WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม 
 
หุ้นรายตัวผันผวนตาม "งบ"   
          เมื่อวานดัชนีฯหุ้นไทยแกว่งขึ้น จากแรงซื้อปิโตรฯอย่าง IVL PTTGC IRPC PTT และ หุ้นกลาง เช่น CBG BEAUTY TRUE COM7 RS บวกแรงกว่าดัชนีฯ  
          วันนี้คาด ดัชนีฯแกว่งใน กรอบ 1663-1675 จุด คาดราคาหุ้นรายตัว จะ... 
          1. (+/-) ผันผวนตามรายงานกำไร 4Q18 ที่ทยอยประกาศ โดยงบที่จะแจ้งตลาด "วันนี้" คาดได้แก่ BGRIM, IVL, AAV, WORK, ANAN, SPALI, ERW, MINT, AU, M, BLA, BJC (ดูงบที่คาดว่าจะแจ้ง เพิ่มเติมวันถัดๆไป ในรายงาน Weekly)  
          2. (+) การประชุมนักวิเคราะห์หลังงบออก ซึ่งจะมีผลต่อราคาหุ้นช่วงนี้ (วันนี้มี AOT AP RS)  
          3. (-) ราคาหุ้นมีความเสี่ยงลงจากกำไรต่ำคาด มีความเสี่ยงถูกปรับกำไรลง BEAUTY PCSGH 
          4. (0/+) หุ้นที่ประกาศจ่ายปันผลมากกว่าคาด GULF (1.2 บ. ดีกว่าคาดที่ 0.40 บ.) / DDD (จ่าย 0.50 บ. ประมาณ 100% payout)   
          สัปดาห์นี้ คาดผ่านแนวต้าน 1,660 จุด ได้สำเร็จ และแกว่งขึ้นในกรอบ 1,645-1,680 จุด  
 
What to watch: 
          (+) ปธน.ทรัมป ทวีต วางแผนพบปะ ปธน.สี จิ้นผิง เร็วๆนี้ ที่ฟลอริด้า หลังการเจรจารอบที่ 4 ที่ผ่านมามีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยจะขยายระยะเวลาเส้นตายออกไป 1 เดือน หรือมากกว่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา "ทรัมป" ย้ำเสมอว่า ถ้าไม่มีผลสรุปที่ดีจนเป็นที่น่าพอใจ จะไม่ยอมพบกับ ปธน.จีน ก่อน ดังนั้นการประกาศแนวทางพบปะ แบบนี้แสดงว่าการเจรจา มีแนวโน้มจะบรรลุผลสำเร็จสูง ตามที่ MS และโบรกเกอร์ต่างชาติส่วนใหญ่คาดการณ์ 
          (0) พฤหัส คาด GDP 4Q18 สหรัฐฯ ชะลอตัวลงเหลือ 2.5% q-q จาก 3.4% คาดไม่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศลงทุน  
          (+) พฤหัส ดัชนีฯ ภาคการผลิต จีน official PMI คาดทรงตัวที่ 49.5 / ศุกร์ ดัชนีฯ ภาคการผลิต สหรัฐฯ คาด 56.4 จาก 56.6 ซึ่งดัชนีภาคการผลิตทั้ง จีน-สหรัฐฯ ไม่ได้ดิ่งลงแรง คาดจะช่วยพยุงตลาด  
          (+) แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่าจะส่งสัญญาณผ่อนคลายผ่าน...ตัวเลขเงินเฟอสหรัฐฯ (ศุกร์) คาด +0.2% m-m ไม่เปลี่ยนแปลง และไทยเงินเฟอคาด +0.7% y-y  
          (+) พฤหัส การประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ย 1.75% 
          (+) งบที่รายงานเช้านี้ ดีกว่าคาด RJH ดีตามคาดมี TQM  
          (-) งบที่รายงานเช้านี้ แย่กว่าคาด BEAUTY PCSGH แย่กว่าคาดไปมาก มีความเสี่ยงปรับกำไรและคำแนะนำลง  
          (0) งบต่ำคาดแต่เรามีมุมมอง Neutral CPN PR9, ส่วน DDD ตลาดรู้อยู่แล้วว่างบแย่แต่จ่ายปันผล 0.50 บ.สูงกว่าคาด, GULF งบต่ำคาดแต่ประกาศปันผลสูงถึง 1.20 บ. Vs.ที่เราคาด 0.40 บ.     
          (+/-) จัดประชุม Review งบ 4Q18 และ แนวโน้มธุรกิจต่อจากนี้: วันนี้มี AOT AP RS (ดูหุ้นอื่นที่จัดประชุมเพิ่มเติมในรายงาน Weekly)  
 
