WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม 
 
แกว่งขึ้นต่อ    
          วันนี้คาด แกว่งขึ้นต่อ กรอบ 1650-1669 จุด ข่าวหนุนต่างประเทศ ปธน.ทรัมป ทวีต วางแผนพบปะ ปธน.สี จิ้นผิง เร็วๆนี้ ที่ฟลอริด้า หลังการเจรจารอบที่ 4 ที่ผ่านมามีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยจะขยายระยะเวลาเส้นตายออกไป 1 เดือน หรือมากกว่านั้น (ซึ่งที่ผ่านมา ทรัมป ย้ำเสมอว่า ถ้าไม่มีผลสรุปที่ดีจนเป็นที่น่าพอใจ จะไม่ยอมพบกับ ปธน.จีน ก่อน ดังนั้นการประกาศแนวทางพบปะ แบบนี้แสดงว่าการเจรจา มีแนวโน้มจะบรรลุผลสำเร็จสูง ตามที่ MS และโบรกเกอร์ต่างชาติส่วนใหญ่คาดการณ์) 
          จากข่าวนี้คาดว่าจะหนุนจิตวิทยาบวกหุ้น Global play ให้ขึ้นได้ดีกว่าตลาด และงบที่รายงานออกมารอบนี้ หุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศเริ่มออกอาการผิดหวัง ดังนั้น ยิ่งหนุน ความเห็นเราเรื่อง Sectors rotation เข้าหุ้น Global play ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่ผลักดันตลาดหุ้นไทยขึ้นต่อ รอบนี้  
          Weekly strategy ตั้งแต่ต้นปีดัชนีฯหุ้นไทยขึ้นมาแล้ว 100 จุด เป็นไปตามที่เราประเมิน และจากนี้ไป การขึ้นต่อคาดว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นจากแรงหนุน ตามที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า เช่น งบ 4Q18 แม้จะไม่ได้เติบโตดี แต่ปันผลที่ดีกว่าคาด จะช่วยหนุน เป็นไปตามที่เราออกรายงานเรื่อง Shareholder rewards ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ เราย้ำมาตลอดว่า ไม่ควรกังวลและให้น้ำหนักมากเกินไปนัก ซึ่งสุดท้าย ความตึงเครียดการค้าจีน-สหรัฐฯ กำลังจะมีทางออก ส่วนเรื่อง Brexit ก็เช่นกัน เรามองว่าตลาดมีการปรับตัวรอรับผลกระทบมาเป็นปีๆแล้ว...กลยุทธ์จากนี้ไป การให้ความสำคัญกับการมองตลาดจะลดลง เราจะเน้นไปที่การเลือกหุ้นที่จะขึ้นได้ดีกว่าตลาดรอบนี้ จากการหมุนกลุ่มเล่น หรือ Sector rotation มากกว่า...  
          สัปดาห์นี้ คาดผ่านแนวต้าน 1,660 จุด ได้สำเร็จ และแกว่งขึ้นในกรอบ 1,645-1,680 จุด   
 
What to watch: 
          (+)"ทรัมป" เผยอาจเลื่อนกำหนด เส้นตายเก็บภาษีจีนออกไป 1 เดือน หรือมากกว่านั้น  พร้อมยืนยันอยากหารือตัวต่อตัว กับ "สี จิ้นผิง" ปลายเดือน มี.ค.ที่รีสอร์ทในฟลอริดา นับเป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งชี้ว่าอาจปิดฉากสงครามการค้าของสองชาติยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจโลกที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือน 
          (+) สัปดาห์นี้ คาด GDP 4Q18 สหรัฐฯที่ชะลอตัวลงเหลือ 2.5% q-q จาก 3.4% จะไม่ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศลงทุน โดยดัชนีฯภาคการผลิต สหรัฐฯ คาด 56.4 และจีน 49.5 ซึ่งไม่ได้ดิ่งลงแรง จะช่วยพยุงความคาดหวังเชิงบวกของตลาด / ขณะที่แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายที่คาดว่าจะส่งสัญญาณผ่อนคลายผ่าน...ตัวเลข เงินเฟอสหรัฐฯ คาด +0.2% m-m และไทยเงินเฟอคาด +0.7% y-y / การประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ย 1.75% 
          (+) งบที่รายงานเช้านี้ ดีกว่าคาด และมีการปรับกำไรขึ้นได้แก่ EGCO คาดหุ้นโรงไฟฟาตัวอื่นวันนี้มีโอกาสจะเล่นขึ้นได้ดีตามความคาดหวังกำไรที่จะดีกว่าคาด เช่นกัน 
          (-) งบที่รายงานเช้านี้ แย่กว่าคาด CHG ROBINS ฯลฯ                     
 
หุ้นแนะนำ 
          SCC PTTGC คาดหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก Global play กลับมา Outperform ตลาด 
          BEC เก็งกำไรหุ้นจัดประชุมหลังงบออก 
          CKP เก็งกำไรทางเทคนิค รับ 5 ต้าน 5.3 บ. Stop loss 4.8   
 
รายงานวันนี้
 
Residential Property: Look to the exits! 
          เราแนะนำให้ขายล๊อคกำไรหุ้นกลุ่มอสังหาฯ(บ้าน) ก่อนถึงวัน XD ซึ่งราคาหุ้น YTD ได้ปรับตัวขึ้นมาจนใก้ถึงราคาเปาหมายแล้ว และเรายังมีความสงสัยในการทำธุรกิจในปี 2019 อยู่ว่าจะราบรื่นได้ตามแผนหรือไม่ เพราะอุปสงค์ที่ชะลอตัว และมาร์จิ้นน่าจะอ่อนตัวลงในช่วง 1H19 ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านล่างของประมาณการกำไร 
 
Automotive: Trump's proposed tariff casts shadow over auto industry
          กลุ่มยานยนต์ยังคงมีความเสี่ยงหาก ปธน ทรัมป ตั้งกำแพงภาษี 25% ซึ่งจะส่งผลลบต่อ supply chain ทั่วโลกรวมถึงในสหรัฐด้วย อย่างไรก็ดี base case assumption ของเรา เรายังมองว่าจะไม่มีการตั้งกำแพงภาษีขึ้น เราคงน้ำหนักการลงทุน NEUTRAL โดยให้ STANLY และ SAT เป็น top pick  
 
Economics: Thai exports declined more steeply than expected in Jan 2019 
          ตัวเลขส่งออกเดือน ม.ค. ปรับตัวลดลง 5.7% YoY และหากไม่รวมการส่งออกน้ำมัน และทองคำตัวเลขยังคงปรับตัวลดลง 5.1% YoY โดยปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เป็นผลมาจากภาพเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และค่าเงินบาทที่แข็งค่า อย่างไรก็ตามตัวเลขรายได้ท่องเที่ยวที่ปรับตัวขึ้น 2.4% YoY ช่วยหักกลบผลกระทบดังกล่าวบนดุลบัญชีเดินสะพัด จากตัวเลขส่งออกที่ออกมาเรามองว่าคาดการณ์การเติบโตของตัวเลขส่งออกของเราที่ 4.5% สูงเกินไป  
 
PSH Key takeaways from analyst meeting 
          เรามองว่าตลาดน่าจะเห็นด้วยต่อแผนธุรกิจปี 2019 ของบริษัทที่มีเปาหมายทั้งยอดจองซื้อ และรายได้ที่เติบโตแบบอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่ IPO อย่างไรก็ตามเรามองว่าบริษัทมีมุมมองเชิงบวกเกินไปต่ออัตรากำไรในปี 2019 นี้ โดยอัตรากำไรสุทธิที่น่าจะหดตัวในปี 2019 จะชดเชยกับรายได้ที่เติบโตได้บ้างในปีนึ้หนุนโดย backlogs คอนโดเป็นหลัก เรามองว่าในระยะสั้นหุ้นน่าจะยืนได้และตอบรับเชิงบวกบ้างต่อเงินปันผลส่วนที่เหลือ 1 บาท ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทนเบื้องต้น 5.5%, XD 11 มี.ค นี้ แต่โดยพื้นฐานเรามองว่าหลัง XD แล้วหุ้นจะกลับเข้าสู่สภาพพื้นฐานของกลุ่มที่ไม่สดใสนักใน 1H19, คาดกำไรเข้าสู่จุดต่ำสุดของปีใน 2Q19 เราคงคำแนะนำ ขาย ราคาเป้าหมาย 18 บาท 
 
PTTGC ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
          แนวโน้มค่าการกลั่นในปี 2019 ส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลจะเป็นปัจจัยหลักที่หนุนการฟืนตัวของค่าการกลั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 2H19 สำหรับตลาดปิโตรเคมีในปีนี้ ส่วนต่างราคา PX คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่จะปรับตัวลงใน 2H19 จากกำลังผลิตใหม่ โครงการลงทุนต่างๆ คืบหน้าตามแผน บริษัทเตรียมที่จะเจรจากับ PTT เกี่ยวกับสัญญาซื้อขายก๊าซ ซึ่งแนวโน้มน่าจะเห็นต้นทุนก๊าซที่ลดลงสอดคล้องกับราคาก๊าซจากแหล่งบงกช/เอราวัณที่ลดลง เราคาดการเติบโตของกำไรสุทธิ QoQ ที่แข็งแกร่ง ใน1Q19 และความคืบหน้าเชิงบวกของการเจรจาการค้า น่าจะหนุนราคาหุ้น ปัจจุบัน PTTGC ซื้อขายที่ PER ปี 2019 เพียง 8.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 11.0 เท่า พร้อมด้วยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2019 ที่ 5.4% (ตลาด 3.1%) เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 100 บาท 
 
BGRIM เข้าซื้อ GLOW SPP1  
          BGRIM ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น เพื่อซื้อสัดส่วนการลงทุน 100% ในโครงการ GLOW SPP1 ในมูลค่าซื้อขายรวม 3.3 พันล้านบาท โดยประเมินว่า การเข้าซื้อ GLOW SPP1 จะสร้าง upside ต่อประมาณการกำไรปี 2019 ของเราราว 180 ล้านบาท (หากดีลจบได้ภายใน 1Q19) เราเชื่อว่าข่าวดังกล่าว จะส่งผลบวกต่อราคาหุ้นของ BGRIM โดยเรายังคงมอง BGRIM เป็น top pick ของกลุ่มโรงไฟฟาที่เราให้คำแนะนำ จากแนวโน้มกำไรปี 2019-20 ที่โดดเด่น เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2019 ที่ 35 บาท 
 
GGC ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ 
          ประเด็นสำคัญจากการประชุมยืนยันมุมมองเชิงบวกของเราต่อแนวโน้มการเติบโตของการใช้ B100 รวมทั้งแนวโน้มตลาด Fatty Alcohols (FA) ที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง มาตรการกระตุ้นของรัฐบาลที่จะหนุนการบริโภคน้ำมันปาล์มดิบในประเทศคาดว่าจะกระตุ้นอุปสงค์ B100 ให้เติบโต่อเนื่อง นอกจากนี้มูลค่าหุ้นปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าสนใจซื้อขายที่ PER ปี 2019 ที่ 9.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโอลิโอเคมีในภูมิภาคที่ 20.6 เท่า และค่าเฉลี่ยกลุ่มปิโตรเคมีที่ 11.9 เท่า เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 14 บาท 
 
หุ้นมีข่าว
          (+) 6 บจ.เครือ ปตท.ปี 2561 กำไรรวม 2.17 แสนล้าน ลดลง 7.34% จากปีก่อนที่กำไร 2.34 แสนล้าน จุกราคาน้ำมันวูบ ขณะปันผล สะพัด 3 หมื่นล้าน (ที่มาโพสต์ทูเดย์)
          (+) BGRIM  'บี.กริม' คว้าโรงไฟฟา 'โกลว์' ทุ่มเงินซื้อ 3,300 ล้าน กำลังการผลิต 124 เมกะวัตต์ พร้อมแข่งขันในมาบตาพุด / ดันพอร์ตโรงไฟฟาพลังความร้อนร่วมเพิ่มเป็น 19 แห่ง (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
          (+) ADVANC  'เอไอเอส' โล่งไม่ต้องจ่าย TOT 3.3 หมื่นล้านบ. เอไอเอสเผยอนุญาโตฯ มีมติยกคำเสนอข้อพิพาทของทีโอที กรณีโอนย้ายลูกค้าเรียกชดใช้ 3.3 หมื่นล้าน (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
          (+) BTS รอฟังข้อเสนอใหม่ซีพี 5 มี.ค. รฟท.ย้ำไม่รับเงื่อนไขนอกทีโออาร์ จ่อเรียกกลุ่มบีทีเอสคุย สหภาพหนุนทำเอง ผู้ว่าการ รฟท.เปิดช่องซีพี ชงข้อเสนอใหม่วันที่ 5 มี.ค. เตรียมร่อนหนังสือชี้แจงรัฐบาลหากประมูลล่ม (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
          (+) CKP กำไรปี'61 พุ่งทุบสถิติ นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการ ผู้จัดการ เผย บริษัทสามารถ ทุบสถิติสร้างนิวไฮทั้งรายได้และกำไร โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากปีก่อน เป็น 9,115 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของรายได้การขายไฟฟาของโรงไฟฟาน้ำงึม 2 ซึ่งปีที่ผ่านมาเป็นปีที่มีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดในรอบ 70 ปี และมีรายได้จากการขายไฟฟาของโรงไฟฟาบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น โครงการ 2 เต็มปี ยิ่งไปกว่านั้น โรงไฟฟาน้ำงึม 2 ยังได้มีการออกหุ้นกู้เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน ส่งผลให้กำไรสุทธิของ CKP สำหรับปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 599 ล้านบาท นับเป็นการเติบโตที่สูงขึ้นถึง 277% จากปีก่อน (ที่มา แนวหน้า)
          (*) ตระกูล 'ลิปตพัลลภ' ซื้อ 'FOCUS' ถือหุ้นใหญ่เปลี่ยนชื่อ 'PROUD' เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ บริษัท โฟคัส ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FOCUS แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2562 จะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 225,694,445 หุ้น ให้แก่ 1.นายพสุ ลิปตพัลลภ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.44 บาท มูลค่า 325,000,001 บาท และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 225,694,444 หุ้น ให้แก่ 2.น.ส.พราวพุธ ลิปตพัลลภ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.44 บาท มูลค่า 324,999,999 บาท รวมทั้งหมด 650 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 70.37% ส่งผลให้นายพสุและ น.ส.พราวพุธ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท และจะเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการหรือผู้มีอำนาจควบคุม พร้อมทั้งเห็นชอบให้บริษัทหรือบริษัทย่อยที่จะตั้งขึ้นใหม่ซื้อที่ดินเปล่ารวม 2 แปลงจากบริษัท พราว รีสอร์ท หัวหิน และบริษัท วานา นาวา จำกัด มูลค่ารวม 1,325 ล้านบาท รวมถึงให้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) ชื่อภาษาอังกฤษ "Proud Real Estate Public Company Limited" และชื่อย่อ "PROUD" (ที่มา มติชน)
          (+) ขึ้น XD รับปันผล: 26 กพ. [email protected] / 27 กพ. [email protected] [email protected]  28 กพ. [email protected], [email protected] / 1 มีค. [email protected] / 4 มีค. [email protected] / 5 มีค. PTTGC@ 2.50 บ. (ที่มา ตลท.)   
 
