ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลง -13.49 จุด (-0.82%) ปิดที่ 1,625 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวหลังจีนปรับลดเป้าหมาย GDP ปี 2019 ลงสู่ระดับ 6 – 6.5% นอกจากนี้ยังมีแรงขายลดความเสี่ยงก่อนศาลฯตัดสินคดียุบพรรคไทยรักษาชาติโดยเป็นแรงขายในกลุ่ม COMM, FIN และ PETRO ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,602 ล้านบาท และNet Short TFEX 490 สัญญา รวมทั้งขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 3,609 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index ปรับตัวลงทดสอบ 1,615 – 1,620 จุด จากหลากหลายปัจจัยลบ ได้แก่ ความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวหลัง Beige Book เผยว่าภาวะ Shutdown ในช่วงที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีก อุตฯรถยนต์ การท่องเที่ยว อสังหาฯ การผลิตและบริการ ประกอบกับตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ 6.2 แสนล้านดอลลาร์สูงสุดในรอบ 10 ปี ในขณะที่ขาดดุลการค้าต่อจีนเพิ่มขึ้น 11.6%YoY สู่ระดับ 4.2 แสนล้านดอลลาร์ด้วยเช่นกัน  นอกจากนี้กระแส Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 โดย Net Sell รวมราว 1.3 หมื่นลบ. อีกทั้งการลดความเสี่ยงก่อนศาลฯพิจารณาคดียุบพรรคไทยรักษาชาติในวันนี้ (7 มี.ค.) จะเป็นแรงกดดันต่อภาวะการลงทุน

•    กลุ่มอาหาร (GFPT, CPF, TU) อิเล็คทรอนิกส์ (KCE, SVI) ได้อานิสงส์เงินบาทที่อ่อนค่าลง

•    กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ได้ประโยชน์เม็ดเงินที่จะสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง

•    กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19 และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนขยายตัวขึ้น

หุ้นแนะนำวันนี้ : EA (ปิด 47 ซื้อ/เป้า 63) คาดกำไรสุทธิ 1Q19 พุ่งทำ All time high ต่อเนื่องรับข่าวดีโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน 1 และ 8 กำลังการผลิตรวม 90MW เริ่ม COD ตั้งแต่ 25 ม.ค. นอกจากนี้ระยะสั้นยังได้ sentiment บวกจากภาครัฐออกมาตรการลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ EV car เป็น 0%, KCE (ปิด 26 ซื้อ/เป้า 33) ราคาลดลงสะท้อนผลประกอบการ 4Q18 ไปแล้ว ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่าหนุนรายได้จากการส่งออกเพิ่มมากขึ้น , TCAP(ปิด 55.5 ซื้อ/เป้าสูงสุด Consensus 67)  ได้ผลบวกจากดีลควบรวม TMB+TBANK คาด TCAP จะมีกำไรพิเศษจากการขาย TBANK ทำให้เป็นไปได้ว่า TCAP อาจจะจ่ายปันผลพิเศษหรือซื้อหุ้นคืนเป็นบวกกับผู้ถือหุ้นมากกว่าหากเทียบกับ TMB

Top picks ปี 2Q19 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS

KSS report วันนี้ : MTC (ปิด 44 ซื้อ/เป้า 56)

ประเด็นสำคัญวันนี้ :          

•    (-) สหรัฐรายงานยอดขาดดุลการค้าพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี เป็นจะอุปสรรคต่อภาคการค้าโลกหากปธน. โดนัล ทรัมป์ เร่งออกมาตรการเพื่อลดปัญหาดังกล่าว (Trade war) : วานนี้สหรัฐรายงานยอดขาดดุลการค้าของปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.210 แสนล้านดอลลาร์นับเป็นตัวเลขขาดดุลการค้าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 หรือขาดดุลมากสุดในรอบ 10 ปี ปัญหานี้จะยังเป็นอุปสรรคต่อภาคการโลก เพราะหากปธน. โดนัล ทรัมป์ เร่งลดปัญหาดังกล่าวอาจจะเลือกใช้วิธีเดิมคือทำสงครามการค้า (Trade war) กับจีนและประเทศอื่นๆเพิ่มมากขึ้น

•    (-) OECD ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้และปีหน้าลงสู่ระดับ 3.3% และ 3.4% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 3.5% ทั้ง 2 ปี : องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และ ปีหน้า สู่ระดับ 3.3% และ 3.4% ตามลำดับจากเดิมคาดว่าจะขยายตัวที่ระดับ 3.5% จากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และความไม่แน่นอนจากกรณีการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดย OECD ปรับลด GDP สหรัฐสู่ระดับ 2.6% ในปีนี้ และ 2.2% ในปีหน้า เทียบกับที่ขยายตัว 2.9% ในปีที่ผ่านมา และลดคาดการณ์ GDP ของจีนสู่ระดับ 6.2% ในปีนี้ และ 6.0% ในปีหน้า เทียบกับที่ขยายตัว 6.6% ในปีที่ผ่านมา

•    (-) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน - ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 34 เซนต์ หลังจากสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 56.22 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 7.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมามากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล

•    (+/-) การเมืองในประเทศวันนี้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจาลงมติวินิจฉัยคำร้องยุบพรรคไทยรักษาชาติ : หากคำตัดสินออกมาในทางลบ คือ ยุบพรรค อาจจะทำให้อุณภูมิทางการเมืองร้อนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามหากเป้าหมายหลักของประเทศคือการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.19 ยังคงอยู่ เชื่อว่าปัญหานี้จะเป็นแค่ผลกระทบกดดัน Sentiment ในช่วงสั้นเท่านั้น