- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 25 February 2019 16:26
- Hits: 2616
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Plays//Continue to Hold after Accumulated
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ตามคาดในช่วงครึ่งเช้าก่อนที่ช่วงบ่ายจะปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งนำโดยกลุ่มพลังงาน โดยสามารถปิดบวกได้ถึง 11.88 จุด ณ สิ้นวัน แรงซื้อหลักมาจากนักลงทุนต่างชาติสูงถึง 3.3 พันลบ. ขณะที่สถาบันในประเทศขายสุทธิเล็กน้อย 485 ลบ. ส่วนรายย่อยขายสุทธิ 3.2 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัวในแดนบวกขึ้นไปทดสอบระดับ 1,670 จุดจากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างสดใสหลังมีรายงานว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนมีความคืบหน้าอย่างมาก รวมถึงทรัมป์ยังยืนยันว่าจะยืดเส้นตายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนออกไปจากเดิมวันที่ 1 มี.ค. ขณะที่การเมืองในประเทศสัปดาห์นี้ต้องติดตามศาลรัฐธรรมนูญกรณีกรณียุบพรรคทษช. เรายังมองว่าหุ้นในกลุ่ม Global Play จะยังนำตลาดและเน้น Selective Buy หุ้นที่คาดว่าจะมีแนวโน้มกำไรแข็งแกร่ง
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้นที่คาดกำไร 4Q18 โดดเด่น//ระยะกลาง-ยาวเน้นถือต่อเนื่อง
หุ้นเด่นเดือน ก.พ : EA, ERW, GLOBAL, SAPPE, SEAFCO
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$143ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไทย US$105ล้าน ขณะที่ไหลออกเกาหลีใต้ US$22ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าหลังจากสหรัฐแถลงเลื่อนการเก็บภาษีจากจีนจากเดิมกำหนดในวันที่ 1 มี.ค. ออกไป ขณะที่ผู้นำทั้งสองประเทศมีนัดประชุมกันต่อเพื่อยุติสงครามการค้า
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> ERW <<
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 8.00 บาท (ตัดขาดทุน 7.25 บาท)
- ยอดนักท่องเที่ยว ม.ค. 19 +5% Y-Y ชาวจีนกลับมาโตแรง 28% M-M, 10% Y-Y เป็นไปตามที่เราคาดว่าปีนีภาคท่องเที่ยวจะกลับมาเด่น ถือเป็นปัจจัยบวกต่อ ERW โดยตรง
- คาดกำไร 4Q18 ที่ 169 ลบ. +308.1% Q-Q, +5% Y-Y จากรายได้โตเร่งตัวหลังเปิดโรงแรมใหม่และต้นทุนที่คุมได้ดีกว่าคาด
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ROBINS กำไรปกติอยู่ที่ 848 ลบ. (+27.7% Q-Q, +3.4% Y-Y) ใกล้เคียงคาด สาเหตุที่โต Q-Q มาจาก High Season และที่โตเล็กน้อย Y-Y มาจาก SSSG ที่บวกเพียง +0.8% Y-Y และมีเปิดสาขาใหม่ 1 แห่งที่ชัยภูมิ กำไรปกติปี 2018 เท่ากับ 2,969 ลบ. (+8.3% Y-Y) แนวโน้มปีนี้คาดได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อต่างจังหวัด, แผนเปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง, การโตต่อเนื่องของรายได้ค่าเช่า และการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นจากการเพิ่ม House Brand แต่ด้วยการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นปี 2018 ที่ช้ากว่าคาด เราจึงปรับลดสมมติฐานปีนี้ลง 20 bps ทำให้คาดการณ์กำไรปกติปี 2019 ลดลงจากเดิม 3% เป็น 3,422 ลบ. (+15.3% Y-Y) และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 80 บาท จากเดิม 83 บาท ยังแนะนำซื้อ
(0) SVI กำไรสุทธิ 4Q18 เท่ากับ 210 ลบ. (-18.6% Q-Q, +87.5% Y-Y) ต่ำกว่าคาดที่ 273 ลบ. หากไม่รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยน จะมีกำไรปกติ 189 ลบ. (-26.2% Q-Q, +24.3% Y-Y) รายได้ทำจุดสูงสุดใหม่ US$136 ล้าน (+7% Q-Q, +36% Y-Y) แต่อัตรากำไรขั้นต้นทำได้ 8.3% ต่ำกว่าคาดที่ 9.9% กำไรสุทธิปี 2018 อยู่ที่ 803 ลบ. (+63.4% Y-Y) ส่วนปี 2019 บริษัทตั้งเป้าเชิงรุกต่อเนื่อง โดยมี Upside จากลูกค้าบางรายที่ต้องการย้ายฐานการผลิตจากจีนเพื่อหนี Trade War อย่างไรก็ตาม ด้วยอัตรากำไรขั้นต้น 4Q18 ส่งสัญญาณชะลอ เราจึงปรับลดคาดการณ์ของปีนี้ลง 30 bps เป็น 9.2% จากเดิม 9.5% ทำให้ราคาเป้าหมายลดเหลือ 6.2 บาท จาก 6.6 บาท จ่ายปันผลหุ้นละ 0.11 บาท Yield 2% ขึ้น XD 3 พ.ค. และประกาศซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 150 ล้านหุ้น (คิดเป็น 6.62% ของหุ้นที่ชำระแล้ว) ระหว่าง 17 เม.ย. - 16 ต.ค. 2019 แนะนำซื้ออ่อนตัว
