WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม
 
Focus on Alpha now   
          วันนี้คาด ดัชนีฯบวกกลับ กรอบ 1,636-1,655 จุด 
          ระยะสัปดาห์ เรายังคงมองตลาดหุ้นไทย พักฐาน เพื่อเล่นขึ้นต่อ กรอบสัปดาห์นี้ ต้องมาลุ้นการตั้งหลัก แนวรับ 1,630 จุด อีกครั้ง และให้น้ำหนัก 60% ไม่หลุด ส่วนการฟืนตัวคาดว่ายังติด แนวต้าน 1,675 จุด เป็นผลจาก 1) การเมืองในประเทศ; คดียุบพรรค ทษช.อาจสร้างความสับสนต่อตลาดจากความวิตกการร้องเรียนและชุมนุมต่างๆ (แต่เราเชื่อว่า จะผ่าน ความวุ่นวายทางการเมื่องในสัปดาห์นี้ไปได้) 2) พักรอข่าวดี เช่น ลุ้นข้อสรุปผลเจรจาการค้า สหรัฐฯ-จีน เป็นต้น ส่วนการฟืนตัว ช่วงปลายสัปดาห์ คาดว่าจะหนุนด้วย ถ้อยแถลง ประธาน FED และ ECB...  
          กลยุทธ์ลงทุน: เราเห็นโอกาสในการเข้าเลือกหุ้นลงทุนเป็นรายตัว โดยเฉพาะ หุ้น Alpha ที่เคยเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด แต่กลับกลายมาเป็นหุ้นที่ลงแย่กว่าตลาดตลอดปี 2018 แต่ในปีนี้ หุ้น Alpha หลายตัวเริ่มฟืนกลับ และเริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีของผลการดำเนินงานผ่านงบ 4Q18 ดังนั้นกลยุทธ์แนะนำ ให้นักลงทุน เริ่มกลับเข้ามาเลือกหุ้นลงทุนเป็นรายตัว ตาม Global theme ของ MS ที่แนะนำ หุ้นที่ลงแรงเมื่อ ปี 2018 แต่ ปีนี้ คาดว่าจะได้เห็นการฟื้นกลับของรายได้ และ ราคาหุ้น 
 
What to watch:
          (+) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯสัปดาห์ก่อน รายงาน GDP 4Q18 2.6% q-q (สูงกว่าตลาดคาดที่ 2.2-2.5%) จาก 3Q18 +3.4% ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เริ่มชะลอลง คาดว่ารายงาน FED beige book วันพุธนี้ เฟดจะย้ำสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น  
          และการประชุมธนาคารกลางยุโรป วันพฤหัสนี้ คาดว่าประธาน ECB จะให้มุมมองต่อการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย เช่นเดียวกับ เฟด
          (+) เดือน มีค.นี้ MSCI จะพิจารณานำ กระดาน NVDR มารวมคำนวณในดัชนีฯ MSCI Thailand  / รอลุ้นถ้ารวมคำนวณจริงคาด น้ำหนักหุ้นไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 3% จาก 2.5% บลจ.บัวหลวง คาดดึงดูดเม็ดเงินต่างชาตเข้าไทย 6.4 หมื่นล้านบาท    
          (+) ตัวเลขเศรษฐกิจโลกในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะได้เห็นการชะลอตัวลงของภาคการส่งออก ของ จีน ไต้หวัน มาเลเซีย แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจาก วันหยุดยาวตรุษจีน ซึ่งตลาดรับรู้ตัวเลขส่งออกที่ชะลอลง ไปแล้วในระดับหนึ่ง เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อการลงทุนหุ้นไทย ในสัปดาห์นี้ 
          (*) ศาล รธน.นัด แถลงด้วยวาจา และ ลงมติ วินิฉัย คำร้อง ยุบพรรค ทษช.วันที่ 7 มีค.นี้
          (+) หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า สหรัฐอาจยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกือบทั้งหมดที่ได้บังคับใช้กับจีนตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยคาดว่าผู้นำของทั้งสองประเทศอาจจะบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างสมบูรณ์ในการประชุมวันที่ 27 มี.ค.นี้ 
          (0) Downside ดัชนีมีไม่มาก: เราไม่คิดว่า ตลาดจะมีการปรับเปาหมายดัชนีฯปีนี้ลงอย่างมีนัยยะ ขณะที่ BLS อาจมีการปรับกำไรสุทธิตลาดปี 2019 ลง ได้ราว 2% จาก 110 บาท ส่วนใหญ่เกิดจาก การตั้งสำรองตามมาตรฐานบัญชีใหม่ เรื่อง เงินสำรองพนักงานเกษียณ     
 
หุ้นแนะนำ 
          Weekly port แนะนำ ถอด GGC IRPC TOP เพิ่ม BJC JMART    
 
รายงานวันนี้     
 
CBG More Bullish 
          แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากที่เรามีการปรับคำแนะนำขึ้น และชนราคาเปาหมายของเราเรียบร้อยแล้ว แต่หลังจากที่ได้เข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัททั้งยอดขายในประเทศที่เติบโตจากกลยุทธืการขายใหม่+การออกสินค้าใหม่, การขยายตัวของ GM จากโณงงานกระป๋องโรงงานใหม่ที่จะดัน GM ของการส่งออกขึ้นไปจาก 33.8% เป็น 38-39% หากใช้เต็มกำลังการผลิตในช่วง 2H19, ขาดทุนจาก UK ที่ลดลง หนุนโดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ลดลง เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 2019-2020 ขึ้น 28-23% และปรับราคาเป้าหมายขึ้นมาที่ 60.50 บาท และยังคงคำแนะนำ ซื้อ 
 
CMAN เห็นกำไรแล้ว ยิ่งมั่นใจ 
          CMAN เป็นหุ้นตัวแรกที่เราจับใส่ Paper "Bull Race" (สนามแข่งกระทิง) ของเรา ซึ่งเราความมั่นใจศักยภาพของบริษัท มากไปกว่านั้นการเข้าซื้อที่ราคาอยู่ด้านล่างแบบที่จะทำให้นักลงทุนมีต้นทุนที่ "ได้เปรียบ" และมี "Margin of safety" อยู่มาก CMAN รายงานกำไรสุทธิ 4Q18 ที่ 45 ล้านบาท เติบโตถึง 136%YoY และ 125%QoQ สำหรับ ปี 2018 บริษัทมีกำไรสุทธิ 161 ล้านบาท เติบโตถึง 47%YoY ปี 2019 บริษัทเปิดเตาเผาปูนควิกไลม์ KK4 เพิ่มแล้วตั้งแต่เดือน มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเกือบ 20% และ กำไร 2019 คาด 210 ล้านบาท (โต 30% y-y) จากการเปิดโรงงาน KK4 และมาร์จิ้นที่สูงขึ้น 
 
GULF ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
          แนวโน้มผลประกอบการใน 1Q19 และ 2019 ยังคงแข็งแกร่งจากกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นจากโครงการ SPP และ ชีวมวลในประเทศไทย และ โครงการโซล่าร์ฟาร์มในประเทศเวียดนาม  จากแผน PDP ใหม่ที่จะมี IPP 2 โรงเพิ่มในภาคตะวันตก ทางผู้บริหารมีความมั่นใจว่าชนะการประมูลได้ เมื่อเทียบกับผู้ผลิตไฟฟารายอื่นแล้ว GULF เป็นบริษัทหนึ่งที่มีแนวทางในการพัฒนาธุรกิจที่ชัดเจน รวมถึงมีความคล่องตัว และ ความชำนาญในการพัฒนาโรงไฟฟา ทำให้มีโอกาสสูงที่จะสามารถแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคตได้อีกมาก คงคำแนะนำ Let profit run 
 
