- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 February 2019 16:03
- Hits: 3238
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Rolling bottom is playing out.
เมื่อวานดัชนีฯ หุ้นไทยพักตัวลงบนแนวรับ 1,660 จุด ตามคาด หนุนจากแรงซื้อหุ้น เชื่อมโยงสินค้าโภคภัณฑ์ (ตามที่คาดในรายงาน Weekly เรื่อง Sector rotation) เช่น IVL PTTEP PRM PSL เป็นต้น ขณะที่ดีล TMB+TBANK ตลาดมองเป็นบวกต่อ TCAP หนุนราคาหุ้นพุ่งขึ้นแรงกว่า TMB. (คลายวิตกราคาเพิ่มทุน TMB แค่ 2.3-2.6 บ. ไม่ได้สูงขนาด 3 บาทกว่าอย่างที่เป็นข่าว และ ธุรกิจหลัก ลิสซิ่ง ประกัน ของกลุ่ม TCAP ไม่ได้ย้ายออก)
วันนี้คาด ดัชนีฯพักต่อในกรอบจำกัด 1,660-1,670 จุด
สัปดาห์นี้ คาดการแกว่งขึ้นในกรอบ 1,645-1,680 จุด อาจจะชะงักลงชั่วคราว สัปดาห์นี้อาจจะยังไม่รีบผ่าน 1,680 จุด แต่เชื่อว่า แนวรับ ระยะสัปดาห์ยังเอาอยู่
What to watch:
(*) เหตุการณ์ปากีสถาน ยิงเครื่องบินรบ 2 ลำของอินเดียตก ในแคว้นแคชเมียร์ เมื่อวานนี้ ได้สร้างความตึงเครียดระหว่าง อินเดีย และ ปากีสถาน ปะทุขึ้นอีกครั้ง / ผลกระทบโดยตรง กลุ่มสายการบิน THAI กระทบตรงๆ เพราะมีไฟล์ทบินที่ต้องผ่านน่านฟาดังกล่าว และ อาจต้องบินอ้อมเส้นทางใหม่เข้ายุโรป ซึ่งจะต้องจ่ายค่าผ่านทาง (น่านฟา) และ ค่าน้ำมันเพิ่ม
AAV ยังไม่กระทบ แต่อาจมีผลถ้าเหตุการณ์บานปลาย จนบินเข้าอินเดียไม่ได้ โดยสัดส่วนรายได้จากการบินเข้าอินเดียประมาณ 5% ส่วน BA อาจได้ผลประโยชน์ระยะสั้น เล็กน้อย จากค่าชดเชยเปลี่ยนเครื่อง จากรายได้ นักท่องเที่ยวยุโรปที่บินมาแถบนี้เพื่อต่อไฟล์ท (สายการบิน บินร่วมกับ BA)
กลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ระยะสั้นอาจกระทบจิตวิทยาเพราะ วิตกผลกระทบ หากเหตุการณ์บานปลายกลายเป็นสงคราม ซึ่งนักท่องเที่ยวอินเดียที่มาไทย ช่วงที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วน 4.4% ของทั้งหมด (นักท่องเที่ยวจากเอเชียใต้ คิดเป็นประมาณ 5%)
(*) ศาล รธน.นัด แถลงด้วยวาจา และ ลงมติ วินิฉัย คำร้อง ยุบพรรค ทษช.วันที่ 7 มีค.นี้
(*) สภาครองเกรสสหรัฐฯต้อง เร่งทำข้อตกลง ขยายเพดานหนี้ คาดจะมีข่าวคืบหน้าก่อน สุดสัปดาห์นี้
(+) งบดีกว่าคาด OSP (กำไรดีกว่าตลาดคาด แถมด้วยปันผลดีกว่าเราคาด) BJC เราปรับคำแนะนำ ขึ้น เป็น ซื้อ (จาก ถือ)
(0/-) งบต่ำคาด AAV BA BRR TVO TOA BEM BGRIM CENTEL (CENTEL ต่ำกว่าตลาดคาด) QH LH BR CCET แต่ กลยุทธ์คาดว่าจะไม่ได้กระทบต่อภาพรวมตลาดมากนัก เพราะส่วนใหญ่เราคงประมาณการณ์กำไรปีนี้ ไว้เท่าเดิม
หุ้นแนะนำ
Weekly port ถอด VGI เพิ่มCMAN OSP
OSP กำไรดีกว่าตลาดคาด และ ปันผลดีกว่าเราคาด
รายงานวันนี้
Airlines ปากีสถานประกาศปิดน่านฟ้า
ปากีสถานประกาศปิดน่านฟาเป็นเขตห้ามบินเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากก่อนหน้านี้กองทัพอากาศอินเดียบินเข้าถล่มปากีสถาน ทางปากีสถานจึงยิงเครื่องบินรบของอินเดียที่บินล้ำน่านฟาเข้ามาตก 2 ลำข่าวนี้น่าจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อ THAI มากที่สุด เนื่องจากบริษัทมีจุดบินไปยังปากีสถาน (ยกเลิกไฟลท์) รวมทั้งเป็นเส้นทางบินผ่านเพื่อไปยุโรป ในขณะที่ AAV และ BA ไม่ได้รับผลกระทบ สำหรับกลุ่มสายการบิน AAV (ซื้อเก็งกำไร; ราคาเปาหมาย 4.60 บาท) ยังเป็น top pick ของเรา เนื่องจากได้รับประโยชน์อย่างมากจากนักท่องเที่ยวจีนที่ฟืนตัวแรง, กำไรปี 2019 เติบโตดี และฐานะการเงินแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามประเด็นข่าวดังกล่าวยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
PR 9 ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
ประเด็นสำคัญเป็นไปในเชิงบวกต่อเปาหมายการเติบโตของรายได้ 15% ในปี 2019 และตั้งเปายืนอัตรากำไรขั้นต้นอย่างน้อย 31% แม้จะมีค่าเสื่อมราคาจากการเปิดอาคารใหม่ใน 4Q19 เราคาดว่า PR9 จะทำกำไรดีกว่ากลุ่มใน 1H19 มูลค่าหุ้นถูกมาก PER ปี 2019 ที่ 29.2 เท่า ถูกสุดอันดับสามของกลุ่ม เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2019 ที่ 14 บาท
TMB & TCAP Key takeaway from TMB & TCAP acquisition deal
เรามองว่าดีลนี้เป็นผลดีระยะยาว 2-3 ปี กับ TMB เนื่องจากการซื้อTBANK มี synergy ซึ่งกันและกันพอร์ตสินเชื่อ TMB เพิ่ม 110% จาก 6.8 แสนล้านบาทเป็น 1.44 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตามในแง่การลงทุนมองว่า หุ้น TMB ในปี 2019 จะนิ่งๆระหว่างการทำดีล ปี 2019 และรอการเพิ่มทุนรายย่อยทำให้หุ้น TMB ขาดเสน่ห์ในช่วงนี้ ดังนั้น เราแนะนำเปลี่ยนตัวเล่นไปเล่น BBL และ KKP ที่ราคาไม่แพงและให้อัตราเงินปันผลที่สูงกว่า
QH ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
สัญญานบวกแรกคือเริ่มเห็นยอดจองซื้อเกือบสองเดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้นราวๆ 20% YoY ประเด็นที่ตลาดกังวลที่สุดคือคอนโด Q.Sukhumvit ที่ขายช้าแต่เรามองว่าโชคดีที่โครงการนี้มี GM สูงถึง 38% ทำให้บริษัทมีโอกาสปรับลดราคาขายลงบ้าง ด้วยมูลค่าหุ้นที่ถูก มีมูลค่าแฝงสูงกว่า 2 ใน 3 ของ market cap ของ QH ที่มีจากเงินลงทุนหลักๆ ใน HMPRO และ LHBANK ทำให้เรามองว่าโอกาสหุ้นจะลงไปลึกมีจำกัด อีกทั้งปี 2019 นั้นบริษัทน่าจะเริ่มส่งมอบกำไรที่เติบโตได้ (ประมาณ 10%) สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม แถมมีอัตราผลตอบแทนปันผลสูงเกือบ 8% ในปี 2019 เราแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 3.4 บาท
IVL ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
ประเด็นสำคัญยืนยันมุมมองเชิงบวกของเราต่อแนวโน้มการเติบโตของ IVL ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ส่วนต่างราคาขยายตัวเพิ่มขึ้นตามฤดูกาลและแนวโน้มกำไรจากสินค้าคงคลังจะหนุนกำไรใน 1Q19 คาดการณ์การเติบโตของกำไรหลักปี 2019 ที่ 21%YoY และอัพไซต์จากการทำ M&A น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นต่อไป มูลค่าหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 2019 ที่เพียง 9.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 16.6 เท่าค่อนข้างมาก เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 80 บาท
SAT ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
ผู้บริหารคาดการณ์ตลาดรถยนต์โดยรวม ปี 2019 ทรงตัว และมียอดขายอยู่ที่ระดับเกิน 1 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทคาดว่ายอดขายของบริษัทจะเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์อยู่ที่ประมาณ 5% หนุนจากยอดสั่งซื้อต่างประเทศ เราคิดว่าบริษัทจะสามารถคงอัตรากำไรขั้นต้นได้อยู่ที่ 18-19% ในปี 2019 เราคาดการณ์กำไรสุทธิ 1Q19 เติบโต YoY (แต่ลดลงเล็กน้อย QoQ จากฐานที่สูง) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดการสั่งซื้อใหม่จากต่างประเทศ ในปัจจุบัน SAT ซื้อขายกันอยู่ที่ PER ที่ 9.1 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของเราที่ 10.1 เท่า) เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายที่ 28 บาท
ANAN ความเห็นจากงานประชุมนักวิเคราะห์
3 กลยุทธ์หลักที่บริษัทเน้นคือ 1) Focus คอนโดที่ติดรถไฟฟา, 2) Partnership กับMitsui Fudosan และ 3)Recurring income เตรียมขยายไปยังธุรกิจรายได้ประจำ แผนธุรกิจปี 2019 ตั้งเปาหมายเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 38 พันล้านบาท เติบโต 42% YoY หุ้นน่าจะปรับตัวขึ้นได้จากราคาหุ้นวันนี้ที่ยัง laggard ในกลุ่มเนื่องจากซื้อขายที่เพียง PER 2019 ที่ 5เท่า และต่ำกว่ามูลค่าบัญชีสิ้นปี YE18 ถึง 22% เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 4.50 บาท คาดแรงหนุนระยะสั้นคือการแถลงจับมือกับ DTC และเปิดตัวโครงการใหม่ JV 10 พันล้านบาท ติดสะพานควายเตรียมเปิด พ.ค 2019 นี้
BLA Key takeaways from analyst meeting
เรามองว่ากิจการอยู่ในช่วงการปรับตัวรองรับการแข่งขันทำให้อัตราการขยายตัวยอดขายอาจไม่โตมากนัก ในช่วงการเริ่มเน้นช่องทาง Agent และธุรกิจออนไลน์เพื่อชดเชยการขายผ่านธนาคารกรุงเทพที่ลดลงในบางผลิตภัณฑ์และการเน้นสินค้าใหม่นั้นมี Commission แก่ตัวและให้ผลตอบแทนสูงแก่ผู้ซื้อ ทำให้กำไรน้อยในช่วงแรก โดยเรายังอยากรอดูการดำเนินงานช่วงแรกก่อนในการขายสินค้าว่าสามารถทำได้ตามเปาหรือไม่ โดยเราคงคำแนะนำ "ถือ"
CPN สิ่งที่เราคิดหลังประชุมนักวิเคราะห์