หุ้นแนะนำ 
          Weekly port ถอด GULF เพิ่ม IRPC  
 
รายงานวันนี้ 
 
FOOD (ถั่วเหลือง): Short-term soybean price bounce on US-China trade optimism  
          เรามองว่าการปรับตัวขึ้นของราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกสะท้อนปัญหาการเจรจาการค้าระหว่าง US และจีนที่คลี่คลายมากขึ้น อย่างไรก็ตามเรามองว่าเป็นแค่ปัจจัยหนุนในระยะสั้น เนื่องจากผลผลิตของ US และของโลกที่คาดจะออกมาในปริมาณที่มากและสินค้าคงคลังที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงการคาดการณ์ว่า crushing spread จะปรับตัวลดลง จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันอัตรากำไรของ TVO เรายังคงคำแนะนำ ถือ จากอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่สูง   
 
GOLD: บอร์ด FPT อนุมัติเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ GOLD 
          บอร์ด FPT ได้อนุมัติทำการเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ GOLD โดยสมัครใจ จำนวน 2,324 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 8.50 บาท หาก FPT ได้หุ้น GOLD เกิน 90% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด จะเพิกถอน GOLD ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ  เราคาดว่าราคาหุ้น GOLD จะปรับตัวขึ้นมาแถว 8.5 บาท และยืนได้ แต่อย่างไรก็ตามเรามองว่าดีลนี้ผู้ถือหุ้นรายย่อย GOLD ถูกมัดมือชก หากผู้ถือหุ้นรายย่อยของ GOLD ไม่ใช้สิทธิ์ tender offer ก็จะได้รับปันผลอย่างน้อย 5.9% ต่อไปไปเรื่อยๆ แต่มีปัญหาหุ้นขาดสภาพคล่อง 
 
SYNEX: Key takeaways from Opportunity Day 
          บริษัทฯจะเน้นธุรกิจ E-sport นี้ ให้มากขึ้นและสินค้า Gaming เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูงกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไปจะหนุนกำไรในระยะยาว ตลาด Smart solution เป็นอีกหนึ่งตลาดที่สำคัญ เพราะอยู่ใน Mega trend และเป็นสินค้ามูลค่าสูง การมาของยุค 5G จะหนุนให้ยอดขายทั้ง device และ infrastructure equipment โตก้าวกระโดด ทั้งนี้บริษัทฯจะทำตลาดสินค้ารุ่น high-end ที่มีราคาสูงขึ้นเพื่อสนองความต้องการลูกค้า ขณะที่ price range จะกว้างขึ้นเพื่อผู้บริโภคสามารถเลือกสินค้าได้ทุกระดับราคา    
 
TOP: ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ 
          ประเด็นสำคัญยืนยันมุมมองของเราต่อแนวโน้มการฟนตัวของค่าการกลั่น รวมทั้งแนวโน้มตลาด PX ที่แข็งแกร่งใน 1H19 ในด้านตลาดน้ำมันหล่อลื่นมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงในปีนี้ จากอุปทานล้นตลาด การลงทุนในโครงการ CFP มีความคืบหน้าตามแผน คาดจะเริ่มการก่อสร้างในกลางปี 2019 และ COD ใน 1Q23 มูลค่าหุ้นปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ซื้อขายที่ PBV ปี 2019 ที่ 1.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว และคาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2019 ที่ 3.8% (สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ SET ที่ 3.1%) เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 90 บาท      
 
BCPG: ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
          แนวโน้มกำไรหลัก 1Q19 คาดทรงตัว YoY จากการผลิตไฟได้น้อยลงกลบกับโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุนที่มักขาดทุนได้ถูกขายออกไปแล้ว อีกทั้งโครงการโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุนมีความเสี่ยงอาจจะถูกปรับลดค่าไฟ สำหรับการลงทุนในอนาคต คาดจะได้เห็นความชัดเจนในเร็วๆนี้ เรายังมีความกังวลต่อแนวโน้มกำไรในอนาคตที่จะเริ่มเป็นขาลงหลังจากที่ PPA ที่ได้รับ Adder Bt8/kWh หมดอายุ รวมถึงการหาการลงทุนใหม่ๆ ในโครงการพลังงานทดแทนที่ให้ผลตอบแทนที่ดี เริ่มกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้น เราจึงคงคำแนะนำ "ขาย" สำหรับ BCPG โดยเราชอบ BGRIM (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 35 บาท) มากที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟา 
 