(0) BEC ขาดทุนสุทธิใน 4Q18 ที่ 260 ลบ.ใกล้เคียงคาด หากไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษในโครงการ Early Retirement และสำรองค่าใช้จ่ายพนักงานรวมกัน 213 ลบ. จะเป็นขาดทุนปกติ 47 ลบ. แย่ลงจาก 3Q18 ที่มีกำไร 78 ลบ. เพราะรายได้รวมลดลง จากค่าโฆษณาที่ยังเผชิญการเข่งขันรุนแรง ส่วนงบทั้งปียังขาดทุนปกติ 98 ลบ. แย่ลงจากปีก่อนที่มีกำไรปกติ 43 ลบ. แนวโน้มกำไรกำไรปี 2019 คาดพลิกมามีกำไร 311 ลบ. จากรายได้ที่คาดฟื้นตัวและค่าใช้จ่ายที่คุมได้ดีขึ้น PE2019 อยู่ที่ 40 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 32 เท่า เรายังแนะนำขาย ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท โดยระยะสั้น อาจมีแรงเก็งกำไรตามข่าว กสทช. จะใช้เงิน 5G มาเยียวยาทีวีดิจิตอล แต่ยังไม่มีความแน่นอน
(0) TACC กำไรสุทธิ 4Q18 เท่ากับ 9 ลบ. (-59.1% Q-Q, -72.7% Y-Y) หากไม่รวมค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 19 ลบ. จะมีกำไรปกติอยู่ที่ 29 ลบ. (+26.1% Q-Q, -12.1% Y-Y) ใกล้เคียงคาด กำไรที่โต Q-Q มาจากปัจจัยฤดูกาล ส่วนที่ลดลง Y-Y มาจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น กำไรสุทธิปี 2018 อยู่ที่ 68 ลบ. (-39.2% Y-Y) หากไม่รวมตั้งสำรองฯจะมีกำไรปกติ 92 ลบ. (-18% Y-Y) เราคาดกำไรปี 2019 กลับมาโต 16% Y-Y เป็น 107 ลบ. จากการรับรู้เครื่องดื่มสูตรน้ำตาลน้อยเต็มปีและโตตาม 7-11 ขณะที่ การขึ้นภาษีน้ำตาลครั้งที่ 2 ช่วง ต.ค. 2019 จะไม่กระทบต่อ TACC เพราะมีการปรับสูตรเครื่องดื่มผงเผื่อไว้แล้ว ยังคงราคาเป้าหมายที่ 4.5 บาท (อิง PE 25 เท่า) ปันผลงวด 2H18 หุ้นละ 0.09 บาท คิดเป็น Yield 3% XD 29 เม.ย. แนะนำซื้อ
(-) ส่งออกเดือน ม.ค. -2% M-M หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เหลือ US$18,994 ล้านเหรียญ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในปีที่ผ่านมาที่มียอดส่งออก US$2.1 หมื่นล้าน การลดลงของส่งออกเป็นผลของสงครามการค้าเพราะแทบทุกตลาดหลักของไทยปรับลงหมดโดยเฉพาะจีน และส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงในปีก่อน คาดการณ์ของธปท.ที่ส่งออกปีนี้ +3.8% เท่ากับช่วงที่เหลือของปีต้องมียอดส่งออกเฉลี่ยเดือนละ US$2.2 หมื่นล้านซึ่งถือว่าท้าทาย อาจเป็นการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจของ ธปท. ต้น เม.ย.
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
26 ก.พ. - สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.พ.), ยอดอนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่ (ธ.ค. 18)
27 ก.พ. - ไทย: ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ และอัยการนัดพบแกนนำพรรคอนาคตใหม่
28 ก.พ. - จีน: PMI ภาคการผลิตและบริการ (ก.พ.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น ตอบรับกับคำพูดของปธ.ทรัมป์ในการจะเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบที่ 2 ออกไปก่อน
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังการเจรจาระหว่างสหรัฐ-จีนคืบหน้าไปด้วยดี อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามประเด็นเรื่อง Brexit ที่อาจกลับมากดดันตลาดในช่วงถัดไป
(+) ภาพรวมตลาดเอเชียปรับตัวขึ้นตาม Sentiment เชิงบวกจากสหรัฐ
(-) ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น +0.30 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 57.26 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐลดลงและการเจรจาระหว่างสหรัฐ-จีนที่มีความหวังมากขึ้น
(+) ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น +5.00 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1332.8 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research