- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 March 2019 13:57
- Hits: 3065
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Money Wizard
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปรับตัวลงแรง -11.79 จุด (-0.71%) ปิดที่ 1,653 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.4 หมื่นล้านบาท เนื่องจากผิดหวังการเจรจาระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือที่ไร้ข้อตกลงร่วมกัน ประกอบกับตัวเลข PMI ของจีนเดือนก.พ.ออกมาต่ำกว่าคาดอยู่ที่ระดับ 49.2 จุด ส่งผลให้นักลงทุนขายลดความเสี่ยงลง ทั้งนี้เป็นแรงขายในกลุ่ม ENERGY, TRANS และ PETRO ส่วนนักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งขายสุทธิ 4,168 ล้านบาท รวมทั้ง Net Short TFEX 8,514 สัญญา แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 859 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,645 - 1,660 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้ปัจจัยบวกจากตัวเลข GDP 4Q18 ของสหรัฐออกมาสูงกว่าคาดโดย +2.6% รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นยืนเหนือ 57 US/Barrel หลังตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 8.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะมีแรงขาย Sell on fact หลังผิดหวังงบปี 2018 ของหลายบริษัทที่อ่อนตัวลง ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติที่พลิกเป็น Net sell ทั้งหุ้นและ Short TFEX จำนวนมาก สอดคล้องกับแนวโน้มเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้กระแส Fund Flow ยังคงมีทิศทางชะลอตัวต่อไปซึ่งจะแรงกดดันให้ดัชนีผันผวนสูง
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy
• กลุ่มอาหาร (GFPT, CPF, TU) อิเล็คทรอนิกส์ (KCE, SVI) ได้อานิสงส์เงินบาทที่อ่อนค่าลง
• กลุ่ม TV digital (WORK, RS, BEC, MONO) คสช.พิจารณามาตรการช่วยเหลือทีวีดิจิตอล
• กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ได้ประโยชน์เม็ดเงินที่จะสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
• กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19 และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนขยายตัวขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้ : JMT (ปิด 13.1 ซื้อ/ปรับใหม่ 15.7 จาก 14.2) เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสะท้อนการปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรในปีนี้ขึ้น 6% และ 8% จากความสามารถในการซื้อพอร์ตหนี้เข้ามาบริหารได้สูงกว่าที่เราและตลาดคาดไว้, TOP (ปิด 72.25 ซื้อ/เป้า 90) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว คาดงบ 1Q19 พลิกเป็นบวกจากค่าการกลั่นเริ่มฟื้นตัวสู่ระดับ 3.3$/bbl เทียบกับช่วงต้นปีอยู่ที่ระดับ 1.5$/bbl ในช่วงต้นปี นอกจากนี้คาดว่าจะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบหลังจากราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นจากระดับ 40$/bbl สู่ระดับ 55-60$/bbl ในปัจจุบัน
Top picks ปี 2Q19 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : AAV (ปิด 4.62 ถือ/เป้า 4.2), BPP (ปิด 22.8 ซื้อ/เป้าใหม่ 27 จาก 26.5), JMT (ปิด 13.1 ซื้อ/เป้าใหม่ 15.7 จาก 14.2)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
• (+/-) คาด SET Index เดือน มี.ค. พักตัวในกรอบ 1,630-1,700 ตามเดิม ตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ต่างชาติรอความชัดเจนหลังเลือกตั้ง หุ้น Big Cap พักตัว Top pick - ERW, JMT, KCE, TOP และ TCAP : SET Index เดือน ก.พ.เพิ่มขึ้น 0.72% ดีกว่าพอร์ตลงทุนของเราที่ให้ผลตอบแทน -0.5% แนวโน้มเดือน มี.ค.คาด SET Index จะยังพักตัวในกรอบ 1,630-1,700 จุด ตามเดิม เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ต่างชาติรอความชัดเจนหลังการเลือกตั้ง หุ้นในกลุ่ม Big cap จะยังพักตัว และจะเห็นการหมุนเก็งกำไรในหุ้น Mid – small cap มากขึ้น กลยุทธ์ยังเป็น Selective buy เน้นหุ้นที่งบ 1Q19 แข็งแกร่งต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มท่องเที่ยว และเข้าซื้อสะสมหรือเก็งกำไรหุ้นที่ราคาปรับลงสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว ขณะที่ Valuation เริ่มน่าสนใจ อาทิ โรงกลั่น และ อิเล็กทรอนิกส์ Top pick เดือน มี.ค. ERW, JMT, KCE, TOP และ TCAP
• (-) ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐกิจหลักของโลกยังไม่ฟื้น GDP ไตรมาส 4/18 ชะลอตัว ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตจีนลดสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี : สหรัฐประกาศ GDP ไตรมาส 4/18 (ครั้งที่ 1) ขยายตัว 2.6% แต่ลดลงจากไตรมาส 3/18 ที่ขยายตัว 3.4% อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 2.3% ในขณะเดียวกันจีนประกาศตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ก.พ.ลดลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ระดับ 49.2 จาก 49.5 ในเดือน (ตัวเลขที่ต่ำ 50 สะท้อนภาคการผลิตจีนยังหดตัว)
• (-) MSCI เพิ่มน้ำหนักหุ้น A-Share จาก 5% เป็น 20% โดยจะปรับเพิ่มครั้งละ 5% ในเดือน มิ.ย., ก.ย. และ พ.ย. กดดัน Fund Flow ในตลาดเกิดไหม่ไหลไปตลาดหุ้นจีนมากขึ้น : MSCI ประกาศเพิ่มน้ำหนักหุ้น A-Share ของจีนขึ้นเป็น 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 5% โดยจะทยอยปรับเพิ่มน้ำหนัก 5% ทั้งหมด 3 ครั้งในเดือน มิ.ย., ก.ย. และ พ.ย. 2019 การปรับเพิ่มน้ำหนักดังกล่าว คาดว่าจะทำให้มีเงินลงทุนไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้นจีนสูงกว่า 80,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนอีกด้านจะเป็นลบต่อ Fund Flow ในตลาดเกิดใหม่รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่จะถูกลดน้ำหนักและมีเงินไหลออก เบื้องต้นคาดว่าจะมีเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยประมาณ 3.5-5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามเราคาดว่าปัจจัยนี้จะถูกชดเชยด้วยการเปลี่ยนเกณฑ์ใหม่ของ MSCI ซึ่งจะนำสัดส่วนการลงทุนใน NVDR มารวมในน้ำหนักการลงทุนได้ ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นในตลาดหุ้นไทยประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท จากผลของเกณฑ์ใหม่ดังกล่าว
นักวิเคราะห์ : อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และนักกลยุทธ์ : ชัยยศ จิวางกูร Registration No.15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์ : ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย , ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี