SET เคลื่อนไหวแคบปิด +0.12% ที่ 1,647.32 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.4หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 261 ล้านบาท

 

Dow Jones ปรับลดลง 0.4% หลังตัวเลขสั่งซื้อสินค้าคงทน, ยอดขายบ้านมือสอง, และ Flash PMI ภาคการผลิตออกมาต่ำกว่าตลาดคาด...ผลการดำเนินงาน 4Q18 กลุ่มพลังงาน-โรงกลั่น-ถ่านหิน ที่ออกมาต่ำกว่าคาด จะกดดัน SET ปรับลดลงไปที่แนวรับ 1,638 +/- จุด ซึ่งเป็นกรอบแนวรับที่ใช้ในการทยอยสะสมกลุ่มหุ้นที่จากสถิติในอดีต ให้ผลตอบแทนดีก่อนเลือกเลือกตั้ง 3 สัปดาห์ อย่างกลุ่มธนาคาร อสังหาฯ สื่อสาร และโรงแรม ชอบSCB TISCO AMATA WHA และ MINT

 

ทำอะไรดี: 1. “ซื้อ” CPALL (TP 86) กำไร 4Q18 5.5 พันล้านบาทดีกว่าคาด จาก SSSG เติบโตดี +4.5% และมีแผนขยายตลาดในกัมพูชา (16ล้านคน)-ลาว (6.9 ล้านคน) คาดได้ข้อสรุปภายใน 2Q19

2. “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่กำไรออกมาดี และคาดการเติบโตยังเร่งตัวต่อเนื่องปีนี้อย่าง BTS (ทยอยรับรู้รายได้ O&M ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ-ใต้)GUNKUL (โรงไฟฟ้า 170MW ทยอยผลิตไฟฟ้าตั้งแต่กลางปีก่อน) CKP(กำไร 4Q18 +351% y-y ใกล้เคียงคาด 2019-20) และ MINT

3. “ระวัง” แรงขายกลุ่มพลังงาน กำไรต่ำคาด BANPU PTT SPRCTrading Range: 1,638-1,654

 

แนะนำ “ถือ” AMATA CPALL COM7 EA HMPRO MINTPTG RS SCB และ WHA (ไม่เปลี่ยน)

 

STANLY: “ซื้อ” พื้นฐาน 270 บาท (เดิม 300 บาท)...แม้กำไร3QFY19 จะออกมาแข็งแกร่งแต่ยอดผลิตรถยนต์ที่คาดว่าจะค่อยๆ ชะลอตัวลง และค่าเสื่อมราคาจาก 2 โรงงานใหม่จะทำให้การเติบโตกำไรไม่สูงนัก แต่ที่ PE19 8.9x ยังแนะนำ “ซื้อ”

 

ผลการดำเนินงาน 4Q18:

 

ดีกว่าคาด: CPALL (กำไร 5.5 พันล้านบาทดีกว่าคาด SSSGสูงกว่าคาด +4.5% y-y จากยอดขายเครืองดื่มเติบโตดี ขยายสาขาต่อเนื่อง 720 สาขาปีก่อน) GFPT GUNKUL (กำไรจากการดำเนินงาน +259% y-y ที่ 366 ล้านบาท จากการผลิตไฟฟ้าพลังงานลมเพ่มิ ขึ้น)

 

ใกล้เคียงคาด: PSH

 

ต่ำกว่าคาด: กลุ่มพลังงานส่วนใหญ่ประกาศกำไรต่ำกว่าคาดBANPU (กำไรจากการดำเนินงาน 3.77 พันล้านบาท -10% q-qแต่มีค่าใช้จ่าย non recurring เข้ามามากกดดันกำไรสุทธิ 1.48พันล้านบาท -32% y-y) BCP PTT (กำไร 1.9 หมื่นล้านบาทจากส่วนแบ่งกำไร PTTGC และโรงแยกก๊าซกำไรต่ำ) SPRC(กำไรดำเนินงาน -60% y-y จาก GRM ต่ำ ต้นทุนผลิตสูง)

 

 

พักฐานเพื่อแกว่งขึ้นต่อ: (The Technical Story)

SET พักตัวสร้างฐานหลังมีจังหวะรีบาวด์ มีด่านที่ 1,650 / 1,655 จุดทะลุได้มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,660-62 จุด ส่วนแนวรับมีที่ 1,644 /1,640 จดุ หากยืนไม่อยู่อาจถอยลงไปที่ 1,635 จดุ อกี ครั้ง

 

