- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 May 2014 15:53
- Hits: 3867
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today's Selection : CPF, PTTGC, CK, ADVANC
Follow Buy : -
Follow Sell : -
คาดผันผวนทั้งสัปดาห์ การเมืองร้อนระอุ
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น ขานรับ GDP เยอรมนีไตรมาส 1/57 ขยายตัว 0.8% มากกว่าที่ นักเศรษฐศาสตร์ประเมินไว้ ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดในแดนบวก ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยตัวเลขเริ่มสร้างบ้านใหม่เดือน เม.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.2% มากว่าที่คาดการณ์ ขณะที่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคกดดันตลาด หลังตัวเลขเดือน พ.ค. อ่อนตัวลงสู่ระดับ 81.8 จุด จากระดับ 84.1 จุดในเดือนก่อนหน้า
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ คาดเคลื่อนไหวผันผวนตลาดทั้งสัปดาห์ จากประเด็นการเมืองในประเทศที่มีความร้อนแรงมากขึ้น โดยกลุ่ม กปปส. ยื่นคำขาดว่าจะสู้ถึงวันที่ 26 พ.ค. ขณะที่ยังไม่มีความคืบหน้าการแต่งตั้งนายกฯคนกลางตามรัฐธรรมนูญมาตรา 7 จากการประชุมวุฒิสภา นำโดย นาย สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ซึ่งเรามองว่าความยืดเยื้อการเมืองได้เดินทางมาถึงจุดสำคัญในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ การหารือระหว่าง กกต. และรัฐบาลเกี่ยวกับการเลือกตั้งก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองจะเป็นปัจจัยลบกดดัน fund flow ต่างชาติ (เดือน พ.ค. ขายสุทธิ 3.2 พันล้านบาท) แนะนำขึ้นขาย-ลงซื้อ
คาด SET Index ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายในและภายนอก วันนี้จะมีการประกาศตัวเลข GDP ของไทยประจำไตรมาส 1/57 ซึ่งตลาดคาดว่าจะออกมาติดลบ แม้ตลาดจะ price in ไประดับหนึ่งแล้ว แต่เรามองว่า ความขัดแย้งการเมืองยังคงเป็นปัจจัยสำคัญกดดัน GDP ในช่วงที่เหลือของปีนี้และตลาดหุ้น ด้านราคาบ้านใหม่ในจีนเดือนเม.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 44 เมือง จาก 56 เมืองในเดือนก่อนหน้า สะท้อนถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน นอกจากนี้ จะมีการประกาศตัวเลข PMI จีนเดือน พ.ค. ซึ่งตลาดคาดไว้ที่ 48.3 ดีกว่าเดือนก่อนเล็กน้อยที่ 48.1 แต่ตัวเลขดังกล่าวยังคงสะท้อนถึงการหดตัวของภาคการผลิต ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อราคา commodities โดยเฉพาะปิโตรเคมี
กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำให้ถือหุ้นต่อไปเช่นเดิม โดยหาก SET Index มีการปรับตัวลงจากตัวเลข GDP ที่ออกมาต่ำกว่าคาด แนะนำรอสะสมหุ้นที่ดัชนีระดับ 1360 - 1380 จุดเช่นเดิม
กลุ่มหุ้นที่เราแนะนำในช่วงนี้ได้แก่
1) กลุ่มที่มีการถือครองของนักลงทุนต่างชาติในระดับต่ำ ได้แก่ โรงพยาบาล (BH) และยานยนต์ (SAT, PCSGH)
2) กลุ่มที่อิงกับการส่งออก ได้แก่ อิเล็คทรอนิกส์ (HANA, KCE, SVI) และอาหาร (CPF, TUF, CFRESH)
3) กลุ่มที่เตรียมถูกนำเข้าสู่การคำนวณดัชนี MSCI และ SET50 อาทิ BJCHI, MEGA, NYT, M
ส่วนกลุ่มหุ้นที่แนะนำหลีกเลี่ยงในช่วงนี้ได้แก่
1) หุ้นที่เตรียมถูกถอดออกจากดัชนี MSCI ได้แก่ GSTEL, GRAMMY, SITHAI, UMI
2) หุ้นมีแนวโน้มถูกถอดออกจากดัชนี SET50 ได้แก่ THAI และ CK
Stock S R Comment
CPF 25.50 28.50 กำไรปกติ 1Q57 ดีกว่าคาด
PTTGC 68.00 70.50 คาด เป็นตัวเดียวที่กำไรฟื้นตัว QoQ
CK 16.10 17.50 คาดเป็นผู้ชนะประมูลสายสีเขียวเข้ม
ADVANC 233.00 249.00 เงินปันผลสูง รายได้ non-voice เติบโต
แนวรับ 1,390 แนวต้าน 1,421
หุ้นมีข่าว :
คาดการส่งออกไก่โต 15% หนุนรายได้: ผู้บริหาร GFPT เผยการส่งออกไก่สดแช่แข็งในช่วงไตรมาสแรกค่อนข้างดี คาดว่าจะดีต่อเนื่อง และจะเข้าช่วงไฮซีซั่นในไตรมาส 3 ทั้งนี้ปกติบริษัทมียอดส่งออกไก่ประมาณ 1.8 พันตันต่อเดือน คาดทั้งปีจะมียอดส่งออก 2.2 หมื่นตัน โดยในช่วง ไตรมาสแรกที่ผ่านมามียอดส่งออกเฉลี่ย 2 พันตันต่อเดือน สูงขึ้น 15%YoY โดยตอนนี้ญี่ปุ่นได้กลับมานำเข้าไก่สดจากไทยแล้ว และฟิลิปปินส์อาจอนุมัติให้สามารถนำเข้าไก่สดจากไทยเป็นประเทศต่อไป ซึ่งเรามองว่านอกจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นแล้ว จะส่งผลให้ราคาขายในประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย เป็นผลดีต่อธุรกิจไก่ของ CPF และ GFPT อย่างมาก
VGI เหินฟ้าเซ็น'Phar' ขายสื่อ'ไทยแอร์เอเชีย' แต่เพียงผู้เดียวเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยสื่อในเครื่องบินมีลักษณะใกล้เคียงกับสื่อบนรถไฟฟ้าบีทีเอส ประกอบกับทีมขายของ VGI มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ขณะที่จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินไทยแอร์เอเชียเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10 ล้านคนต่อปี รวมถึงการขยายเส้นทางการบิน ซึ่งจะเข้ามาช่วยหนุนฐานรายได้ในระยะยาว
Analysts :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932)
E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]