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน  
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1659.20 (+0.72%)  มูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท  
 
แนวโน้มระยะสั้นมอง
          SET Index แนวรับ 1,655 แนวต้าน 1,670 / SET100 รับ 2,430 ต้าน 2,450 BSET100 รับ 10.56 ต้าน 10.70 / BMSCITH รับ 12.52 ต้าน 12.65 
 
Topic: "We're at stage of bull market" 
 
มุมมองตลาด: 
          SET Index ปรับตัวขึ้นปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25-days EMA ได้อย่างแข็งแกร่ง ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค Stochastic บ่งชี้โมเมนตัมการกลับตัว นอกจากนี้เราแสดงตัวชี้วัดบางส่วนที่ใช้วัดเมื่อตลาดถึงจุดเปลี่ยนรอบเป็นขึ้น เช่น การทะลุแนวต้านสำคัญ มูลค่าการซื้อขายของตลาด Fund Flow และการปรับตัวขึ้นของหุ้นในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมขึ้นตามภาวะตลาด  
          คำถาม:ดัชนีจะขึ้นไปได้อีกไกลแค่ไหน? ตัวเลข Fibonacci ratio จะแสดงจุดต้านไว้ที่ 1680 จุด (Fibonacci ratio 61.8%) ทะลุได้มองแนวต้านถัดไปที่ 1715 จุด 
 
กลยุทธ์: 
          จับตาหุ้นที่อยู่ใน SET50 และ SET100 เป็นหลักเนื่องจากรองรับกระแสเงินลงทุนไหลเข้าได้ดี วิธีการเลือกหุ้น: ภาวะตลาดเป็นขาขึ้นแนะวิธีการเลือกหุ้น 1.วอลุ่มสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2.ราคาปิดฟืนตัวจากแนวรับ 3.หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI 4.สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic MACD และ เส้นค่าเฉลี่ย 5. ใช้จุด Stop loss หากไม่เป็นไปตามคาด 
          Technical screen Bull Signal: PTTGC, IVL, WHA, AMATA, SCC, TISCO 
          Technical  screen Bear Signal: CHG,ESSO,GL (close below 5&25-days EMA ) 
          Port หุ้นคงเหลือ: KTC, JAS, BTS, OSP,PTTEP, PTTGC, GPSC, BDMS, IVL, TASCO, UTP (แนะนำถือต่อ) 
          
          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค 
          [email protected] +662-618-1334
 
Track with Technical 
          PTTGC & IVL 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 71.50 /47.00 
          ต้าน 77.00 /53.00 
          เหตุผล PTTGC และ IVL ส่งสัญญาณฟืนตัวจากกรอบล่าง ขณะที่ Stochastic และ RSI หนุนสัญญาณกลับตัวและความแข็งแกร่งด้านราคา  
 
          WHA & AMATA 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 4.20 / 21.90 
          ต้าน 4.50 /23.50 
          เหตุผล WHA&AMATA วอลุ่มคึกคักเนื่องจากราคาส่งสัญญาณฟืนตัวขึ้นจากแนวรับ ขณะที่โครงสร้างหลักอยู่บนขาขึ้น 
 
          SCC & TISCO 
          แนะนำ ซื้อ 
          รับ 472.00/85.00 
          ต้าน 500.00/91.00 
          เหตุผล SCC&TISCO ราคาทะลุทำจุดสูงสุดใหม่ จัดอยู่ในกลุ่มหุ้นนำตลาด Leading stocks  

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!