WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aceบล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้เราคาดดัชนี SET เสี่ยงแกว่งลงต่อ ด้วยปัจจัยลบจาก Flow ของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่องเป็นวันที่แปดติดต่อกัน บวกกับ Consensus ปรับคาดการณ์กำไรปีนี้ลดลง มอง Downside ของ SET เปิดกว้างขึ้นหลังหลุดแนวรับ 1,630 จุดวานนี้ คาดจะเผชิญแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,600 จุด
Market Factors
•          (-) สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ 6.2 แสนล้านดอลลาร์ นำโดยยอดขาดดุลการค้ากับจีนมากที่สุด 4.2 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 11.6%YoY รองลงมาเป็นเม็กซิโกและเยอรมนี 8.2 และ 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
•        (watch) จับตาคำตัดสินกรณีคำร้องยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) จากศาลรัฐธรรมนูญวันนี้
•         (+) กกร. คงเป้าหมายจีดีพีโต 4.0-4.3% และตัวเลขส่งออก 5.0-7.0% สวนทางเศรษฐกิจโลกแนวโน้มชะลอตัว หนุนด้วยแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยภายในประเทศ เชื่อมั่นการเลือกตั้งช่วยสร้างความมั่นใจนักลงทุน (มติชน)
•         (watch) จับตา กกพ. แถลงตัวเลขค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) สำหรับเดือน พ.ค.-ส.ค. 62 
•        (watch) อัพเดท Flow การลงทุนตลาดหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเดือน ม.ค. 62 ซื้อสุทธิ 6,721.62 ลบ. และเดือน ก.พ. 62 ขายสุทธิ 3,410.15 ลบ. ส่วน Month to date ต่างชาติขายสุทธิ 7,766.64 ลบ.
•          (watch) เมื่อวานนี้เราเริ่มเห็นสัญญาณการย้ายเม็ดเงินออกจากตราสารหนี้ระยะสั้นเข้าไปพักเงินไว้ที่ตราสารหนี้ระยะยาวมากขึ้น โดยเมื่อวานนี้ Yield ของ Thailand Government Bond อายุ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นขณะที่อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ Spread ของพันธบัตร2Yr-10Yr ปรับตัวสูงขึ้นเป็น -75.3433 bps จากวันก่อนหน้าที่ -80.1589 bps สอดคล้องกับ Flow ของนักลงทุนต่างชาติโดยจากข้อมูลของ Thaibmaพบว่าเมื่อวานนี้เข้าซื้อสุทธิตราสารหนี้ระยะยาว 1,043.05 ล้านบาทแต่ขายสุทธิตราสารหนี้ระยะสั้น 4,651.77 ล้านบาท
Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้เรามอง SET Index แกว่งย่อลงต่อหลังประกาศงบปี 61 เสร็จ ซึ่งจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ได้ทยอยปรับลดประมาณการ EPS ของดัชนีต่อเนื่องโดยตั้งแต่ต้นปี 62EPS อยู่ที่ 114.9 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 110.07 บาท หรือลดลง 4.2%Year To Date ซึ่งทำให้ PE Valuation ของ SET Index ปรับตัวสูงขึ้นปัจจุบัน FWD PE ปี 62 อยู่ที่ระดับ 14.77x และ EPS Growth ปี 62 อยู่ที่ระดับ 12.7%YoY ขณะที่ประเทศอื่นใน TIP Market ล้วนแล้วแต่มี PEG ต่ำกว่า 1x ได้แก่ JCI Index (อินโดนีเซีย) FWD PER ปี 62 อยู่ที่ระดับ 15.45x และ EPS Growth ปี 62 อยู่ที่ระดับ 33.3%YoY และ PCOMP Index (ฟิลิปปินส์) FWD PER       ปี 62 อยู่ที่ระดับ 16.61x และ EPS Growth ปี 62 อยู่ที่ระดับ 17.95%YoY นอกจากนี้ถ้าพิจารณาจาก A Share Index จะพบว่า FWD PER ปี 62 อยู่ที่ระดับ 11.57x และ EPS Growth ปี 62 อยู่ที่ระดับ 26.5%YoY ดังนั้นมองความน่าสนใจในการลงทุนของตลาดหุ้นไทยน้อยกว่าภูมิภาค และมองว่าเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติจะ Switch ออกจากตลาดหุ้นไทยไปยังภูมิภาคอื่นที่น่าสนใจกว่าโดยปัจจุบัน SET ได้หลุด 1,630 จุด คาดแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,600 จุด ทั้งนี้การปรับตัวลงของ SET เป็นโอกาสเข้าซื้อ 3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้