BEC: ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์  
          เม็ดเงินเริ่มกลับเข้ามาในช่วง ก.พ. และคาดจะต่อเนื่องถึง มี.ค. หลังมีความชัดเจนของการเลือกตั้ง อีกทั้งบริษัทตั้งเปาธุรกิจการขายคอนเทนต์และสื่อดิจิตอลเติบโตมากกว่าเท่าตัวในปี 2019 และคาดรักษาเรตติ้งได้จากละครที่คาดว่าทำเรตติ้งได้ดี อีกทั้งยังมีข่าวที่เป็นตัวหนุนเรตติ้งไปจนถึงช่วงเลือกตั้ง  เราเริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นทั้งจากการขยายธุรกิจต่อยอดจากคอนเทนต์ในมือ และการฟนตัวของอุตสาหกรรมทีวี แต่อย่างไรก็ตามธุรกิจหลักอย่างสื่อทีวียังมีความเสี่ยงจากการแข่งขันที่ยังคงรุนแรง ในขณะที่สัดส่วนกำไรจากธุรกิจที่เติบโตแรงอย่างธุรกิจการขายคอนเทนต์และสื่อดิจิตอล ยงเป็นสัดส่วนที่น้อย  เรายังคงคำแนะนำ "ถือ"
 
BCP: ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์  
          แม้ว่า BCP จะได้รับผลประโยชน์จากการฟนตัวของค่าการกลั่น ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอาจจะอาจจะกดดันกำไรของธุรกิจน้ำมันค้าปลีกในระยะสั้น ทั้งนี้ BCP ซื้อขายอยู่ที่ PER ปี 2019 เพียง 9.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหุ้นกลุ่มโรงกลั่นที่ 12.2 เท่า และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2019 ที่ 5.5% (เทียบกับตลาดที่ 3.1%) เราจึงคงคำแนะนำ "ถือ" เพื่อรับเงินปันผล ในบรรดาหุ้นกลุ่มโรงกลั่น เราชอบ TOP (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 90 บาท) มากกว่า 
 
COM7: Key takeaways from Opportunity Day
          แม้ยอดขาย IPHONE ทั่วโลกจะลดลง แต่สินค้าแบรนด์อื่นๆยังหนุนยอดขายของบริษัทเติบโต 13% YoY  อีกทั้งบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการเปิด Apple store นอกจากนี้ยังมี New channel ที่น่าจับตา เช่น King Kong, Franchise และ BNN online อีกทั้งบริษัทมีแผนทำสินค้า house brand เพื่อเพิ่มมาร์จิ้น และการครอบคลุมตลาด จากแผนกลยุทธ์การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุม และการทำตลาดทำให้เรามั่นใจในแนวโน้มการเติบโตของกำไรของ COM7 และมีโอกาสทำได้ดีกว่าคาดด้วย เราแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย 21 บาท  
 
Flow Tracker: ต่างชาติซื้อหุ้นไทยหนักเนื่องจากการซื้อขายบิ๊กล็อต 
          นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 332 ล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งฟนจากการขายสุทธิ 294 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค 5 ประเทศที่เราดู พบว่ากระแสเงินจากต่างชาติรวมเป็นยอดซื้อสุทธิ 1,863 ล้านเหรียญ ซึ่งต่อเนื่องจากยอดซื้อสุทธิ 242ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้า เราคาดว่าเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติมีแนวโน้มยังคงไหลเข้าภูมิภาคต่อเนื่อง เนื่องจากประเด็นความคาดหวังเชิงบวกในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี Volume Flow ของตลาดหุ้นไทยส่งสัญญาณถึงแรงซื้อในหุ้นเกือบทุกกลุ่มยกเว้นกลุ่ม ICT ทั้งนี้เราคาดว่าหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีจะปรับตัวขึ้นได้ดีกว่ากลุ่มอื่นในระยะอันใกล้ เนื่องจากดัชนี Volume Flow ของกลุ่มดังกล่าวส่งสัญญาณฟนตัวจากระดับ Mildly oversold 
 
หุ้นมีข่าว 
          (*) AAV  เผย บริษัทฯอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงความเหมาะสมในการลงทุน NOK แต่ยังมิได้มีข้อตกลงอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรและยังไม่ได้กระทำการใดที่มีผลผูกพันบริษัทเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นนกแอร์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามบริษัทจะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบโดยทันทีหากมีความคืบหน้าหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว (ที่มา ตลท.) 
          (+) NOBLE  ประกาศจ่ายเงินปันผล 6.9 บ. ต่อหุ้น (ที่มา ตลท.)  
          (+) ขึ้น XD รับปันผล: 26 กพ. [email protected] / 27 กพ. [email protected] [email protected]  28 กพ. [email protected], [email protected] RS @0.20 TOP @1.15 SPVI @0.06 / 1 มีค. [email protected] DELTA @2.30 JASIF @0.23 / 4 มีค. [email protected] JAS @0.28 RATCH @1.25 / 5 มีค. PTTGC@ 2.50 บ. MAKRO @0.56 (ที่มา ตลท.)   
 