ปัจจัยที่กดดันผลประกอบการในระยะสั้นคือค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากหนี้ที่ใช้ซื้อ GLAND อีกประเด็นที่เราเป็นห่วงคือโครงการ Central I City ที่มาเลเซีย โดยยอดจองพื้นที่เพิ่มขึ้นช้ามากจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่โครงการนี้เลื่อนการเปิดมาเป็นระยะๆ การทำสัญญาเช่าใหม่ของ ZEN ในเดือนมีนาคมนี้ อาจไม่ได้ส่งผลมากอย่างที่ตลาดเคยมองไว้ เนื่องจากอัตราค่าเช่าค่อนข้างต่ำ และ CPN จะได้ค่าเช่าเพียงราวครึ่งหนึ่งของพื้นที่ ZEN ทั้งหมดเท่านั้น เรามองว่า CPN ขาดปัจจัยบวกในระยะสั้น ดังนั้นเราจึงยังคงแนะนำ "ถือ"
Quantitative Strategy: เครื่องมือชี้วัดเชิงปริมาณยังมิกซ์
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้อย่างน่าประหลาดใจโดยปรับขึ้น 0.9% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งขัดแย้งกับการคาดการณ์ของเรา อย่างไรก็ตามเราคาดว่าโอกาสทีตลาดจะผันผวนมากขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้ายังมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจาก ดัชนีชี้วัดความต้องการรับความเสี่ยง (Risk Demand Index) อยู่ใกล้ระดับ Over-optimistic และโดยปกติมักจะมีรูปแบบปรับตัวกลับเข้าหาค่าเฉลี่ย ดังนั้นนักลงทุนมักจะอ่อนไหวหากมีข่าวร้ายเข้ามาในตลาด ซึ่งจะทำให้ตลาดผันผวน ในขณะเดียวกันดัชนี Short-term Bull2Bear กำลังปรับตัวขึ้นสู่โซนความเสี่ยงสูง และ ดัชนีชี้วัดโมเมนตัมระยะสั้น (Short-term Momentum) ก็อยู่ในโซน Mildly Overbought แล้ว อย่างไรก็ตามดัชนีชี้วัดในภาพระยะกลางบางตัวยังคงหนุนตลาดอยู่ โดย ดัชนี Volume Flow ได้ปรับขึ้นทะลุเส้นกลาง ซึ่งชี้ว่าตลาดยังคงมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาหนุนตลาด กล่าวโดยรวมเรามองว่าเครื่องมือชี้วัดเชิงปริมาณยังคงมิกซ์ ดังนั้นมีแนวโน้มที่ตลาดหุ้นไทยจะยังคงอยู่ในช่วงผันผวนไปอีกสองสัปดาห์ หุ้นที่เพิ่มเข้าพอร์ต: AOT, BH, IVL หุ้นที่ถอดออกจากพอร์ต: TMB
หุ้นมีข่าว
(*) สำนักงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐ เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังสหรัฐอาจหมดเงินงบประมาณภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ นอกเสียจากว่า สภาคองเกรสจะสามารถขยายระยะเวลาระงับการก่อหนี้ หรือเพิ่มเพดานหนี้
โดยสภาคองเกรสได้ตกลงกันก่อนหน้านี้ที่จะระงับการก่อหนี้จนถึงวันที่ 1 มี.ค.
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐจะต้องประกาศ "ระยะเวลาระงับการออกตราสารหนี้" และต้องใช้ "มาตรการพิเศษ" เพื่อกู้ยืมเงินเพิ่มเติมโดยไม่ให้ละเมิดเพดานหนี้ นอกเสียจากว่าจะมีการออกกฏหมายบังคับใช้เพิ่มเติม
"หากเพดานหนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ความสามารถในการกู้ยืมโดยใช้มาตรการเหล่านั้นจะหมดลงในที่สุด และกระทรวงการคลังอาจจะหมดเงินสดเมื่อใกล้สิ้นปีงบประมาณนี้หรือในช่วงต้นปีงบประมาณหน้า" CBO ระบุ โดยปีงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 ก.ย."
ผลกระทบคือ "หากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น รัฐบาลจะไม่สามารถชำระหนี้ได้อย่างเต็มที่ และจะเกิดความล่าช้าในการชำระเงินสำหรับกิจกรรมต่างๆ อันจะนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ หรือทั้งสองอย่าง" (ที่มา ASPEN)
(+) ขึ้น XD รับปันผล: 28 กพ. [email protected], [email protected] RS @0.20 TOP @1.15 SPVI @0.06 / 1 มีค. [email protected] DELTA @2.30 JASIF @0.23 / 4 มีค. [email protected] JAS @0.28 RATCH @1.25 / 5 มีค. PTTGC@ 2.50 บ. MAKRO @0.56 (ที่มา ตลท.)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1665.27 (+0.1%) มูลค่าการซื้อขาย 5.2 หมื่นล้านบาท
แนวโน้มระยะสั้นมอง
SET Index แนวรับ 1,660 แนวต้าน 1,670 / SET100 รับ 2,440 ต้าน 2,455 BSET100 รับ 10.60 ต้าน 10.68 / BMSCITH รับ 12.58 ต้าน 12.68
Topic: "SET50&MAI Index enter a bullish sign"
มุมมองตลาด:
ดัชนี SET50 ตัวแทนหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่ MAI ตัวแทนหุ้นขนาดเล็ก ทั้งสองกลุ่มอยู่ในรูปแบบขาขึ้นระยะกลาง การปรับตัวขึ้นของดัชนี SET Index เริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2019 ดัชนีขึ้นจาก 1550-1670 จุด พบว่าหุ้นขนาดใหญ่เป็นกลุ่มนำตลาดและดึงให้ดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จับตาหุ้นขนาดเล็กคาดว่าจะเป็นกลุ่มผู้ตามหรือขึ้นตามหุ้นขนาดใหญ่ที่ได้ปรับตัวขึ้นไปแล้ว ขณะที่โครงสร้างดัชนี MAI เคลื่อนที่อยู่ในกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้น "Bullish Pennant" กรณีทะลุกรอบบนจะส่งผลให้เกิดการกลับตัวเป็นขาขึ้นรอบใหม่
กลยุทธ์:
แนวโน้มดัชนีส่งสัญญาณฟืนตัวกลับจากแนวรับ 1660 จุด (Closing Gap) จับตาหุ้นขนาดเล็กกำลังส่งสัญญาณขึ้นตามตลาด
วิธีการเลือกหุ้น:
ตลาดพักตัวจะเลือกหุ้นอย่างไร 1. หุ้นที่มีสัญญาณแข็งแกร่งจะโอกาสสร้างกำไรได้ดีกว่า 2. ราคาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5&25-days EMA 3. RSI ไม่ควรสูงกว่า 70 4. Stop loss หากไม่เป็นไปตามคาด
Technical screen Bull Signal: STA, PRM, BGC
Technical screen Bear Signal: BEAUTY,MTC,BCH,SVI (close below 5&25-days EMA )
Port หุ้นคงเหลือแนะถือต่อ: PTTGC, GPSC, IVL, TASCO, UTP, TISCO, TVO, DTAC, WORK, SCB, PSL, JMT
ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical
STA
แนะนำ ซื้อ
รับ 16.40
ต้าน 18.00-18.50
เหตุผล ทะลุแนวต้านระยะกลาง 15 บ่งชี้สัญญาณกลับตัว ขณะที่โครงสร้างหลักเคลื่อนที่บนขาขึ้น RSI บ่งชี้ความแข็งแกร่งด้านราคา
PRM
แนะนำ ซื้อ
รับ 5.80
ต้าน 7.00/7.40
เหตุผล ส่งสัญญาณฟืนตัวจากฐาน ขณะที่โครงสร้างระยะกลางแสดงรูปแบบขาขึ้น Higher low หนุนด้วยเครื่องมือวัดโมเมนตัม "Bull MACD"
BGC
แนะนำ ซื้อ
รับ 12.00
ต้าน 14.00
เหตุผล ทะลุกรอบสามเหลี่ยมขาขึ้น "Bullish Pennant" ยืนยันสัญญาณกลับตัวจากค่า MACD > 0