JMT Key takeaway from analyst meeting
          เรามีมุมมองเชิงบวกกับกิจการมากขึ้นจากนโยบายการซื้อสินทรัพย์บริหารมากขึ้นกว่าประมาณการเรา และธุรกิจประกันมียอดขาดทุนลดลงจากปีก่อน เราเชื่อว่ากิจการสามารถทำกำไรดีต่อเนื่องจากปีก่อนมากจากธุรกิจประกันที่ขาดทุนลดลงและพอร์ตการซื้อหนี้ที่ปีก่อนโตกว่า 60% อาจทำให้กำไรสูงกว่าประมาณการเราเล็กน้อย หากกิจการประกันภัยกลับเป็นกำไรปีนี้ทำให้ เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" JMT  
 
NETBAY สารจาก Opp day
          รายได้ต่อพนักงานปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายได้บริษัทที่ 362 ล้านบาท คิดเป็นค่าบริการต่อ transaction ที่5-50 บาท จะคิดเป็นจำนวน transaction ทั้งประเทศที่เพียง 7-72 ล้าน transaction ถือว่าน้อยมาก บริษัทมีการลงทุน cloud computing ช่วงปีที่แล้ว 30 ล้านบาทมีการตัดค่าเสื่อม 5 แสนบาทต่อเดือน แต่ได้กำลังการใช้งานเพิ่ม 5 เท่า จากเดิม รวมถึงได้ทั้งระบบ AI power, AI platform และ Computer vision เรายังมองว่าธุรกิจของ NETBAY ยังขยาย ได้อีกมากจากแพลตฟอร์มที่มีในมือสามารถขยายไปได้ในทุกอุตสาหกรรม และเทรนด์ของโลกขยับไปในทิศทางนี้ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บริษัทอี่นอาจจะต้องรับมือกับ disruption แต่ NETBAY คือผู้ที่จะเติบโตตามการ disruption เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ"  
 
BDMS ประเด็นหลักจากการประชุมนักวิเคราะห์
          เรามองว่าแผนธุรกิจในปี 2019 เป็นแบบอนุรักษ์นิยม เบื้องต้นเราคำนวณว่าน่าจะแปลงเป็นกำไรหลักที่น้อยกว่าตลาดคาด อย่างไรก็ตามเรามองว่าผู้บริหารได้คำนึงถึงต้นทุนส่วนเพิ่มจากโครงการ BDMS Wellness clinic ที่รวมส่วนของโรงแรมที่จะเปิดกลางปี 2019 ด้วยแล้ว โดยหากผลงานใน 1H19 ทำได้ดีกว่าคาดบริษัทอาจมีโอกาสให้มุมมองเชิงบวกมากขึ้นในอนาคตทั้งนี้ด้วยกำไรจากการขาย RAM ที่สูงจะทำให้กำไรสุทธิปี 2019 โตแบบมากกว่าปกติ มรสุมหลายเรื่องได้ผ่านพ้นไปแล้ว เรามองว่าราคาหุ้นจากนี้คาดจะปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาด หนุนโดยกำไรสุทธิที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ใน 1Q19เติบโตก้าวกระโดดกว่า 180% YoY และ 5 เท่า QoQ มูลค่าหุ้นที่ 2019 PER 21 เท่า เราคงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 27 บาท 
 
BA ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ 
          ผลการดำเนินงาน 1Q19 มีแนวโน้มฟืนตัว QoQ จากช่วงไฮซีซัน, ค่าตั๋วเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนน้ำมันที่ลดลง อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องบินน่าจะสูงต่อเนื่อง แนวโน้มรายได้ปี 2019 คาดว่าจะเติบโตเล็กน้อยจากปีก่อน และบริษัทมีแผนจะเปิดเส้นทางบินใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 3 เส้นทาง และจะเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินที่เป็นเส้นทางที่มีความต้องการสูง นอกจากนี้ บริษัท มีแผนจะซื้อเครื่องบินและขายเครื่องบิน เรามองว่าราคาหุ้น BA ที่ปรับตัวลงจากผลประกอบการ 4Q18 ที่น่าผิดหวังได้เปิดโอกาสในการสะสมหุ้นเพิ่มเพื่อรับช่วงพีค ซีซั่นของการท่องเที่ยวและคาดการณ์การเติบโตของกำไรหลักไตรมาส 1Q19 ที่ดีขึ้น QoQ เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ที่ราคาเป้าหมาย 16.50 บาท    
 
