินสกุลยูโรร่วงต่ำสุดในรอบ 21 เดือน อยู่ที่ $1.12/ยูโร และตลาดหุ้นยุโรปร่วงเฉลี่ย 1% จากความกังวลในการชะลอตัวของเศรษฐฏิจ ส่วนเงินสกุลเอเชียแข็งค่าเมื่อเทียบยูโรแต่ยังทรงตัวเมื่อเทียบดอลล่าร์ฯ เรามองผลกระทบเป็นบวก จากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น และกระแสเงินที่มีโอกาสไหลออกจาก EU มาเข้าตลาด EM
(+) กลุ่มรับเหมา โครงการก่อสร้างทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง รวม 4 สัญญา มูลค่า 2.9 หมื่นลบ. เริ่มขาย TOR แล้ววานนี้ (7 มี.ค.) ถึง 23 เม.ย. 2019 โดยกำหนดยื่นซอง 24 เม.ย. 2019 และเปิดซอง 25 เม.ย. 2019 งานภาครัฐถูกเร่งผลักดันออกมาอย่างต่อเนื่องก่อนการเลือกตั้ง ผู้ที่ได้รับประโยชน์จะเป็นผู้รับเหมาหลัก ทั้งในแง่ของ Backlog ที่เพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่ควรขยายตัว (ปริมาณงานที่ออกมามากจะทำให้การแข่งขันลดลง) เราชอบ STEC (ราคาเป้าหมาย 28.50) และ CK (ราคาเป้าหมาย 33) ส่วน SEAFCO (ราคาเป้าหมาย 11.60) จะได้รับอานิสงค์ในฐานะ Subcontractor
(0) PRM ราคาหุ้นปรับตัวลง 7% วานนี้ไม่ได้เกียวกับปัจจัยพื้นฐาน โดยเรามองเป็นเพียงการพักตัวระยะสั้น หลังจากที่ราคาหุ้นปรับขึ้นแรง 26% YTD ทั้งนี้ เราได้ตรวจสอบข้อมูลทั้ง 4 ธุรกิจหลักยังขับเคลื่อนกำไรได้เต็มศักยภาพของการให้บริการ โดยเฉพาะเรือจัดเก็บน้ำมันกลางทะเล (FSU) ที่เคยชะลอตัวในปีก่อน กำลังรับเรือใหม่รวมเป็น 6 ลำในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่ เรือให้บริการแท่นขุดเจาะถูกเรียกกลับไปหมดแล้ว ส่วนเรือขนส่งน้ำมันในประเทศ (50% ของรายได้รวม) อยู่ในช่วงเติบโตต่อเนื่อง เราคาดกำไรปีนี้ราว 800 ลบ. +12% Y-Y PE2019 ต่ำเพียง 18 เท่า เทียบกับภูมิภาคที่ 30 เท่า และปันผลสม่ำเสมอ 3-4% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 9 บาท (ทั้งนี้ ช่วงบ่ายจะมีการประชุมนักวิเคราะห์ คาดว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวกมากขึ้น)
(0) ZEN ประชุมวานนี้ โทนกลางๆ ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ปีนี้ 123 สาขา เป็นร้านตัวเอง 36 สาขาและ Franchise 87 สาขา ดูเชิงรุกมมากขึ้นเพราะปี 2018 เปิดเพียง 26 สาขา สิ้นปีมี 255 สาขา สาขาที่เปิดใหม่ปีนี้ส่วนใหญ่เป็นสาขาเล็กราว 50% ของแผนจะเป็น "เขียง" ร้านอาหารตามสั่งในปั้มน้ำมัน โดยตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้โต 15-20% ล่าสุด SSSG 1QTD ยังลบเล็กน้อยในเดือน ม.ค. เพราะเจอเรื่องฝุ่น ส่วน ก.พ. กลับมาทรงตัว เราคาดกำไรปีนี้โต 38.8% และคงราคาเป้าหมายที่ 16.5 บาท ราคาหุ้นปรับลงจนมี upside กว้างขึ้นเป็น 13% จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
8 มี.ค. - สหรัฐฯ: ยอดจ้างงานนอกภาคเกษตร (ก.พ.)
- จีน: ดุลการค้า (ก.พ.)
9 มี.ค. - จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
11 มี.ค. - สหรัฐฯ: ยอดค้าปลีก (ม.ค.)
- ฟิลิปปินส์: ดุลการค้า (ม.ค.)
- ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.)
12 มี.ค. - สหรัฐฯ: อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง หลัง ECB ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจลง
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง หลัง ECB ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ลงเหลือ 1.1% จาก 1.7% และคาดการณ์เงินเฟ้อลงเหลือ 1.2% จาก 1.6% พร้อมทั้งออกมาตราการ TLTRO3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าคาด
(-) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
(0) ค่าเงินบาททรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.85 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น +0.44 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 56.66 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง Supply จากทาง OPEC ยังคงปรับลดลง
(-) ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง -1.50 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1286.1 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research