- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 25 February 2019 13:22
- Hits: 2409
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้เราคาดดัชนี SET แกว่งขึ้น จากปัจจัยบวกต่างประเทศหลังการประชุมผู้นำเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน มีความคืบหน้าที่ดีขึ้น ขณะที่ฝั่งตลาดหุ้นไทยนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิใน Month To Date มอง SET แกว่งขึ้น โดยมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,667 จุด (High ล่าสุด) และแนวรับที่ระดับ1,650จุด
Market Factors
• (+) ประธานาธิปดีสหรัฐฯนายโดนัลทรัมป์ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้าออกไปจากวันที่ 1 มี.ค.บวกกับอาจมีการเจรจาการค้ากับประธานาธิบดีของจีนนายสีจิ้นผิงในช่วงปลาย มี.ค.
• (-) กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ม.ค.62 การส่งออกมีมูลค่า18,993.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบ5.65% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 23,026.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว13.99% ส่งผลให้เกิดการขาดดุลการค้า4,032 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
• (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 114.92 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 110.65 บาท หรือลดลง 3.72%Year To Date
• (-) Spread Thai Government Bond ระหว่าง 2 Year-10 Year Yield ปรับลดลงเหลือ -65.519 bps จากระดับสูงสุดเมื่อต้นเดือน ก.พ. 61 ที่ -54.547bps โดยเป็นการปรับตัวลดลงของ Yield ใน 2 Year และปรับเพิ่มขึ้นของ Yield ใน 10 Year แสดงให้เห็นถึงการความต้องการพักเงินในตลาดตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นกว่า
• (+) อัพเดท Flow การลงทุนตลาดหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเดือน ม.ค. 62 ซื้อสุทธิ 6,721.62 ลบ. และ Month to date ซื้อสุทธิ 2,026.32ลบ. ส่งผลให้ Year to date ต่างชาติซื้อสุทธิ 8,747.94 ลบ.
Investment Strategy
• สัปดาห์นี้เรากลับมามีมุมมองเชิงบวกต่อ SET Index จากความคืบหน้าที่ดีขึ้นหลังการประชุมผู้นำเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน บวกกับ เม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่พลิกกลับมาซื้อสุทธิใน MTD ทำให้เรามองว่า SET Index มีโอกาสแกว่งขึ้น โดยมีแนวต้านระยะสั้นที่ 1,667 จุด (High ล่าสุด) และแนวต้านระยะกลางรอทดสอบที่ระดับ 1,678 จุด แนะนำซื้อ3 กลุ่ม หุ้นเด่น ดังนี้
• กลุ่มที่ได้รับอานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น:โดย Year To Date ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นราว 2.46% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นอานิสงส์บวกต่อหุ้นกลุ่มนำเข้าและสายการบิน เลือก SYNEX (ปี 61 ประกาศกำไรโต 15.65%YoY และปี 62 ตั้งเป้ารายได้โต 10-15%YoY โดยตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้มาจากสินค้ากลุ่มโน้ตบุ๊คและสมาร์ทโฟนแบรนด์ชั้นนำราว 50% ,กลุ่มConsumer Product ราว30% และส่วนที่เหลือมาจากกลุ่ม Commercial Product ราว 20% โดยปีนี้บริษัทมีแผนเพิ่มแบรนด์สินค้าเพื่อจำหน่ายอย่างน้อยอีก 4-5 แบรนด์โดยเฉพาะในกลุ่มกล้องวงจรปิดหรือระบบรักษาความปลอดภัยจากปัจจุบันที่มีแบรนด์สินค้าทั้งสิ้น60 แบรนด์), HARN (แนวโน้มธุรกิจสินค้านำเข้ามีมาร์จิ้นดีขึ้น บวกกับ เป้าการเติบโตปี 61 ที่ 10.7%YoY และ ปี 62 ที่ 8.2%YoY Backlog ณ สิ้น 3Q61 ที่ 414 ลบ.),FTE (แม้ปี 61 กำไรสุทธิทรงตัว YoYหลังมีค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ขณะที่ปี 62 บริษัทตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% โดยมีปัจจัยบวกจากการขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งภาครัฐฯ และเอกชน (เน้นกลุ่มโรงไฟฟ้า) หลังบริษัทเพิ่มรายการสินค้า และเปิดช่องทางจำหน่ายใหม่) AAV (นอกเหนือจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นยังมีประเด็นบวกต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงโดย QTD Singapore Jet Kero Spot เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 72.22 USD/barrel ต่ำกว่าต้นทุนเฉลี่ยช่วง1Q61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 77.72 USD/barrel และต้นทุนเฉลี่ยทั้งปี 61 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 82.97 USD/barrel)
