- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 February 2019 13:38
- Hits: 2554
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Plays//Continue to Hold
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 1,670 จุดและสามารถทะลุผ่านได้โดยปิดบวกถึง 12.55 จุด ณ สิ้นวัน บรรยากาศการลงทุนโดยรวมเป็นบวกหลังมีข่าวว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนมีความคืบหน้าอย่างมากและทรัมป์เตรียมขยายเส้นตายขึ้นภาษีจากวันที่ 1 มี.ค. ออกไป แรงซื้อส่วนใหญ่มาจากสถาบันในประเทศโดยหนาแน่นถึง 3.1 พันลบ. ขณะที่ฝ่ายขายสุทธิคือนักลงทุนรายย่อย 3.3 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways ระยะสั้นหลังทะลุแนวต้านบริเวณ 1,670 จุดขึ้นมาได้จากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่มีพัฒนาการเชิงบวก อย่างไรก็ตาม กลุ่มพลังงานคาดว่าอาจถ่วงตลาดบ้างจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงกว่า 3% เมื่อคืน ขณะที่สัปดาห์นี้ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามทั้งการพบกันของทรัมป์และคิม จอง อึน รวมถึงการแถลงนโยบายและภาวะเศรษฐกิจของประธาน FED ต่อสภาคองเกรส ขณะที่ฝั่งบ้านเรายังต้องติดตามประเด็นการเลือกตั้งโดยเฉพาะวันพรุ่งนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีกรณียุบพรรค ทษช. รวมถึงอัยการนัดพบแกนนำพรรคอนาคตใหม่ จึงยังเน้น Selective Buy หุ้นที่คาดว่าจะประกาศกำไร 4Q19 แข็งแกร่งในช่วงโค้งสุดท้าย
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้นที่คาดกำไร 4Q18 โดดเด่น//ระยะกลาง-ยาวเน้นถือต่อเนื่อง
หุ้นเด่นเดือน ก.พ : EA, ERW, GLOBAL, SAPPE, SEAFCO
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$459ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$438ล้าน ขณะที่ไหลออกเกาหลีใต้ US$3ล้านและไทย US$0.3ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าหลังสหรัฐประกาศเลื่อนเวลาการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าจากจีน และการประชุมทางการค้าของทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้าไปได้ดี
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> THMUI <<
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2.30 บาท (ตัดขาดทุน 1.29 บาท)
- งบ 4Q18 พลิกมามีกำไร 5 ลบ. จากขาดทุน 3 ลบ. ใน 4Q17 ทำให้ทั้งปี 2018 มีกำไร 31 ลบ. +46% Y-Y จากงานวางท่อปะปาและระบบบำบัดน้ำเสีย
- คาดกำไรปี 2019 ที่ 39 ลบ. +25% Y-Y จากยอดขายสลิงที่โตตามโครงสร้างพื้นฐานและงานวางระบบบำบัดน้ำเสีย
- PE2019 เพียง 12 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ 15 เท่า
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) TOP แนวโน้มค่าการกลั่นยังฟื้นตัวช้าใน 1Q19 แต่อาจมี Stock gain กลับเข้ามาช่วย ในขณะที่ 2H19 ยังคงคาดหวังอานิสงส์จาก IMO และช่วงหยุดซ่อมบำรุงในฤดูมรสุม อย่างไรก็ตาม กลุ่มอโรเมติกส์และน้ำมันหล่อลื่นใน 2H19 อาจโดนฉุดจาก Supply ใหม่ที่เพิ่มต่อเนื่อง สิ่งที่ต้องติดตามคือประเด็นเรื่องการเพิ่มทุนใน GPSC เพราะเป็นช่วงที่ TOP ที่ต้องลงทุนในโครงการ CFP พอดี แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน เรามองว่าเงินสดที่มียังพอใช้ 2-3 ปีข้างหน้า จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 81 บาท