•    Turnaround Stock: โดยเลือกหุ้นที่กำไรปี 61 ชะลอลงแต่จะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่นในปี 62เลือก TKS (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 29.8%YoY จากงานบัตรเลือกตั้งและการเพิ่มสินค้าและบริการด้านนวัตกรรม + แนวโน้มสดใส นอกจากนี้มี Upside Risk หากได้งาน E-Passport), TWPC (ปี 62 คาดกำไรโตเด่น 146.6%YoY จากแผน Inorganic Growth และสภาวะขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มดีขึ้น), BEC (คาดเห็นการ Turnaround ของกำไรตั้งแต่ช่วง 1Q62 โดยมีปัจจัยบวกหลักจาก 1) ไม่มี One-time expense ที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างพนักงาน    2) Rating เริ่มฟื้นตัวขึ้นจากเพียง 1.108 ในเดือน ธ.ค. เป็น 1.292 ในช่วงเดือน ก.พ. หลังละคร “ทองเอก     หมอยาท่าโฉลง” และ “ตุ๊กตาผี” ได้รับความนิยมสูง  3) เม็ดเงินโฆษณาของสื่อทีวีในเดือน ม.ค. ปรับขึ้น 3.25%YoY สวนทางอุตสาหกรรม), TVDปี62 ตั้งเป้ารายได้รวม 4,800 ลบ. เพิ่มขึ้น 20% YoYแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจของทีวี ไดเร็ค 3,300 ลบ. และจาก 6 บริษัทในเครืออีก 1,500 ลบ. ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์หลักจากการทำ Omni Channel Direct Marketing Experience โดยผสมผสานการทำตลาดผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 
•    กลุ่มโรงพยาบาล: มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่   ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปีนอกจากนี้เตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง), BCH (แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF), BDMS (คาดกำไรปี 62 โต YoYจากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการWellness Clinic  รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วง 1Q62 (4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น) ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน)
•    กลุ่มจำนำทะเบียนรถ: รับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น แนะนำSAWAD (คาดปี 62 กำไรโต 30.8%YoYจากแผนขยายสินเชื่อใหม่ 20-30%YoYสอดรับกับจำนวนสาขาที่จะเพิ่มขึ้นอีก300-400 สาขาบวกกับรับรู้ผลของYield ที่ฟื้นตัวแบบเต็มปีและต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตรราว 2,500-2,600 ลบ.) และ MTC (คาดกำไรปี 62 โต 33.7%YoY หนุนด้วยแผนเปิดสาขาใหม่อีก 600 สาขาเพื่อเพิ่มพื้นที่บริการให้ครอบคุมมากขึ้น พร้อมตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่อีก 35%YoY ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมีNPL ต่ำสุดในกลุ่ม) 
Quantitative Screening
•    หุ้นกลุ่มที่มี Performance Improvement น่าสนใจ หลังประกาศงบปี 61 ทั้งในแง่ของการเติบโตของรายได้และกำไร รวมทั้งอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ขณะที่ระดับ PER ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PER ของ Sector ย้อนหลัง 3 ปี แนะนำ MAJOR, PORT, PSH, AMANAH และ ASK
 
    6-Mar-19    Change (pts.)    5-Mar-19
SET Index    1,625.51    -13.49    1,639.00
SET50 Index    1,078.65    -10.73    1,089.38
SET100 Index    2,379.17    -22.32    2,401.49
 
High    1,639.42    Gainers  653 
Low    1,624.68    Unchanged    485
Value (Bt m)    41,234.20    Losers  644 
Volume (*000)    12,923,509          
 
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    14.8    13.5    13.5
EPS Growth (%)    13.9    9.3    8.1
EV/EBITDA (x)    9.9    9.3    9.1
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6
Dividend Yield (%)    3.2    3.5    3.9
ROE    11.5    11.6    11.6
 
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    6-Mar-19    WTD    MTD    YTD
Institution    859.66    1,394.52    (1,747.45)    25,015.88
Proprietary    (1,266.01)    (557.03)    (8.67)    3,936.93
Foreign     (2,601.51)    (5,987.70)    (7,766.65)    4,455.17
Individual    3,007.86    5,150.21    9,522.77    (24,497.64)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)    [email protected]
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    [email protected]
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!