THAI ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
          ผลการดำเนินงาน 1Q19 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น QoQ หนุนโดยจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น, passenger yield ที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนน้ำมันเครื่องบินที่ลดลง ผู้บริหารเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานจะพัฒนาต่อเนื่องในปี 2019 โดยในระยะสั้นมีแผนจะเพิ่มรายได้จากบริการเสริมและธุรกิจสนับสนุน รวมทั้งมีแผนลดต้นทุน ถึงแม้ว่าเราจะมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการฟืนตัวของผลการดำเนินงานของบริษัทในอนาคต แต่ค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นน่าจะทำให้มีความเสี่ยงที่ตลาดจะปรับประมาณการกำไรปี 2019 ลง และอาจเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นต่อไป  
 
TRUE ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
          ผลประกอบการของ 1Q19 จะกลับไปเหมือนกับ 3Q18 ที่รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่กลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้งเปาหมายระยะยาวได้แก่ กระแสเงินสดอิสระกลับมาเป็นบวกและการสร้างกำไรยั่งยืน นอกจากนี้แผนการลดต้นทุน คาดว่าจะกลบค่าเช่าที่จ่ายให้กองทุน DIF ซึ่งจะเพิ่มขึ้นในปี 2019 การยุติข้อพิพาทเรื่องเสาโทรคมนาคมและคดีความกับกสท.ในเดือนพ.ย. 2018 กระทบงบกำไรขาดทุน 523 ล้านบาทต่อปีตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป เราคิดว่าค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่จะลดลงอีกในปี 2019 และรายได้ที่จะกลับมาเติบโตได้ 5-7% จะส่งผลให้ผลประกอบการหลักของ TRUE กลับมามีกำไรทั้งปีสำหรับปี 2019 เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" 
 
HMPRO บันทึกจากที่ประชุมนักวิเคราะห์ 
          CEO มองว่าการบริโภคในภาพรวมยังไม่ฟืนตัวชัดเจน เศรษฐกิจอาจดีขึ้นเป็นบางพื้นที่จากการท่องเที่ยว ยอดขายในกทม.ยังดูขยายตัวได้ดีกว่าต่างจังหวัดมาก ดังนั้นบริษัทยังคงเน้นการเปิดสาขาในกทม.มากกว่า SSSG ในช่วง 2 เดือนแรกอยู่ที่ราว 3% แต่อาจจะชะลอตัวลงเล็กน้อยในเดือนมี.ค.จากเรื่องฐาน การเติบโตของกำไรในปีนี้มีแนวโน้มชะลอตัวจากปี 2018 ที่ขยายตัว 15% เนื่องจาก gross margin มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง ด้วย PER ปัจจุบันที่สูงถึง 31 เท่า เราคิดว่ายังไม่ใช่ราคาที่เหมาะสมในการเข้าซื้อ เราจึงคงคำแนะนำ "ถือ" HMPRO ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2019 ที่ 15 บาท 
 
หุ้นมีข่าว
          (*) BCP  เลื่อนนำบริษัทลูก BBGI เข้า SET ปี 2563 แทน เหตุผลประกอบการต่ำกว่าที่คาด ภาวะไม่เอื้อ มั่นใจปีนี้อีบิตดาโตกว่า 30% (ที่มาโพสต์ทูเดย์) 
          (-) MTC SAWAD  และหุ้น Retail Finance & Bank สัญญาณเตือนยอดค้างชำระเกิน 3 เดือนขยับ สินเชื่อบ้าน-รถยนต์-บริโภคพุ่ง สศช.เกาะติดสถานการณ์หนี้ครัวเรือน ยอดสินเชื่อบริโภคเพิ่ม แห่กู้ซื้อบ้าน-รถยนต์ ยอดค้างชำระเริ่มขยับ (ที่มา โพสต์ทูเดย์) 
          (+) ขึ้น XD รับปันผล: 4 มีค. [email protected] JAS @0.28 RATCH @1.25 / 5 มีค. PTTGC@ 2.50 บ. MAKRO @0.56 (ที่มา ตลท.) 
 
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน    
 
Trend Forecasting 
 
SET Index ปิด 1641.44 (-0.73%) มูลค่าการซื้อขาย 4.8 หมื่นล้านบาท 
 
แนวโน้มระยะสั้นมอง
          SET Index แนวรับ 1,635 แนวต้าน 1,645 / SET100 รับ 2,395 ต้าน 2,410 BSET100 รับ 10.40 ต้าน 10.49 / BMSCITH รับ 12.35 ต้าน 12.45 
 
Topic: "แนวรับ 1640 จุดยืนได้หรือไม่" 
 
มุมมองตลาด: 
          สัปดาห์นี้จะเป็นตัวชี้วัดตลาดจะเปลี่ยนโครงสร้างหรือไม่! เนื่องจากดัชนีกำลังลงทดสอบจุดรับสำคัญ 1640 จุด นอกจากนี้เครื่องมือวัดโมเมนตัม MACD เคลื่อนที่ลงมาที่ตำแหน่งเส้น 0 (กรณีหลุดจะเปลี่ยนโครงสร้างเป็นลง) ขณะที่ Stochastic แสดงสัญญาณลบ RSI ลงมาอยู่ในระดับกลาง 50 ส่วนอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลงแรง ได้แก่ กลุ่มเกษตร(STA -13%) ไฟแนนซ์ (MTC -4%) อิเล็คทรอนิกส์ (KCE -8%) สื่อสาร (TRUE -10%) สรุป:ภาวะตลาดต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นหากราคาหุ้นปิดต่ำกว่าแนวรับอาจต้องขายเพื่อลดความเสี่ยง 
                           
กลยุทธ์: 
          หากดัชนีหลุดแนวรับ 1640 จุดอาจส่งผลให้โครงสร้างระยะกลางเปลี่ยนเป็นลง 
 
วิธีการเลือกหุ้น:
          แนะหุ้นที่มีสัญญาณกลับตัวเป็นขึ้น Break out แนวต้านสำคัญ หนุนด้วยวอลุ่มเพิ่มขึ้น   
          Technical screen Bull Signal: BJC, RS, CMAN 
          Technical screen Bear Signal: TRUE,TOP,MTC,STA,AMATA (close below 5&25-days EMA ) 
          Port หุ้นคงเหลือแนะถือต่อ: PTTGC, IVL, TASCO, UTP, TISCO, DTAC, WORK, PSL, JMT, PRM, BGC 
          
          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค 
          [email protected] +662-618-1334 
 
Track with Technical 
          BJC 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 49.00  
          ต้าน 54.00  
          เหตุผล ทะลุเส้นแนวโน้ม บ่งชี้สัญญาณกลับตัว ขณะที่ RSI บ่งชี้ความแข็งแกร่งด้านราคา  
 
          RS 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 18.40  
          ต้าน 20.00/20.50  
          เหตุผล ทะลุกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้น หนุนด้วยวอลุ่มพร้อมกับสัญสัญญาณเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้น Bull MACD 
 
          CMAN 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 2.80 
          ต้าน 3.20/3.40 
          เหตุผล Bollinger band และ MACD บ่งชี้โครงสร้างสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้นระยะกลาง หนุนด้วยวอลุ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!