(0) CPN กำไรปกติ 4Q18 -6.7% Q-Q, +0.9% Y-Y เป็น 2,445 ลบ.ต่ำคาดเพราะค่าใช้จ่ายพิเศษเช่นค่าพนักงานการตลาดและค่าซื้อ GLAND สูงกว่าคาด แต่ Operation หลักถือว่าทำได้ดี จบปี 2018 มีกำไรปกติ 10,822.7 ลบ. +7.5% Y-Y ชะลอจากปีก่อนหน้าที่ +8.9% Y-Y เพราะค่าใช้จ่ายที่เพิ่มซึ่งบางรายการเกิดขึ้นครั้งเดียว ส่วนธุรกิจหลักคือค่าเช่าพื้นที่โตเร่งตัวขึ้น +7.7% Y-Y จากการเพิ่มขึ้นของ SSSG (+3.1%) และค่าเช่า (+2.5%) เราคาดกำไรปกติปี 2019-20 โตเร่งตัวเป็นเฉลี่ย +11.0% ต่อปี ใกล้เคียงเป้าระยะยาวของบริษัทที่ตั้งไว้ +13% CAGR จากการเปิดห้างใหม่ การสร้างโครงการบนที่ดินของ GLAND (แผนเสร็จปีนี้) และ Mix use projects ที่ร่วมทุนกับ DTC เราคงราคาเป้าหมายปี 2019 ที่ 93 บาท คงคำแนะนำซื้อ
(0) BCPG แนวโน้มกำไร 1Q19 คาดเพิ่ม Q-Q เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษสำรองเผื่อภาษีจ่ายล่วงหน้ารอขอคืน (โครงการที่อินโดฯ ) 87 ลบ. แต่เทียบ Y-Y คาดอ่อนตัวเล็กน้อย เพราะขาย 2 โครงการที่ญี่ปุ่น (รวม 27.6 MW) ไปใน 4Q18 แนวโน้มกำไรทั้งปี 2019 คาดลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรจากการขาย 2 โครงการในญี่ปุ่น ส่วนประเด็นมาตรการใหม่ของรัฐบาลญี่ปุ่น มีโครงการโซลาร์ของ BCPG ที่อาจถูกกระทบ คือ Yabuki 27.9 MW ค่าไฟ 36 เยนต่อหน่วย หากขอใบอนุญาตที่เหลืออีก 1 ใบไม่ทัน 30 ก.ย. 2019 จะถูกลดค่าไฟ หลังจากนี้จะขยับไปลงทุนในประเทศอื่น เช่น มาเลเซีย เวียดนาม ลาว ไต้หวัน เกาหลี ส่วนไทยอยู่ระหว่างเจรจาซื้อโครงการขนาดมีนัยฯ 100-200 MW คงราคาเป้าหมาย 20 บาท แนะนำถือ
(+) ASK รายงานกำไรสุทธิ 4Q18 ที่ 217 ลบ. -2.2% Q-Q, +14.47% Y-Y น้อยกว่าที่เราคาดไว้ราว 7% จากค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองฯที่สูงกว่าที่คาด กำไรสุทธิปี 2018 อยู่ที่ 811 ลบ. +8.9% Y-Y จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ +5.7% Y-Y และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย +15% Y-Y เรายังคงมุมมองบวกต่อ ASK จาก (1) แนวโน้มสินเชื่อปี 2019 คาดว่าจะเติบโตดีกว่าปี 2018 เพราะจะได้อานิสงส์จากการปล่อยสินเชื่อรถมินิบัส (2) แรงกดดันของการตั้งสำรองฯน้อยลงจากคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน คงคำแนะนำ ซื้อ และคงราคาเหมาะสมที่ 28.60 บาท (ASK ประกาศจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2018 หุ้นละ 1.61 บาท Yield 6.5% XD 7 มีค.)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
26 ก.พ. - สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.), ยอดอนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ (ธ.ค. 18)
27 ก.พ. - ไทย: ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ และอัยการนัดพบแกนนำพรรคอนาคตใหม่
27-28 ก.พ. - ประชุมผู้นำสหรัฐฯและเกาเหลีเหนือ
28 ก.พ. - จีน: PMI ภาคการผลิตและบริการ (ก.พ.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น หลังการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนยังอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น จากข่าวนายกรัฐมนตรีของอังกฤษพยายามเลื่อนกำหนดวัน Brexit ออกไป
(+) ภาพรวมตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมผสาน หลังราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปีฟื้นตัวขึ้น สะท้อนความคาดหวังเรื่องการเจรจาระหว่างสหรัฐ-จีนไประดับนึงแล้ว
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ร่วงลง -1.78 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 55.48 ดอลลาร์/บาร์เรล จากคำพูดของปธ.ทรัมป์ที่ออกมากดดันกลุ่ม OPEC ให้ปรับลดราคาน้ำมันดิบลง
(-) ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง -3.30 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1329.5 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research