• กลุ่มโรงพยาบาล: มองเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่น่าสนใจยามตลาดผันผวน จากกระแสเงินสดแข็งแกร่งไม่ผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเราคัดกรองหุ้นจากข้อมูลของ Bloomberg Consensus ที่มี Earning Growth ปี 62 โต และยังมี Upside เลือก EKH (ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โตหนุนด้วยการเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) พระราม 9 สามารถให้บริการได้เต็มปีทำให้สามารถรองรับคนไข้เข้ามาใช้บริการได้เพิ่มขึ้นจาก 300 ราย/ปีจากเดิมที่ 200 ราย/ปีนอกจากนี้เตรียมเปิดอาคารกุมารเวชแห่งใหม่ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งจะมีจำนวนห้องและเตียงเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 53 เตียงจากเดิมที่มี 86 เตียง), RJH (ปี 62 คาดรายได้โตราว 10-15% จากกลยุทธ์การให้บริการเฉพาะทางทั้ง Heart Center , MRI,Check Up และการเปิดศูนย์ฟอกไตเทียมเฟสใหม่ที่มีเครื่องฟอกไตเพิ่มอีก8ยูนิตรวมเป็นทั้งหมด 35 ยูนิต), BCH (แรงหนุนจากการปรับปรุงโรงพยาบาลในเครือ และการเพิ่มศูนย์การแพทย์ระดับตติยภูมิ พร้อมกับแนวโน้มสดใสของ WMC และ IVF), BDMS (คาดกำไรปี 62 โต YoY จากแผนยกระดับการให้บริการที่เน้นกลุ่มโรคซับซ้อนมากขึ้น และพัฒนาการของโครงการ Wellness Clinic รวมทั้งคาดมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้น RAM ซึ่งคาดจะบันทึกในช่วง 1Q62 (4.6 ล้านนหุ้น ที่ราคา 2,800 บาท/หุ้น) ซึ่งบริษัทมีแผนจะนำมาชำระหนี้เพื่อลดภาระทางการเงิน)
• กลุ่มจำนำทะเบียนรถ: รับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น แนะนำSAWAD (คาดปี 62 กำไรโต 32.1%YoY จากแผนขยายสินเชื่อใหม่ 20-30%YoYสอดรับกับจำนวนสาขาที่จะเพิ่มขึ้นอีก 300-400 สาขาบวกกับรับรู้ผลของ Yield ที่ฟื้นตัวแบบเต็มปีและต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตรราว 2,500-2,600 ลบ.), MTC (คาดกำไรปี 62 โต 31.9%YoY ทำ New High ต่อเนื่องหลังมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 600 สาขาเพื่อเพิ่มพื้นที่บริการให้ครอบคุมมากขึ้นขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมี NPL ต่ำสุดในกลุ่ม)
Quantitative Screening
• Dividend Theme โดย Screen หุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากการขึ้นเครื่องหมาย XD รอบนี้โดดเด่น แนะนำ KGI (8% XD 18 เม.ย. และจ่ายปันผล 8 พ.ค.), NYT (5.8%, XD 3 พ.ค. และจ่ายปันผล 24 พ.ค.)และ SAT (5%, XD 27 ก.พ. และจ่ายปันผล 7 พ.ค.)
22-Feb-19 Change (pts.) 21-Feb-19
SET Index 1,659.20 11.88 1,647.32
SET50 Index 1,105.88 9.09 1,096.79
SET100 Index 2,436.52 19.79 2,416.73
High 1,661.09 Gainers 578
Low 1,644.51 Unchanged 485
Value (Bt m) 50,800.06 Losers 717
Volume (*000) 13,635,081
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 15.0 13.8 13.8
EPS Growth (%) 13.9 9.3 15.6
EV/EBITDA (x) 10.0 9.4 8.8
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.5
Dividend Yield (%) 3.2 3.4 No Data
ROE 11.6 11.6 11.9
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 22-Feb-19 WTD MTD YTD
Institution 484.80 705.74 14,181.73 24,213.16
Proprietary 390.88 1,313.62 3,627.55 2,323.50
Foreign 3,280.03 10,346.42 2,026.31 8,747.96
Individual (3,186.12) (12,365.78) (19,835.59) (35,284.62)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary