WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

logo aecบล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
--------------------
Market Outlook
•    วันนี้เราคาดดัชนี SET แกว่ง Sideway Up หลังได้ปัจจัยหนุนจากภาพการขึ้นดบ.ที่ชะลอลงของสหรัฐฯ ขณะที่  ในประเทศตัวเลขเศรษฐกิจ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน สะท้อนการฟื้นตัวดีขึ้นมอง SET มีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,678 จุด (Previous High) และแนวรับที่ระดับ 1,661 จุด
Market Factors
•           (+) ประธาน FED นายเจอโรมพาวเวลส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายการลดงบดุลซึ่งโดยภาพรวมยังคงเป็นไปในโทน Dovish
•          (Watch) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ทรัมป์และผู้นำเกาหลีเหนือนายคิมจองอึนจัดประชุมเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปีที่ประเทศเวียดนามในวันนี้เพื่อเจรจาการปลดอาวุธนิวเคลียร์
•    (+) สศอ. เผย ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ม.ค.ปี62 อยู่ที่ระดับ 107.99 ขยายตัว 0.18%YoYโต 4 เดือนติดต่อกัน และสูงสุดในรอบ 10 เดือนสอดรับกับอัตราการใช้กำลังผลิตเดือน ม.ค.ปี62 อยู่ที่ 70.47% สูงสุดในรอบ 7 เดือน  บ่งชี้สัญญาณเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยที่ยังคงมีการขยายตัว พร้อมคาดการณ์อัตราการเติบโตทั้ง MPI และ GDP ภาคอุตสาหกรรมปี 2562 จะขยายตัว 2-3% (ประชาชาติธุรกิจ)
•    (+) ครม. อนุมัติงบประมาณรวม 1.67 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการรถไฟชานเมือง 2 เส้นทาง คือ สาย     สีแดงเข้ม ช่วงรังสิต - ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงินลงทุน 6,570.40 ลบ. และสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน - ศาลายา ระยะทาง 14.8 กม. วงเงินลงทุน 10,202.18 ลบ. (กรุงเทพธุรกิจ) 
•    (+) ธ.ทหารไทย แจ้งต่อ ตลท. เปิดเผย ความคืบหน้าดีลควบรวมกับ ธ.ธนชาติหลังวานนี้ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงแบบไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายโดยกำหนดกรอบความเข้าใจและหลักการเจรจาร่วมกัน เพื่อร่วมดำเนินธุรกิจธนาคารด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้้น คาดหลังการรวมกิจการจะมีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท ฐานลูกค้ากว่า 10 ล้านคน และมีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 6 ในอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ไทย (ฐานเศรษฐกิจ)
•    (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 114.92 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 110.54 บาท หรือลดลง 3.81%Year To Date
•    (-) SpreadThai Government Bond ระหว่าง 2 Year-10 Year Yield ปรับลดลงเหลือ -67.6400 bps จากระดับสูงสุดเมื่อต้นเดือน ก.พ. 61 ที่ -54.547bps โดยเป็นการปรับตัวลดลงของ Yield ใน 2 Year และปรับเพิ่มขึ้นของ Yield ใน 10 Year แสดงให้เห็นถึงการความต้องการพักเงินในตลาดตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นกว่า
•    (+) อัพเดท Flow การลงทุนตลาดหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเดือน ม.ค. 62 ซื้อสุทธิ 6,721.62 ลบ. และ Month to date ซื้อสุทธิ 1,397.70ลบ. ส่งผลให้ Year to date ต่างชาติซื้อสุทธิ 8,119.32ลบ.
Investment Strategy
•    แม้สัปดาห์นี้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SET Index จากความคืบหน้าที่ดีขึ้นหลังการประชุมผู้นำเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน บวกกับท่าทีของประธาน Fed มีทิศทาง Dovish มากขึ้น ช่วยชะลอการไหลออกของเม็ดเงินต่างชาติอย่างไรก็ดีเรายังจับตาการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนของ Consensus ซึ่งจะทำให้ EPS ของ SET Index ปรับตัวลดลง และ PE Valuation ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งการปรับขึ้นของดัชนีจะเป็นเป้าหมายของการขายทำกำไร ดังนั้นเราจึงมองว่า SET Index สัปดาห์นี้จะแกว่งขึ้นแบบ Sideway-Up โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1,678 จุด และแนวรับที่ 1,661 จุด (Gap เมื่อวาน) โดยคงแนะนำซื้อ 3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้
•    กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น: โดย Year To Date ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นราว 2.46% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นอานิสงส์บวกต่อหุ้นกลุ่มนำเข้าและสายการบิน เลือก SYNEX (ปี 61 ประกาศกำไรโต 15.65%YoY และปี62 ตั้งเป้ารายได้โต10-15%YoY โดยตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้มาจากสินค้ากลุ่มโน้ตบุ๊คและสมาร์ทโฟนแบรนด์ชั้นนำราว50% ,กลุ่มConsumer Product ราว30% และส่วนที่เหลือมาจากกลุ่มCommercial Product ราว20% โดยปีนี้บริษัทมีแผนเพิ่มแบรนด์สินค้าเพื่อจำหน่ายอย่างน้อยอีก4-5 แบรนด์โดยเฉพาะในกลุ่มกล้องวงจรปิดหรือระบบรักษาความปลอดภัยจากปัจจุบันที่มีแบรนด์สินค้าทั้งสิ้น60 แบรนด์), FTE (แม้ปี 61 กำไรสุทธิทรงตัว YoYหลังมีค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ขณะที่ปี 62 บริษัทตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% โดยมีปัจจัยบวกจากการขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งภาครัฐฯ และเอกชน (เน้นกลุ่มโรงไฟฟ้า) หลังบริษัทเพิ่มรายการสินค้า และเปิดช่องทางจำหน่ายใหม่) และAAV (นอกเหนือจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นยังมีประเด็นบวกต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงโดยQTD Singapore Jet Kero Spotเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ72.22 USD/barrel ต่ำกว่าต้นทุนเฉลี่ยช่วง1Q61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ77.72 USD/barrel และต้นทุนเฉลี่ยทั้งปี 61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ82.97 USD/barrel)
•    กลุ่มโรงพยาบาล: มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่   ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปีนอกจากนี้เตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง), BCH (แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF), RJH (ปี 62 คาดรายได้โตราว 10-15% จากกลยุทธ์การให้บริการเฉพาะทางทั้ง Heart Center  MRI, Check Up และการเปิดศูนย์ฟอกไตเทียมเฟสใหม่ที่มีเครื่องฟอกไตเพิ่มอีก8 ยูนิตรวมเป็นทั้งหมด 35        ยูนิต), BDMS (คาดกำไรปี 62 โต YoYจากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการWellness Clinic  รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วง 1Q62 (4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น) ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน)
•    กลุ่มจำนำทะเบียนรถ: รับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น แนะนำ SAWAD (คาดปี 62 กำไรโต 32.1%YoYจากแผนขยายสินเชื่อใหม่ 20-30%YoYสอดรับกับจำนวนสาขาที่จะเพิ่มขึ้นอีก300-400 สาขาบวกกับรับรู้ผลของYield ที่ฟื้นตัวแบบเต็มปีและต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตรราว 2,500-2,600 ลบ.), MTC (คาดกำไรปี 62 โต 31.9%YoYทำ New High ต่อเนื่องหลังมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 600 สาขาเพื่อเพิ่มพื้นที่บริการให้ครอบคุมมากขึ้นขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมี NPL ต่ำสุดในกลุ่ม) 
Quantitative Screening
•    Dividend Theme โดย Screen หุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากการขึ้นเครื่องหมาย XD รอบนี้โดดเด่น แนะนำ KGI (7.8% XD 18 เม.ย. และจ่ายปันผล 8 พ.ค.), NYT (5.7%, XD 3 พ.ค. และจ่ายปันผล 24 พ.ค.)และ PSH (5.2%, XD 11 มี.ค. และจ่ายปันผล 22 พ.ค.)
  
    26-Feb-19    Change (pts.)    25-Feb-19
SET Index    1,663.56    -8.19    1,671.75
SET50 Index    1,108.46    -6.26    1,114.72
SET100 Index    2,443.33    -14.24    2,457.57
  
High    1,670.77    Gainers         465 
Low    1,662.81    Unchanged    426
Value (Bt m)    53,064.96    Losers  985 
Volume (*000)    14,778,685          
 
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    15.1    13.8    13.8
EPS Growth (%)    13.9    9.3    14.6
EV/EBITDA (x)    10.0    9.4    9.0
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.5
Dividend Yield (%)    3.2    3.4    No Data
ROE    11.6    11.6    12.0
 
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    26-Feb-19    WTD    MTD    YTD
Institution    (265.86)    2,826.55    17,008.27    27,039.71
Proprietary    301.48    537.58    4,165.12    2,861.08
Foreign     (620.64)    (628.62)    1,397.69    8,119.33
Individual    585.02    (2,735.50)    (22,571.09)    (38,020.12)
 
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432)    [email protected]
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    [email protected]
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    [email protected]
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!