- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 08 March 2019 16:26
- Hits: 4038
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Money Wizard
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้น +7.70 จุด (+0.47%) ปิดที่ 1,633 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.8 หมื่นล้านบาท แม้ว่าตลาดจะมีความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แต่ SET ดีดตัวขึ้นตอบรับความชัดเจนทางการเมือง หลังศาลฯมีมติยุบพรรคไทยรักษาชาติพร้อมเพิกถอนสิทธิกรรมการพรรคเป็นเวลา 10 ปี ทั้งนี้เป็นแรงซื้อในกลุ่ม COMM, FIN และ Cons โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 570 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX 13,024 สัญญา รวมทั้งซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 291 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index แกว่งตัว 1,625 – 1,640 จุด แม้ว่าภาวะการเมืองภายในที่มีความชัดเจนหลังศาลฯมีมติยุบพรรคไทยรักษาชาติ รวมถึง ECB เตรียมปล่อยเงินกู้ครั้งใหม่ (TLTRO-III) เริ่มเดือนก.ย.2562 – มี.ค. 2564 เพื่อช่วยเหลือภาคธนาคารในการปล่อยสินเชื่อในยูโรโซน และจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ต่อไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นปี 2019 จะช่วยหนุนต่อ sentiment การลงทุน อย่างไรก็ตามความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวยังคงเป็นแรงกดดันหลักในช่วงนี้โดยล่าสุด ECB ปรับลดคาดการณ์ GDP ยูโรโซนปีนี้ลงสู่ 1.1% (จากเดิม 1.7%) จากผลกระทบ Trade war และความเปราะบางของตลาดเกิดใหม่ นอกจากนี้ Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกเป็นวันที่ 9 ต่อเนื่องโดย Net Sell รวมราว 1.4 หมื่นลบ. จะเป็นตัวถ่วงภาวะการลงทุนด้วยเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy
• กลุ่มโรงกลั่น (TOP, PTTGC, SPRC) คาดงบ 1Q19 เป็นบวกจากค่าการกลั่นฟื้นตัวขึ้นและ Stock gain
• กลุ่มอาหาร (GFPT, CPF, TU) อิเล็คทรอนิกส์ (KCE, SVI) ได้อานิสงส์เงินบาทที่อ่อนค่าลง
• กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ได้ประโยชน์เม็ดเงินที่จะสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
• กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19 และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนขยายตัวขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้ : CPN (ปิด 74 ซื้อ/เป้า 93) ราคาลดลงสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอใน 4Q18 ไปแล้วมองเป็นโอกาสซื้อคาดงบ 1Q19 พลิกเติบโตทั้ง qoq และ yoy ขณะที่ภาพรวมทั้งปีโตต่อเนื่องอีก 15% จากการเปิดโครงการใหม่และปรับขึ้นค่าเช่า, EA (ปิด 47.5 ซื้อ/เป้า 63) คาดกำไรสุทธิ 1Q19 พุ่งทำ All time high รับข่าวดีโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน 1 และ 8 กำลังการผลิตรวม 90MW เริ่ม COD ตั้งแต่ 25 ม.ค. สัปดาห์หน้าจะถูกปรับเข้าคำนวณในดัชนี FTSE Larg cap รอบใหม่, TCAP(ปิด 55.75 ซื้อ/เป้าสูงสุด Consensus 67) ได้ผลบวกจากดีลควบรวม TMB+TBANK คาด TCAP จะมีกำไรพิเศษจากการขาย TBANK ทำให้เป็นไปได้ว่า TCAP อาจจะจ่ายปันผลพิเศษหรือซื้อหุ้นคืนเป็นบวกกับผู้ถือหุ้นมากกว่าหากเทียบกับ TMB
Top picks ปี 2Q19 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : COL (ปิด 23.7 ถือ/เป้า 25), Electronics sector (Top pick : SVI)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
• (-) ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ตามเดิม แต่ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้เป็น 1.1% จากเดิม 1.7% กดดันดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง : ECB คงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% แต่มีมุมมองเป็นลบต่อทิศทางเศรษฐกิจ กังวลผลกระทบสงครามการค้า, Brexit และเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ยังเปราะบาง จึงปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้เป็นขยายตัว 1.1% จากเดิม 1.7% แต่ ECB ออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติมด้วยการปล่อยเงินกู้รีไฟแนนซ์ระยะยาวรายไตรมาส (TLTRO-III) ซึ่งเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้ภาคธนาคารนำไปปล่อยกู้เพื่อการบริโภค
• (+) ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ รับข่าวโอเปกผลิตน้ำมันดิบลดลงในเดือน ก.พ. จากการลดการผลิตของซาอุฯ และสหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรเวเนซุเอล่า : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 56.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รับข่าวโอเปกผลิตน้ำมันดิบลดลงอีก 6 แสนบาร์เรลในเดือน ก.พ. สู่ระดับ 30.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี จากการลดการผลิตของซาอุฯ และ เวเนซุเอล่าถูกสหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตร
• (+/-) ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคไทยรักษาชาติ กระทบ Sentiment แค่ช่วงสั้น ภาพใหญ่คงมุมมองบวก การเมืองในประเทศเดินหน้าต่อ พร้อมจัดการเลือกตั้ง 24 มี.ค.19 : ผลการตัดสินให้ยุบพรรค ทษช. เป็นผลกระทบแค่ช่วงสั้น ส่วนภาพใหญ่คงมุมมองเป็นบวก การเลือกตั้งทั่วไปจะยังมีขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.19 ขณะที่คำตัดสินของศาลไม่ได้รุนแรงเกินไป โดยเฉพาะการตัดสิทธ์กรรมการบริหารพรรคซึ่งศาลลงมติให้ตัดสิทธิ์ทางการเมืองเพียง 10 ปี ดีกว่าที่ตลาดกังวลว่าอาจจะถูกตัดสิทธ์ตลอดชีวิต อย่างไรก็ตามเนื่องจากผลการเลือกตั้งยังมีความไม่แน่นอน ทำให้การปรับขึ้นของดัชนีในช่วงก่อนการเลือกตั้งจะยังเป็นไปอย่างจำกัด โดยเรายังคงกรอบ SET Index ในเดือน มี.ค.ตามเดิมที่ 1,630-1,700 จุด
• (+) สัปดาหน้า FTSE ปรับน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยรอบเดือน มี.ค. และจะมีผลบังคับใช้โดยใช้ราคาปิด ณ สิ้นวันที่ 15 มี.ค.: โดยหุ้นไทยจะถูกเพิ่มน้ำหนักใน FTSE All Word Asia-Pacific จาก 1.83% เป็น 1.87% คาดจะมีเม็ดเงินไหลเข้าประมาณ 5 พันล้านบาท โดยรอบนี้มีหุ้นที่เข้าคำนวณดัชนี Large Cap คือ HMPRO, GULF, EA, MINT, MAKRO, BEM, DIF และหุ้นที่เข้าดัชนี Mid Cap คือ MTC, GPSC ทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้โดยใช้ราคาปิด ณ สิ้นวันที่ 15 มี.ค.
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และนักกลยุทธ์ : ชัยยศ จิวางกูร Registration No.15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์ :
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี