WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
รอบด้านตลาดหุ้น
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม
 
Selective buy
          วันนี้คาด หุ้นไทย บวกในกรอบ 1,636-1,652 จุด แนะเลือกหุ้นลงทุนเป็นรายตัว
          สัปดาห์นี้คาด แนวรับ 1636 โดยมีแนวโน้ม จะยกฐานสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ส่วนแนวต้านยังคงต้องลุ้นต่อว่าจะกลับมาผงาดเหนือ 1660 จุด ได้ตามที่เราให้น้ำหนักไว้หรือไม่...ด้วยปัจจัยที่มีผลต่อตลาดดูคลุมเครือ และ ตลาดยังคงต้องรอความชัดเจนเพื่อประเมินผลกระทบ เช่น การจรจาการค้า จีน-สหรัฐฯ, การเมืองในประเทศ-คดียุบพรรค ทษช., งบการเงิน บจ. ประชุมนักวิเคราะห์ ที่จะมีผลต่อราคาหุ้น (เช่นสัปดาห์ก่อน KCE ถูกขายแรง), BTS (บวกรับงบดีกว่าคาด) เป็นต้น       
 
What to watch: 
          (+) การเจรจาการค้า สหรัฐฯ-จีน: อิงผลสำรวจ MS กับมุมมอง นลท.สถาบันต่างชาติ ทั้ง Hedge fund, Asset management, Sovereign wealth funds ที่เข้าร่วมรับฟังข้อมูลกับ MS เมื่อต้นเดือน กพ.ที่สิงคโปร์ พบว่า ส่วนใหญ่เชื่อว่า ตลาดรับรู้ความเสี่ยงด้านล่าง และเตรียมรับมือจากผลกระทบความตึงเครียดการค้าไปหมดแล้ว และ เชื่อว่าจะมีการตกลงเงื่อนไขการค้าได้ในระดับหนึ่ง โดยจะยังไม่ได้ยกเลิกภาษีเดิมที่เก็บไปแล้ว พร้อมทั้งมองว่า กรณีที่ ไม่เก็บภาษีเพิ่มมากไปกว่าเดิม ตลาดจะแรลรี่ขึ้นแรงทันที          
          ด้านรีเสริชต่างชาติเช่น NOMURA เริ่มให้น้ำหนักเชิงบวก ต่อผลเจรจาการค้ารอบนี้ โดยให้น้ำหนักถึง 55% ว่า การขยายเส้นตายกำแพงภาษีจะประกาศในสัปดาห์นี้ และ การยุติสงครามการค้า จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น ซึ่งการเจรจาที่ลงตัว แบ่งเป็น 2 กรณี (1) ยกเลิกภาษีที่กำหนดกันไปในช่วงก่อนหน้านี้ทั้งหมด และ (2) ยกเลิกเฉพาะภาษีใหม่ คงภาษีเดิมไว้ มองว่าไม่ว่าจะออกกรณีไหน คาดเป็นบวกต่อตลาดหุ้นโลก ส่วนกรณีที่เจรจากันไม่ลงตัว และกลับมากำหนดกำแพงภาษีตามเดิมนั้น ให้น้ำหนักเพียง 10% และให้น้ำหนัก 35% กรณีดีสุดคือเจรจาการค้าลงตัวพร้อมทั้งประกาศผลการเจรจาทันเส้นตาย 1 มีค.นี้ 
          (+) MS มองบวก ต่อนโยบายที่จีนจะเปิดประเทศ ให้ต่างชาติทยอย เข้าลงทุนได้มากขึ้น ผ่านนโยบายปฏิรูป "เพิ่มการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด อย่างค่อยเป็นค่อยไป และหันไปเพิ่มการดึงเงินลงทุนต่างประเทศเข้ามาทดแทน" 
          (+) MS แนะนำ ซื้อ / เพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้น เรือขนส่งปิโตรเลียม (Oil tanker)/ ด้านโกลด์แมน แซค ออกรายงานคาดราคาน้ำมันดิบจะขึ้นแตะ US$67.5/bbl ในไตรมาส 2 นี้ 
          (+/-) งบที่จะทยอยประกาศ และ ประชุมนักวิเคราะห์หลังงบออก วันที่คาดว่า บจ.จะประกาศงบ 4Q18 18/2/2019 GGC, PTTGC, DELTA, CPF 20/2/2019 BCPG, MONO, SC, BH, GLOBAL, SCCC การจัดประชุมหลังงบออก 18/2/2019 MAJOR 20/2/2019 BTS, FPT, GPSC  
 
หุ้นแนะนำ    
          TOP ถ้าราคาวันนี้ลงเพราะผิดหวังกำไรสุทธิ 4Q18 แนะเป็นโอกาสในการซื้อ เพราะ (1) ราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นจะหนุนกำไรสต็อก 1Q19 (2) ค่าระวางเรือ กลุ่ม Oil tanker ที่ขึ้นแรง สะท้อน ภาวะการตุนสต็อกน้ำมันดิบในราคาที่ต่ำไว้เป็นจำนวนมาใน ไตรมาส 4 คาดค่าการกลั่นไตรมาส 1/19 จะหนุนกำไรหลักให้กลับมาเติบโตแรง (3) ผ่านฤดูกาลต่ำสุดของค่าการกลั่นไปแล้ว จากนี้ไปเตรียมรับฤดูกาลขาขึ้นรอบใหม่ของค่าการกลั่น  
 
รายงานวันนี้  
 
GFPT: Time for chicken to fly again
          การบริโภคที่เพิ่มขึ้นในช่วงตรุจจีน และการเลือกตั้งที่กำลังเข้ามา หนุนให้ราคาไก่ในต่างจังหวัดปรับตัวสูงขึ้น เป็น 37 บาท/กก. และรวมถึงราคาขาย byproduct ของ GFPT เพิ่มขึ้นด้วยด้วย เราคาดราคาไก่กำลังเข้าสู่ขาขึ้นไปจนถึง 2Q19 สำหรับระยะสั้น 4Q18 เราคาดกำไรที่ 330 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38%YoY แต่ลดลง 24%QoQ แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 16.25 บาท ปัจจุบันหุ้นเทรด PE 11.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 14.3 เท่า                 
 
KTC: Steady growth, cheap valuation
          เรายืนยันมุมมองเชิงบวกต่อมุมมองธุรกิจของ KTC ในปีนี้ เพราะ 1) สินเชื่อที่มีโอกาสโตดีกว่าคาด (เป้าบริษัท 10% เราใส่ในโมเด็ลแค่ 5%) 2) คุณภาพสินทรัพย์ดี 3) การทำธุรกิจ pico finance ซึ่งจะเริ่มในช่วง 2H19 เรายังไม่รวมในประมาณการ ซึ่งกำไรมีโอกาสดีกว่าคาด ปัจจุบันหุ้นเทรด PE 14.1 เท่า นับว่าไม่แพง เราแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 43 บาท   
 
GOLD: Key takeaways from opportunity day 
          นักลงทุนมีความกังวลต่ออัตรากำไรธุรกิจอสังหาฯ ของ GOLD อย่างไรก็ตามผู้บริหารยังเชื่อมันว่าจะสามารถดึงอัตรากำไรให้ดีขึ้นได้ในช่วงที่เหลือของปี บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 20-25% ในปี 2019 (ต.ค. 2018 - ก.ย. 2019) เราเชื่อว่า GOLD จะสามารถทำกำไรเติบโต 10% ในปี 2019 ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่เพียง 5% และมองว่าบริษัทมีพอร์ตโฟลิโอที่มีความเสี่ยงต่ำในสภาวะอุตสาหกรรมที่ไม่เอื้อ ปัจจุบันหุ้นซื้อขายอยู่ที่ PER ธุรกิจอสังหาฯ ที่ถูกเพียง 5.5x เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นเดือนก.ย. 2019 ที่ 10.60 บาท  
 
PTTEP:  การเข้าซื้อหุ้นในบริษัท  APICO LLC  (ผู้ร่วมทุนในโครงการสินภูฮ่อม)             
          PTTEP ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายเพื่อเข้าซื้อสัดส่วนการถือหุ้น 33.8% ในบริษัท APICO LLC ด้วยมูลค่ารวม ~US$64m ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนในโครงการสินภูฮ่อม จากการประเมินเบื้องต้นจะทำให้ปริมาณการผลิตปิโตรเลียมและกำไรของ PTTEP เพิ่มขึ้นเล็กน้อย คาดปริมาณการผลิตปิโตรเลียมปี 2019 จะเพิ่มขึ้น ~0.7K BOED (กำไรเพิ่มขึ้น 0.1% จากประมาณการปัจจุบัน) และเพิ่มขึ้น ~1.5K BOED (กำไรเพิ่มขึ้น 0.3% จากประมาณการปัจจุบัน) ในปีถัดๆไป ข่าวนี้น่าจะเป็น positive sentiment ต่อราคาหุ้น เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2019 ที่ 152 บาท
 
หุ้นมีข่าว 
          (+) AOT  ทอท.ลุยไฟเสนอบอร์ด ออกทีโออาร์ประมูลดิวตี้ฟรียันพื้นที่เชิงพาณิชย์ 20 ก.พ.นี้ รวบ 4 สนามบินมาประมูลชุดเดียวกัน "เซ็นทรัล ไมเนอร์ บางกอก แอร์เวย์ส ล็อตเต้" ลงแข่งเจ้าพ่อคิงเพาเวอร์ ส่วนกลุ่มเดอะมอลล์ถอดใจ (ที่มา ฐานเศรษฐกิจ)           
          (+) CPALL  ลุ้นระทึกขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรอบใหม่ ปลัดกระทรวงแรงงานแจงบอร์ดค่าจ้างกลางนัดถกยกแรกสัปดาห์หน้า ชี้ปัจจัยเศรษฐกิจตัวแปรหลักทำค่าจ้างขยับขึ้นได้ไม่มาก หลายจังหวัดแห้วใช้อัตราเดิม วงในหวั่นเคาะไม่ทันเดือนเมษาฯ ต้องเลื่อนประกาศใช้บัญชีค่าแรงขั้นต่ำอัตราใหม่เดือนพฤษภาฯ (ที่มา ประชาติธุรกิจ) 
          (*) พาณิชย์เผยสถานทูตจีน เสนอไทยช่วยดูแลบริษัทจีนที่ย้ายฐาน การผลิตมาไทย หลังรับผลกระทบสงครามการค้า ยืนยันพร้อมสนับสนุน ตั้งเงื่อนไขต้องไม่ขัดกฎถิ่นกำเนิดสินค้า ป้องกันสหรัฐ โต้ตอบการค้าไทย "ดับบลิวเอชเอ"ชี้สงครามการค้าหนุนจีนลงทุนไทยมากขึ้น (ที่มา ข่าวสด) 
          (+) KTC  "บัตรกรุงไทย" เข็น 3 ธุรกิจใหม่ "นาโนพิโกไฟแนนซ์-อีวอลเล็ต-สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ" หวังดันกำไรปี 63 โต ก้าวกระโดด เตรียมทุ่มงบการตลาดกว่า 900 ล้าน จัดแคมเปญหวังดันพอร์ตลูกหนี้โต 10% ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่ม 15% จากปีก่อน เล็งออกหุ้นกู้ปีนี้ 8,600-10,000 ล้าน เพื่อทดแทน หุ้นกู้เดิมครบกำหนด และใช้ขยายธุรกิจ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) 
          (+) MVP EA  นายพชร อนันตศิลป อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ภายใน 2 สัปดาห์หน้า กรมจะเสนอระดับนโยบายพิจารณามาตรการทางภาษีเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยจะเป็นมาตรการสร้างแรงจูงใจต่อผู้บริโภคหันมาใช้รถยนต์หรือส่วนที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตหันมาผลิตรถยนต์ที่ลดมลภาวะ โดยสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาว่าจะลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เหลือ 0% สำหรับกลุ่มได้รับการส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จากขณะนี้มีอัตราภาษี 2% ได้หรือไม่ เพื่อส่งเสริมให้เกิดรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นในไทยเร็วขึ้น โดยมีข้อแม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์ต้องเร่งผลิตเร็วกว่ากำหนดบีโอไอที่วางกรอบไว้ 3 ปี หากทำไม่ได้ต้องคืนภาษีให้กรม (ที่มา มติชน) 
          (+) ขึ้น XD รับปันผล: 20 กพ. [email protected] บ. / 21 กพ. [email protected] บ. /22 กพ. [email protected] บ., [email protected] บ. / 26 กพ. [email protected] / 27 กพ. [email protected] [email protected]  28 กพ. [email protected], [email protected] / 1 มีค. [email protected] / 4 มีค. [email protected] (ที่มา ตลท.)  
 
