เมื่อวาน ดัชนีฯย่อลงมาแตะแนวรับ บริเวณ 1630 จุด เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 75 วัน แล้วดีดกลับ (ตามคาด) โดยการพักฐานครั้งนี้ คาดว่าจะกินเวลาต่ออีก 1-2 วัน

          วันนี้คาดพักฐานต่อ โดยดัชนีฯจะย่อสลับรีบาวด์ ในกรอบ 1,634-1,647 จุด        

          สัปดาห์นี้ คาดดัชนีฯหุ้นไทยมีโอกาสพักสั้นๆ จันทร์-พุธ และถ้ายังไม่หลุด 1,639 +/- 5 จุด หุ้นไทยจะกลับมา ผงาดเหนือ 1,660 จุด ได้อีกครั้ง พิจารณาจาก 1) ตลาดมีการวนกลุ่มเล่น หรือ "Sectors Rotation" จากการขายหุ้นกลุ่มหนึ่ง วนไปเข้าอีกกลุ่มหนึ่ง 2) การประกาศจ่ายเงินปันผลของหุ้นกลุ่มธนาคาร 3) MSCI ทบทวนดัชนีฯหาก รอบนี้นำกระดาน NVDR เข้ามาคำนวณคาดน้ำหนักหุ้นไทยใน MSCI จะเพิ่มขึ้น...ต่างชาติจะโหลดหุ้นไทยเพิ่มในเดือนนี้           

 

          (*/-) ข่าวลือรัฐประหาร เมื่อวานกดดันตลาดหุ้น หลังจากมีการปลอมเอกสาร ราชการ "ปลดผู้นำเหล่าทัพ" วันนี้คาด บรรยากาศการเมืองน่าจะดีขึ้น หลังนายกและรองนายกความมั่นคง ออกมาชี้แจง และ ปฏิเสธ ข่าวลือ  

          (0/-) US government shutdown รอบใหม่ มีโอกาสเกิดขึ้นสูง หลังงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐฯ ยังไม่ได้ข้อยุติ ส่วนการเจรจาการค้า จีน-สหรัฐฯ รอบ 3 เริ่ม 14 กพ.นี้     

          (+/-) รมต.คลัง สั่ง สศค.หารือ ธปท. หาแนวทางดูแลค่าเงินบาทที่แข็งค่าเกินไปเมื่อเทียบกับภูมิภาค (คาดบาทจะไม่แข็งไปกว่านี้ในช่วงนี้)   

          (+) ดีลควบรวม TMB-TBANK คลัง ยันใช้ชื่อแบงก์ธหารไทย ชือเดียว พร้อมเพิ่มทุนรักษาสัดส่วนใน TMB 25-26% (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)       

          (*/-) วันนี้ กกต.หารือต่อ จากเมื่อวาน ประเด็น ยุบพรรค ทษช.    

          (+) มือถือ (-) ทีวีดิจิตอล ข่าวผู้ประกอบการมือถือเรียกร้อง ขอเลื่อนประมูล 5G 

          (+/-) วันนี้ 12 กพ. รฟท.จะเจรจา โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน กับกลุ่ม CP อีกครั้ง / ด้าน BSR ยังคงมีลุ้นหากการเจรจาเงือนไขประมูลกับ CP ไม่จบ   

          (0/*) MSCI ออกรายงานทบทวนดัชนีฯ (รายละเอียดยังออกไม่ครบ) Standard index เพิ่มหุ้นใหม่ 7 ตัว ถอดออก 1 ส่วน Small Cap index เพิ่มหุ้นใหม่ 1 ตัว ถอดออก 8 ตัว    

          

          BTS ลุ้นหาก ผลเจรจา รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินกับ CP ไม่ลงตัว วันนี้  

 

 

CENTEL: Strong tailwinds 

          CENTEL เป็นหุ้นที่เหมาะกับการเล่น recovery play ในประเทศ สำหรับธุรกิจอาหารและโรงแรม มากที่สุด เพราะม๊ธุรกิจอาหารและโรงแรมอยู่ในประเทศเป็นส่วนใหญ่ การเลือกตั้งน่าจะช่วยให้รายได้ธุรกิจอาหารโตได้ 8-10% ตามที่ผู้บริหารตั้งเปา และธุรกิจโรงแรมคาดจะฟืนตัวตามการท่องเที่ยวในประเทศ สำหรับปี 2019 เราคาดกำไรโตราว 8% แม้จะมีผลลบจากการปิดปรับปรุงโรงแรม 2 แห่ง ปัจจุบันหุ้นเทรด PE 25.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 29.2 เท่า แนะนำ ซื้อ ราคาเปาหมาย 54 บาท 

 

Flow Tracker: ต่างชาติซื้อหุ้นไทยเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา

          นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งต่อเนื่องจากการซื้อสุทธิ 88 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค 5 ประเทศที่เราดู พบว่ากระแสเงินจากต่างชาติรวมเป็นยอดซื้อสุทธิ 96 ล้านเหรียญ ซึ่งต่อเนื่องจากยอดซื้อสุทธิ 2,468 ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับตลาดหุ้นไทย ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี Volume Flow ของตลาดหุ้นไทยส่งสัญญาณถึงแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคารและ ICT โดยดัชนี Volume Flow ของหุ้นกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์เผชิญแรงขายหลังจากที่ไปแตะระดับ Overbought ขณะที่ดัชนี Volume Flow ของหุ้นกลุ่มธนาคารและอสังหาฯปรับขึ้นจนถึงระดับเส้นกลาง  

 

          (+) PTTEP  เผย โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน จะสามารถตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ภายในครึ่งแรกของปี 62 หลังขณะนี้มีสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แล้ว 7.5 ล้านตัน/ปี และในเดือนก.พ.นี้ก็คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายอีก 2 ล้านตัน/ปี ซึ่งจะทำให้มีปริมาณซื้อขาย LNG รวมเป็น 9.5 ล้านตัน/ปี (ที่มา ASPEN)  

          (+) PTTEP PTT  ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายกฟอง กรณีมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคร้องเพิกถอนสัมปทาน เอราวัณ-บงกช ชี้กรรมการปิโตรเลียมมีอำนาจโดยชอบ (ที่มา ตลท.) 

          (+) ขึ้น XD รับปันผล: 12 กพ. [email protected] บ[email protected] บ./ 20 กพ. [email protected] บ. /22 กพ. [email protected] บ., [email protected] บ./ 28 กพ. [email protected], / 21 กพ. [email protected] บ. (ที่มา ตลท.)  

 

 

Trend Forecasting 

 

SET Index ปิด 1638.00 (-0.83%) มูลค่าการซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท 

 

แนวโน้มระยะสั้นมอง

          SET Index แนวรับ 1,630 แนวต้าน 1,645 / SET100 รับ 2,395 ต้าน 2,420 BSET100 รับ 10.40 ต้าน 10.48 / BMSCITH รับ 12.32 ต้าน 12.44 

 

Topic: "ตลาดจบรอบแล้วหรือยัง" 

 

มุมมองตลาด: 

          ดัชนีปรับลงมาปิดช่องว่าง "Closing gap" เข้าใกล้แนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน (25-days EMA) ที่1630 จุด ส่งผลให้ RSI ลดดีกรีความร้อนแรงลง นอกจากนี้หุ้นในกลุ่มผู้นำตลาด สื่อสาร ค้าปลีก ท่องเที่ยว ไฟแนนซ์ กำลังสู้บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันเช่นเดียวกัน เรายังคงคาดว่าโครงสร้างตลาดหุ้นไทยยังคงทิศทางขาขึ้น สถิติบ่งชี้ว่าตลาดจะปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง นอกจากนี้การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงหาเสียงจะส่งผลให้มีเม็ดเงินเดินสะพัดส่งผลบวกต่อการอุปโภคและบริโภค เรายังชอบกลุ่ม Domestic จะเป็นกลุ่มที่สร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า

 

          แนวโน้มดัชนีอยู่ในช่วงพักตัวระยะสั้น ลุ้นการฟืนตัวกลับจากแนวรับ 1630 จุด 

 

วิธีการเลือกหุ้น:   

          ตลาดส่งสัญญาณปรับฐานจะเลือกหุ้นอย่างไร 1. หุ้นที่มีสัญญาณแข็งแกร่ง จะมีโอกาสสร้างกำไรได้ดีกว่า 2. ราคาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5&25-days EMA 3. RSI ไม่ควรสูงกว่า 70 4. Stop loss หากไม่เป็นไปตามคาด 

 

Technical screen Bull Signal: 

          JAS,CENTEL,KKP   

 

Technical screen Bear Signal: 

          GFPT,WORK,UV  (break down 25-days EMA) 

 

          KKP, MBK, GLOBAL, BCH, MTC, VGI, KTC, FN, THCOM, JAS (แนะนำถือต่อ) 

 

 

 

          JAS 

          แนะนำ ซื้อ 

          แนวรับ 5.40 

          แนวต้าน 6.40 

          เหตุผล ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 เดือน หนุนด้วยเครื่องมือวัดโมเมนตัม MACD ลุ้นทะลุแนวต้านแรก 5.80 มีโอกาสวิ่งขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 6.40 

 

          CENTEL 

          แนะนำ ซื้อ 

          แนวรับ 44.00 

          แนวต้าน 52.00 

          เหตุผล ปิดทะลุจุดต้านสำคัญ บ่งชี้สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น ขณะที่ RSI แสดงความแข็งแกร่งด้านราคา 

 

          KKP 

          แนะนำ ซื้อ 

          แนวรับ 69.00 

          แนวต้าน 74.00 

          เหตุผล KKP ยืนยันการเปลี่ยนโครงสร้างภายหลังจากการยกฐาน Higher low นอกจากนี้การปิดทะลุเส้นแนวโน้มพร้อมกับวอลุ่มที่เพิ่มขึ้น บ่งชี้สัญญาณกลับตัวคล้ายรูปแบบในอดีต