BTS เข้าซื้อและรอรับเพิ่มที่ 9.90 เป้าหมาย 11.20

SAWAD รับเพิ่ม เป้าหมาย 52

Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)

“ถือ” Long S50H19 เป้าหมาย 1,098 / 1,107...Trailing Stop 1,082

“Long” Block BTS เป้าหมาย 10.60 / 11.00...Leverage 14x

TradeCode: Buy > BTS, HANA, BWG

(ดูรายงาน Trade Code)

Technical SET range: 1,635-1,662

  

Tactical Portfolio: Tactical Portfolio สัปดาห์ก่อน (12-18 ก.พ.) ให้ผลตอบแทน -0.4% ต่ำกว่า SET ที่ให้ผลตอบแทน -0.1% โดย COM7 ให้ผลตอบแทนสูง 9.9% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ EA PTG ปรับลดลง 4.6-4.1% ในสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ Tactical Portfolio ให้ผลตอบแทน -0.4%ต่ำกว่าตลาดเล็กน้อย อย่างไรก็ดี Tactical Portfolio ยังให้ผลตอบแทน+6.6% ตั้งแต่ต้นปี สูงกว่าตลาดที่ให้ผลตอบแทน +4.6% ในเวลาเดียวกันทั้งนี้เราแนะนำ “ถือ” หุ้นทั้ง 10 ตัวต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ได้แก่ AMATACOM7 CPALL EA HMPRO MINT PTG RS SCB และ WHA

หุ้นใน Siam Senses Portfolio

 AMATA: ได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบาย EEC ของรัฐบาล และมูลค่าไม่เเพง

 

 AOT: ได้ประโยชน์ทั้งจำนวนนักท่องเท่ยี วฟื้นตัวและการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ปีหน้า

 

 BTS: เข้าสู่ช่วงกำไรที่เติบโตในอัตราสูงตามการขยายเครือข่ายรถไฟฟ้าที่จะทยอยเปิดดำเนินการต่อเนื่องในปี 2019-22

 

 CPALL: ธุรกิจ 7-11 ที่ขยายสาขาต่อเนื่อง มีอำนาจต่อรองสูง และเสนอสินค้าและบริการเข้าถึงคนทุกกลุ่ม

 

 EA: เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโนม้ ของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า

 

 HMPRO: ผู้นำตลาดปรับปรุงบ้าน ที่คาดความต้องการฟื้นตัวปีหน้าและมีกลยุทธ์การเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี

 

 MINT: เป็นหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยว โรงแรม และอาหาร ที่มีการกระจายความเสี่ยงดี และมีโอกาสในการเติบโตสูงต่อเนื่องในทวีปต่างๆ พร้อมกับการเติบโตของการท่องเที่ยวของโลก

 

 MTC: ผู้นำธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ เติบโตสูง ด้วยความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่ลดลง

 

 STEC: กำไรจะกลับมาเติบโตโดดเด่นจากรายได้ และ margin ที่ฟื้นตัว

 

 WHA: ได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบาย EEC ของรัฐบาล และมูลค่าไม่เเพง

  

+BCPG อวดปี 2018 กำไรสุทธินิวไฮ 2,219 ล้านบาท โต 25% เหตุบุ๊กกำไรขายสินทรัพย์เข้ากองทุน และบุ๊กกำไรเต็มปีจากโรงไฟฟ้าที่ฟิลิปปินส์-อินโดนีเซีย บอร์ดปันผล 16 สตางค์ ขึ้น XD วันที่ 5 มี.ค.นี้ การันตีผลงานปี 2019 โตต่อเนื่อง(ข่าวหุ้น)

 

+BDMS เตรียมบุ๊กรายการพิเศษขายหุ้น RAM ราว 4.7 พันล้านบาทช่วงไตรมาส 1Q19 เดินหน้าขยายฐานผู้เข้าใช้บริการต่อเนื่อง หนุนปีนี้ผลงานโตต่อเนื่อง พร้อมอัดงบ 2.1 พันล้านบาท เปิดโรงพยาบาลเพิ่มอีก 3 แห่ง ดันจำนวน รพ.แตะ 50 แห่งปี 2021(ทันหุ้น)

 

+DOD ปลื้มผลงานปี 2018 อวด 306 ล้านบาท โตสนั่น 115.40% โกยรายได้รวม 673 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.23% พร้อมดึงทีมการตลาดมือโปรระดับ TOP 5 ของประเทศร่วมเป็นพาร์ตเนอร์จัดตั้งบริษัทย่อย คาดแล้วเสร็จภายใน1Q19 ลุยปรับโมเดลธุรกิจใหม่ มุ่งเน้นการขยายช่องทางการตลาด(ข่าวหุ้น)