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
 
Trend Forecasting 
 
SET Index ปิด 1636.94 (-0.95%)  มูลค่าการซื้อขาย 4.9 หมื่นล้านบาท  
 
แนวโน้มระยะสั้นมอง
          SET Index แนวรับ 1,630 แนวต้าน 1,645 / SET100 รับ 2,385 ต้าน 2,410 BSET100 รับ 10.35 ต้าน 10.48 / BMSCITH รับ 12.30 ต้าน 12.42
 
Topic: "Moving average" การใช้เส้นค่าเฉลี่ยเพื่อหาแนวรับ-ต้าน  
 
มุมมองตลาด: 
          เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ Moving Average บอกถึงแนวโน้มการเคลื่อนที่ของราคาหุ้น บอกจุดเปลี่ยนแนวโน้มเพื่อเป็นสัญญาณซื้อขายรวมถึงแนวรับ-แนวต้าน ส่วนใหญ่นิยมใช้ Exponential Moving Average (EMA) ซึ่งให้น้ำหนักกับวันสุดท้ายจะสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ชัดเจนมากที่สุด จากรูปภาพพบว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200-days EMA แสดงจุดต้าน 1660 จุด ขณะที่เส้นค่าเฉลี่ย 25,50,75 วันให้จุดรับที่ 1625-1630 จุด กรณีดัชนีทะลุแนวรับ-ต้านจะบ่งชี้การเปลี่ยนแปลง เรายังคงให้นำหนักไปในทิศทางขึ้นหรือทะลุเส้น 200- days EMA  
 
กลยุทธ์:
          โครงสร้างตลาดบ่งชี้การพักตัวบนแนวเส้นค่าเฉลี่ย 25,50,75 และ 200 วัน  
 
วิธีการเลือกหุ้น: 
          กรณีตลาดพักตัวเราจะเลือกหุ้นอย่างไร? 1. สัญญาณแข็งแกร่งกว่าตลาดจะมีโอกาสสร้างกำไรได้ดีกว่า 2. หุ้นที่สามารถยืนปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยกลางเลือกใช้ 5&25-days EMA 3.Indicator ยังขึ้นไม่มาก ค่า RSI < 70 4.ใช้จุด Stop loss หากไม่เป็นไปตามคาด 
 
Technical screen Bull Signal: 
          BTS, SAT, OSP 
 
Technical  screen Bear Signal: 
          EA,KCE,IVL (close below 5&25-days EMA) 
 
Port หุ้นคงเหลือ: 
          BCH,MTC, KTC, JAS, TU, WORK, PSL, TRUE ,ADVANC (แนะนำถือต่อ) 
 
          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค 
          [email protected] +662-618-1334 
 
Track with Technical 
 
          BTS 
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 10.00 
          แนวต้าน 11.00 / 11.50 
          เหตุผล ปิดทะลุแนวต้านทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 ปี หนุนด้วยวอลุ่มและโมเมนตัม Bull MACD ส่งสัญญาณกลับตัว 
 
          SAT 
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 19.00 
          แนวต้าน 21.00 
          เหตุผล SAT เปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้นระยะกลาง (Higher low) ขณะที่ Stochastic ยืนยันรูปแบบกลับตัว 
 
          OSP 
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 26.00 
          แนวต้าน 30.00 
          เหตุผล แนวต้านเดิม 25 ถูกเปลี่ยนเป็นแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ MACD และ RSI บ่งชี้สัญญาณดีดตัวและค่าความแข็งแกร่งด้านราคา 
 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!