- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 February 2019 13:24
- Hits: 2456
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“อาจมีแรง Take Profit บ้าง ราคาน้ำมันปรับลง”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ +12.55 จุด ปิดที่ 1671.75 จุด มูลค่าการซื้อขายดีขึ้นที่ 56.7 พันล้านบาท ดัชนีบ้านเราดีกว่าภูมิภาคแถบนี้ ยกเว้นจีนที่ปรับขึ้นถึง 5.6% SET มีโมเมนตัมการปรับขึ้นต่อ หลังเจรจาการค้าคืบหน้า มีโอกาสเลื่อนเส้นตาย 1 มี.ค.ออกไป 1 เดือน ดาวโจนส์ น้ำมันปรับขึ้นดี บอนด์ยิลด์ 10 ปีสหรัฐและดัชนีความกังวล (Vix) ปรับลงดี รวมทั้งบาทกลับมาแข็งค่าอีก ผู้ขายสุทธิรายเดียวเป็น รายย่อย 3.3 พันลบ. ด้านผู้ซื้อสุทธิคือ สถาบัน 3.1 พันลบ. พอร์ตโบรกเกอร์ 0.2 พันลบ. และต่างชาติซื้อเล็กน้อย และ สำหรับต้นปีถึงปัจจุบันสถาบันและต่างชาติซื้อสุทธิ 27.3 และ 8.7 พันลบ. ตามลำดับ ผู้ขายสุทธิหนักคือ รายย่อยด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ
# ระยะสั้นคาด SET อาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง หลังเจรจาการค้าคืบหน้า มีโอกาสเลื่อนเส้นตาย 1 มี.ค.ออกไป เป็นที่รับรู้ไปพอควร ราคาน้ำมันกลับมาปรับลง หลังทรัมป์กดดันโอเป็กให้ระงับการขึ้นราคาน้ำมัน ส่วนปัจจัยบวกคือ ดาวโจนส์ปรับขึ้นได้อยู่
# ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเปิดมาเช้านี้สลับบวก-ลบ ภาวะ Brexit ดีขึ้น มีโอกาสเลื่อนการถอนตัวจากเดิม 29 มี.ค.62 และยังคงต้องติดตามปัจจัยการเมือง รวมทั้งผลประกอบการไตรมาส 4/61- ตลอดปี 61 และการประกาศจ่ายปันผล
# กลยุทธ์ คือ หาก SET ปรับขึ้น เก็งกำไรรอบสั้นได้แนวต้านเป็น 1670-1680 จุด แต่หากมีแรงขาย แนวรับเป็น 1630,1620 จุด ด้านการซื้อลงทุนระยะกลาง ทยอยสะสม ส่วนดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 ยังเป็น 1780 จุด (+0.5 SD) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรปี 61-62 ที่ +8%/+6% ตามลำดับ แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี หุ้น Top Pick ในงวด 1Q62 คือ AOT,BBL,CPALL,HANA,PTT และ WHA
# หุ้นเด่น KBANK : สินเชื่อโต 6.2% ในปี 61 (ใน 4Q61 โต 3.5%QoQ) สินเชื่อที่ขยายตัวดีเป็นสินเชื่อรายใหญ่, สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ และสินเชื่อที่อยู่อาศัย NPLratio ทรงตัวและ Coverage ratio ดีขึ้น โดยสิ้นธ.ค.61 มี NPL ratio 3.34% (เทียบกับ 3.30% ในสิ้นก.ย.61 และสิ้นปี 60) และแม้ว่าจะตั้งสำรองฯน้อยลงแต่Coverage ratio สูงขึ้นเป็น 161% ในสิ้นธ.ค.61 (จาก 149% ในสิ้นปี 60) คงเป้าหมายการเติบโตในปี 62 โดยตั้งเป้าสินเชื่อขยายตัว 5-7%, NIM 3.3-3.5%, รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลง 5-7% , Cost-to-income ratio 40% กลางๆ และ Credit cost 165bps ด้าน NPL ratio อยู่ที่ 3.3-3.7% แนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐาน 270 บาทราคาปิดมีส่วนเพิ่มอีกถึง 36%
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นบวก(เล็กๆ)ต่อ {“ปิดบวก”เหนือ“SMA10วัน”ต่อเนื่อง (โดยยัง“ติด”แนวต้าน และยังถูกกดดันด้วย“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบมีรีบาวด์ฯสั้นๆ(ต่อ)ก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1680 (หรือ1690) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1660” (แนวรับย่อย “1630 – 1620” จุด)}
สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ THANI,IRPC,TVO,PTL,WORK,BH หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ RATCH,HANA,PYLON,AMATA,ERW หุ้นที่หลุดList SVI หุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit คือGUNKUL,GPSC,TRUE,SCB,CPALL,AAV,PTTGC
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Industry Focus : อสังหาริมทรัพย์
Company Guide : BCP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 39.00)
HREIT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 8.05)
Flash Note : CPN (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 85.00)
VNG (ขาย -ราคาพื้นฐาน 5.00)
Stock in Focus : GPSC : ปี 62-63 เติบโตสูงจาก COD โรงไฟฟ้า & เข้าซื้อกิจการ
In The News : ข่าวเด่นวันนี้
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: ทรัมป์ประกาศจะเลื่อนเส้นตายจีนออกไป
# นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความระบุว่า สหรัฐจะเลื่อนเวลาการปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน จากเดิมที่มีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 1 มี.ค.หลังจากการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนมีความคืบหน้าในประเด็นต่างๆที่มีความสำคัญในเชิงโครงสร้างซึ่งรวมถึงประเด็นการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา การถ่ายโอนเทคโนโลยี การเกษตร การบริการ ค่าเงิน และอีกหลายประเด็น
# ขณะเดียวกันทรัมป์ยังระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า "เนื่องจากจีนและสหรัฐมีการเจรจาที่คืบหน้ามากขึ้น เราจึงวางแผนที่จะจัดการประชุมสุดยอดระหว่างท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และผม โดยจะจัดขึ้นที่รีสอร์ท Mar-a-Lago ในรัฐฟลอริด้า เพื่อสรุปข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายทำร่วมกัน"
+ เฟด : ติดตามแถลงการณ์รอบครึ่งปี
# นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้ โดยนายพาวเวลจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธ
-สหรัฐ: สต็อคสินค้าภาคค้าส่ง ธ.ค.61 เพิ่มขึ้น
# สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2556 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย.
+ อังกฤษ: เลื่อนเวลา Brexit
# มีข่าวที่ว่า นางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้เลื่อนการลงมติของรัฐสภาต่อข้อตกลง Brexit ของเธอไปเป็นวันที่12 มี.ค. ทำให้ตลาดคาดว่าจะมีการเลื่อนกำหนด Brexit จากวันที่ 29 มี.ค.ออกไปด้วย
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ปรับขึ้น ขานรับเลื่อนขึ้นภาษีจากจีน
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,091.95 จุด เพิ่มขึ้น 60.14 จุด หรือ +0.23% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,796.11 จุด เพิ่มขึ้น 3.44 จุด หรือ +0.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,554.46 จุด เพิ่มขึ้น 26.92 จุด หรือ +0.36%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) ขานรับข่าวสหรัฐประกาศเลื่อนเวลาการปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน หลังจากการเจรจาการค้าของทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้า โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตานายเจอโรมพาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเตรียมแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้
- ภาวะตลาดน้ำมัน : WTI ปรับลง ทรัมป์กดดันโอเปกระงับขึ้นราคาน้ำมัน
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 1.78 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 55.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ดิ่งลง 2.36 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 64.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์แห่งสหรัฐได้กดดันให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระงับการปรับขึ้นราคาน้ำมัน โดยระบุว่า โลกไม่สามารถรับมือกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นได้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
+ ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ปรับลง เปลี่ยนเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 3.30 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่1,329.50 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบคืนนี้ (25 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น หลังจากการเจรจาการค้ารอบล่าสุดระหว่างสหรัฐและจีนมีความคืบหน้าอย่างมาก
• ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐประกาศสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., ราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จาก ConferenceBoard, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., ราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์,ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จาก Conference Board, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2561, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ม.ค., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนม.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
-/+ พาณิชย์ ยอมรับส่งออก Q1/62 ชะลอตามวัฏจักรคาดเริ่มฟื้นตั้งแต่ Q2
# อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมประเมินสถานการณ์ส่งออกไตรมาส 1/62 ร่วมกับภาคเอกชนว่า วัฏจักรการส่งออกในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมามักจะพบว่าการส่งออกจะชะลอตัวในช่วงไตรมาสแรกของปี และหลังจากนั้นในช่วงไตรมาส 2-3 จะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าในปีนี้ก็เช่นกัน เพราะภาพรวมการส่งออกไปยังตลาดหลักทั้งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ยังเติบโตได้ดี
# อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์จะยังไม่ปรับเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ที่ 8% ตามที่เคยตั้งไว้ โดยจะขอรอดูสถานการณ์ที่ชัดเจนตลอดทั้งไตรมาสแรกปีนี้ก่อน เพื่อนำมาประเมินสถานการณ์ในช่วงที่เหลือของทั้งปีอีกครั้งในช่วงเดือน เม.ย.นี้
# เอกชนให้เป้า 3-5% มองปัญหาและอุปสรรคสำคัญต่อการส่งออกปีนี้ คือ เงินบาทซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งค่าเกินไป รวมทั้งกังวล
หากจะมีการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ส่วนกรณีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่ล่าสุดสหรัฐฯ ได้เลื่อนเวลาการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไปจากวันที่ 1 มี.ค.นั้น ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีต่อการส่งออกของไทยด้วย
-กระทรวงการคลังยอมรับเป็นห่วงเงินบาทแข็งค่ามาก
# ปลัดกระทรวงการคลัง ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมากมานานแล้ว แต่เรื่องนี้คงต้องขึ้นอยู่กับการกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ขณะที่กระทรวงการคลังคงจะไม่เข้าไปก้าวก่ายมากนัก โดยมองว่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง
+ บอร์ดบีโอไอ เห็นชอบให้การส่งเสริมโครงการขนาดใหญ่
# บอร์ดบีโอไอ เห็นชอบให้การส่งเสริมโครงการขนาดใหญ่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ศูนย์ซ่อมอากาศยาน และขนส่งทางอากาศ รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 40,462 ล้านบาท คาดสร้างการใช้วัตถุดิบจากยางธรรมชาติในประเทศ กว่า 3,000ล้านบาทต่อปี
+ 'บีเอสอาร์'จ่อเสียบ'ไฮสปีด''สุรพงษ์'มั่นใจประสบการณ์ - รัฐต่อรองขอลดเงินอุดหนุน
# "คณิศ"ชี้หารือซีพี ครั้งสุดท้าย 5 มี.ค.นี้ ระบุหากไร้ข้อสรุปเชิญ"บีเอสอาร์"เจรจาทันที เสนอลดเงินรัฐอุดหนุน มั่นใจมี.ค.ได้ข้อสรุป ด้าน"สุรพงษ์" พร้อมเจรจา อุบท่าทีรัฐขอลดเงินอุดหนุน มั่นใจประสบการณ์พันธมิตร บริหารรถไฟฟ้า พัฒนาเมกะโปรเจค (กรุงเทพธุรกิจ)
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]