 

+FTE บอร์ด FTE ไฟเขียวปันผลเพิ่ม 0.11 บาท/หุ้น ขึ้น XD 10 เม.ย.นี้ หลังปี 2018 ทำรายได้รวม 1,029 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 130 ล้านบาท ส่วนปี 2019 วางเป้ารายได้โต 10% แตะ 1,130 ล้านบาท พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิ 12-13%(ข่าวหุ้น)

 

+ / –LPN เผยไตรมาสแรกเตรียมเปิดขาย 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3,800 ล้านบาท ในเดือน มี.ค.นี้ ลั่นตั้งเป้าปี 2019โกยรายได้ 12,000 ล้านบาท โตกว่า 18% หลังตุนแบก็ ล็อกรอบุ๊ก 8,000 ล้านบาท ชี้ตลาดอสังหาฯ ปี 2019 ซบเซา-เข้าช่วงภาวะถดถอย(ข่าวหุ้น)

 

+OCEAN เซ็นสัญญารับเป็นผู้บริหารจัดการคลังน้ำมันปาล์มให้ GI ผู้ให้บริการคลังเก็บน้ำมันปาล์ม เป็นหนึ่งในคลังที่ใหญ่ที่สุดในไทย ตั้งอยู่ที่ท่าเรืออเนกประสงค์ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ลั่นได้รับค่าจ้างมากกว่า 50 ล้านบาท/ปี(ข่าวหุ้น)

 

+OSP รับผลบวกราคาน้ำตาล-เศษแก้วลดลง ฉุดต้นทุนลดลงตามไปด้วย จับตาแจ้งงบ 27 ก.พ.นี้ ลุ้น 4Q18 ฟันกำไร787 ล้านบาท โต 267% ดันกำไรปี 2018 พุ่ง 3,000 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)

 

+PJW ส่งซิกธุรกิจปี 2019 เทิร์นอะราวด์หลังลูกค้ากลุ่มออโต้ บรรจุภัณฑ์นม สั่งออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้านOCEAN บริหารคลังน้ำมันปาล์มใหญ่ภาคใต้รับทรัพย์ปีละ 50 ล้านบาท(ทันหุ้น)

 

+SABINA อวดงบปี 2018 รายได้โตกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 50% หนุนโดยการขยายตลาดช่องทางการขายผ่านออนไลน์และคุมต้นทุนธุรกิจ ล่าสุดบอร์ดไฟเขียวปันผลหุ้นละ 1.04 บาท คาดปีนี้รายได้ตามเป้าโตอีก 10%(ทันหุ้น)

 

+SC ปี 2018 โชว์กำไรสุทธิ 1,781.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.57% จากปี 2017 เหตุรายได้จากการดำเนินงาน15,615.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.43% เนื่องจากมีจำนวนโครงการที่เปิดการขายมากขึ้น ฟากบอร์ดจ่ายปันผลหุ้นละ 0.16 บาท ขึ้น XD วันที่ 3 พ.ค.19(ข่าวหุ้น)

 

+TKN ตั้งเป้ายอดขายปี 2019 โต 10-15% มุ่งเน้นอัพกำไรเพิ่ม โชว์แผนขยายสาขาเพิ่ม-ขยายตลาดต่างประเทศ-เปลี่ยนตัวแทนจำหน่าย แย้มเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรในสหรัฐอเมริกา-จีน(ข่าวหุ้น)

 

+TPCH โชว์ฟอร์มเด่น ปี 2018 กำไรสวย 353 ล้านบาท โตขึ้น 71% เดินเครื่องโรงไฟฟ้าเต็มกำลังหนุนรายได้พีก 1,560ล้านบาท ชี้แผน PDP2018 หนุนโรงไฟฟ้าขยะ เปิดโอกาสให้บริษัทเข้าลงทุนในอนาคต(ข่าวหุ้น)

 

+WPH ฟอร์มเด่น ปี 2018 ฟาดกำไรสุทธิ 50.40 ล้านบาท โตกระฉูด 111% หลังรายได้เพิ่มขึ้น-ต้นทุนและค่าใช้จ่ายลดลง บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลหุ้นละ 0.0625 บาท ขึ้น XD วันที่ 3 พ.ค.19 ก่อนจ่ายปันผลวันที่ 24 พ.ค.19(ข่าวหุ้น)