- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 25 February 2019 13:24
- Hits: 2379
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“SET มีโมเมนตัมบวก จากเจรจาการค้าคืบหน้า”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : TMT (จากถือเป็น Fully Valued)
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วันศุกร์ +11.88 จุด ปิดที่ 1659.2 จุด มูลค่าการซื้อขายปานกลางที่ 50.8 พันล้านบาท ดัชนีบ้านเราดีกว่าภูมิภาคแถบนี้ ยกเว้นจีนที่ปรับขึ้นถึง 1.9% เพราะรับรู้ข่าวบวกเรื่องผลการเจรจาการค้าที่วอชิงตันที่คาดว่าจะออกมาดี รายงานบันทึกการประชุมเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยและยุติการลดงบดุลก่อนสิ้นปี 62 และหุ้นรายตัวได้รับผลกระทบจากผลกำไรปี 61 ที่ออกมาทั้งบวกและลบ ผู้ขายสุทธิเป็น รายย่อย 3.1 พันลบ. และสถาบัน 0.5 พันลบ. ด้านผู้ซื้อสุทธิคือ ต่างชาติ 3.3 พันลบ. และพอร์ตโบรกเกอร์ 0.3 พันลบ. สำหรับต้นปีถึงปัจจุบันสถาบันและต่างชาติซื้อสุทธิ 24.2 และ 8.7 พันลบ.ตามลำดับ ผู้ขายสุทธิหนักคือ รายย่อย ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ
# ระยะสั้นคาด SET เป็นไปในทางบวก มีโมเมนตัมการปรับขึ้นต่อ หลังเจรจาการค้าคืบหน้า มีโอกาสเลื่อนเส้นตาย 1 มี.ค.ออกไป 1 เดือน ดาวโจนส์ น้ำมันปรับขึ้นดี บอนด์ยิลด์ 10 ปีสหรัฐ และดัชนีความกังวล (Vix) ปรับลงดี รวมทั้งบาทกลังมาแข็งค่าอีก
# ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านเปิดมาเช้านี้สดใส ดาวโจนส์ล่วงหน้าก็อยู่ในโซนเขียว อย่างไรก็ตามปัจจัยลบคือ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป ไม่สดใส ภาวะ Brexit ไม่แน่นอน ยังคงต้องติดตามปัจจัยการเมือง รวมทั้งผลประกอบการไตรมาส 4/61- ตลอดปี 61 และการประกาศจ่ายปันผล
# กลยุทธ์ คือ หาก SET ปรับขึ้น เก็งกำไรรอบสั้นได้แนวต้านเป็น 1670-1680 จุด แต่หากมีแรงขาย แนวรับเป็น 1630,1620 จุด ด้านการซื้อลงทุนระยะกลางทยอยสะสม ส่วนดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 ยังเป็น 1780 จุด (+0.5 SD) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรปี 61-62 ที่ +8%/+6% ตามลำดับแนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี หุ้น Top Pick ในงวด 1Q62 คือ AOT,BBL,CPALL,HANA,PTT และ WHA
# หุ้นเด่น SCC : ธุรกิจโภคภัณฑ์ทั้งปิโตรเคมีและบรรจุภัณฑ์มีโอกาสกระเตื้องขึ้นหลังหมดเทศกาลตรุษจีน ด้านธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างไปได้ดีต่อใน1H62 และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ปี 62 คาดว่าจะทรงตัว YoY แนะนำซื้อ แม้การเติบโตของกำไรปี 62 จะจำกัด แต่มี Catalyst ระยะสั้นจากดีมานด์โภคภัณฑ์ในจีนที่มีโอกาสฟื้นตัวดีขึ้น แรงกดดันจากสงครามการค้าคลี่คลายลงในช่วงนี้ และ Valuation จูงใจ ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปีนี้ที่ 11.2 เท่า ต่ำกว่าภูมิภาคที่ 14เท่า คาด Dividend Yield ที่ 3.8% ต่อปี ให้ราคาพื้นฐาน 504 บาท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นบวกเล็กๆต่อ {“ปิดบวก”เหนือ“SMA10วัน”ต่อ (โดย“ติด”แนวต้าน และยังถูกกดดันด้วย“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของSET50สัปดาห์นี้“แกว่ง”แบบมีรีบาวด์ฯสั้นๆ(ต่อ)ก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน1110 – 1120 จุด {แนวขาย “ต่ำกว่า 1095” (แนวรับย่อย “1085 – 1080 / 1070” จุด)}
สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ SCB,AMATA,SVI,CPALL,AAV,PTTGC,ERW หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ GUNKUL,RATCH,GPSC,HANA, PYLON, TRUE หุ้นที่หลุด List ไม่มี หุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit TISCO,KTC,GLOW,VNT,TASCO,UTP,BTS,BLA
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : PSH (ถือ -ราคาพื้นฐาน 21.00)
SVI (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 6.70)
TMT (Fully Valued-ราคาพื้นฐานก่อน XD 13.00)
Flash Note : โรงไฟฟ้า : BGRIM ซื้อ โรงไฟฟ้า โกลว์ เอสพีพี 1 สำเร็จ
CHG (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 2.30)
COM7 (Review)
SCP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 11.33)
SYNEX (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 15.95)
TKN (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 12.00)
In The News : ADVANC : อนุญาโตตุลาการมีมติว่าบริษัทไม่ได้ทำผิดตามสัญญา
ข่าวเด่นวันนี้
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: เจรจาการค้าออกมาในโทนดี
# นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นต่อการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยปธน.ทรัมป์ระบุเมื่อวันศุกร์ว่า เขาอาจจะขยายกำหนดเส้นตายในการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนจากวันที่ 1 มี.ค.ออกไปอีก 1 เดือนหรือมากกว่านั้น หากสหรัฐและจีนมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้ามากขึ้น
# ปธน.ทรัมป์ยังระบุด้วยว่า มีโอกาสดีมากที่จะทำข้อตกลงกับจีนเพื่อยุติสงครามการค้า และเขาหวังว่า จะได้พบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในเร็วๆ นี้ เพื่อทำการตัดสินใจด้านการค้าครั้งใหญ่ที่สุดร่วมกัน
# ด้านนายเหอกล่าวว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จีนจะทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ โดยนายเหอจะยังคงอยู่ในกรุงวอชิงตันต่อไปอีกสองวันในช่วงสุดสัปดาห์นี้เพื่อเจรจากับคณะเจ้าหน้าที่สหรัฐ และเขาระบุว่า การเจรจามีความคืบหน้าในประเด็นด้านนโยบายสกุลเงิน
-/+ ดอลลาร์สหรัฐ: อ่อนค่า ยังกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ
# ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (22 ก.พ.)เนื่องจากตลาดยังคงถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนขายดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเนื่องจากมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ปรับขึ้น ขานรับการเจรจาการค้าเป็นบวก
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,031.81 จุด เพิ่มขึ้น 181.18 จุดหรือ +0.70% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,792.67 จุด เพิ่มขึ้น 17.79 จุดหรือ +0.64% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,527.54 จุด เพิ่มขึ้น 67.84 จุดหรือ +0.91%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (22 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับแนวโน้มการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดเผยหลังการเจรจากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนว่า เขาอาจเลื่อนกำหนดเส้นตายที่จะเก็บภาษีจีนเพิ่มขึ้นออกไปจากวันที่ 1 มี.ค.นี้
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : WTI ปรับขึ้น จำนวนแท่นขุดเจาะลดลง
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 57.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. บวกขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 67.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (22 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งช่วยคลายความวิตกในตลาดเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันที่พุ่งขึ้นในสหรัฐ และตลาดยังได้แรงหนุนจากแนวโน้มการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ปรับขึ้น จากดอลลาร์อ่อนค่าลง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่1,332.80 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (22 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
-/+ พาณิชย์ เผย ม.ค.62 ส่งออก ติดลบ 5.65% นำเข้าโต 13.99%
# พาณิชย์ เผย ม.ค.62 ส่งออก ติดลบ 5.65% นำเข้าโต 13.99% ขาดดุลการค้า 4,032 ล้านเหรียญฯ (Aspen)
# การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนของสหรัฐฯ วัฏจักรขาลงของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ราคาน้ำมันดิบโลกที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงปัจจัยฐานที่สูงในปีก่อน เป็นปัจจัยที่กดดันให้การส่งออกสินค้าของไทยในเดือนม.ค. 2562 หดตัวร้อยละ 5.65 YoY ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการส่งออกสินค้าของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคที่หดตัวสูง เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ (ศูนย์วิจัย KBANK)
# ผลกระทบ: เป็นลบ เพราะตั้งเป้าปีนี้เติบโต 4-5% คาดว่าได้รับผลลบสงครามการค้า อย่างไรก็ตามสหรัฐกำลังเจรจากับจีน หากผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ก็คาดว่าจะทำให้ภาวการณ์ส่งออกฟื้นตัวดีขึ้นได้ในเวลาต่อมา
+ ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ม.ค.62 เพิ่ม 4.9% y-o-y จีนกลับมาเติบโตดี
# กระทรวงท่องเที่ยวรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ม.ค.62 เพิ่ม 4.9% y-o-y เป็น 3.72 ล้านราย ตัวเลขที่น่าสนใจคือ นักท่องเที่ยวจีน +10.3% y-o-y อินเดีย +25% y-o-y และรัสเซีย +1% (Aspen)
# ผลกระทบ: เป็นบวก ก.พ.62 มีโมเมนตัมที่ดีจากเทศกาลตรุษจีน คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อหลักทรัพย์กลุ่มเดินทางท่องเที่ยว หลักทรัพย์ พื้นฐานดี แนะนำ ซื้อ คือ AOT, ERW และ MINT
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]