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
 
Trend Forecasting 
 
SET Index ปิด 1671.75 (+0.76%)  มูลค่าการซื้อขาย 5.6 หมื่นล้านบาท  
 
แนวโน้มระยะสั้นมอง
          SET Index แนวรับ 1,666 แนวต้าน 1,680 / SET100 รับ 2,450 ต้าน 2,475 BSET100 รับ 10.64 ต้าน 10.78 / BMSCITH รับ 12.63ต้าน 12.80 
 
Topic: "ส่องกล้องมองแนวต้านดัชนี" 
 
มุมมองตลาด: 
          การปรับตัวขึ้นร้อนแรงของดัชนีหุ้นไทยเริ่มสร้างความกังวลว่าอาจจะมีความเสี่ยงปรับตัวลดลงในระยะสั้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าจะช่วยลดผลกระทบจากการขายทำกำไร ขณะที่นักลงทุนมีแนวโน้มเปลี่ยนมุมมองการลงทุนไปสู่สินทรัพย์เสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่สูงกว่า แนะจับตาหุ้น SET50 & SET100 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสภาพคล่องสูง เห็นได้ชัดจากปริมาณหุ้นสะสม (OBV) ที่เพิ่มสูงขึ้น จับตาการไหลเข้าของกระแสเงินลงทุนนำไปสู่ทิศทางการแข็งค่าของค่าเงินบาทไทย สัญญาณทางเทคนิคชี้ว่า ดัชนีปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนว 1680 จุด คำถาม:ดัชนีตลาดจะทะลุผ่านได้หรือไม่?  หากวิเคราะห์องค์ประกอบและโครงสร้างของตลาด อาทิเช่น ดัชนีภาพรายกลุ่มอุตสาหกรรม, หุ้นขนาดใหญ่ SET 50, กระแสเงินลงทุน Fund flow และเครื่องมือวัดโมเมนตัมทางเทคนิคแสดงผลลัพธ์เชิงบวก นอกจากนี้เรายังพบสัญญาณดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นโลก  
 
กลยุทธ์: 
          ดัชนีมีลุ้นทะลุผ่านแนวสำคัญ 1680 จุดมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1720 จุด 
 
วิธีการเลือกหุ้น:          
          ภาวะตลาดเป็นขาขึ้นแนะวิธีการเลือกหุ้น 1.วอลุ่มสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2.ราคาปิดฟนตัวจากแนวรับ 3.หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI 4.สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic MACD และ เส้นค่าเฉลี่ย 5. ใช้จุด Stop loss หากไม่เป็นไปตามคาด 
          Technical screen Bull Signal: TVO ,DTAC ,WORK 
          Technical screen Bear Signal: BWG,ESSO,CHG (close below 5&25-days EMA ) 
          Port 
หุ้นคงเหลือ: JAS, BTS, PTTEP, PTTGC, GPSC, BDMS, IVL, TASCO, UTP, WHA, AMATA, SCC, TISCO (แนะนำถือต่อ) 
          
          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค 
          [email protected] +662-618-1334 
 
Track with Technical 
 
          TVO 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 28.50  
          ต้าน 34.00-35.00  
          เหตุผล ทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน บ่งชี้สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้นระยะกลาง ยืนยันจาก RSI บ่งชี้ความแข็งแกร่งด้านราคา 
 
          DTAC 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 50.00  
          ต้าน 58.00  
          เหตุผล ทะลุแนวต้านสำคัญ 47 บ. หนุนด้วยวอลุ่มหนาแน่น บ่งชี้สัญญาณกลับตัว 
 
          WORK 
          แนะนำ ซื้อ           
          รับ 24.00 
          ต้าน 28.00 
          เหตุผล ส่งสัญญาณฟนตัวจากฐาน ขณะที่โครงสร้างระยะกลางแสดงรูปแบบขาขึ้น Higher low และสัญญาณกลับตัว Bull Stochastic 
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!