WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
รอบด้านตลาดหุ้น
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม 
 
Sectors rotation    
          เมื่อวานดัชนียังคงไม่สามารถปิดเหนือ แนวต้าน 1,660 จุด "ถือว่ายังไม่ผ่าน" โดยขึ้นไป แตะขอบฟา ที่ 1,667 จุด แล้วทิ้งตัวลงมา จากแรงขายหุ้น CPALL BDMS EA AOT KTB ส่วนหุ้นบวกสวนตลาดได้แก่ ADVANC KTC KBANK SCB PTT    
          วันนี้คาดดัชนีฯหุ้นไทย จะยังคงเผชิญแรงกดดัน จากแรงขายล็อกกำไร เมื่อไม่สามารถทะลุแนวต้านได้ ส่วนการพักฐาน คาดว่าครั้งนี้ อาจกินเวลาพัก ประมาณ 3-4 วัน ประเมินแนวรับ สำคัญ บริเวณ 1,639 +/-5 จุด ถ้ายังไม่หลุด รอบนี้ คาดว่าดัชนีฯจะกลับมาผงาดเหนือ 1,660 จุด ได้อีกครั้ง    
          กลยุทธ์ แนะนำ เลือกซื้อหุ้น ตาม Sectors rotation คาดเม็ดเงินจะเริ่มวนกลับมาที่ กลุ่ม ธนาคาร (ประกาศปันผล), สินเชื่อ-ไฟแนนซ์ (เพดานเก็บดอกเบี้ย ตามเกณฑ์ ธปท.จะเป็นบวกกับ บจ.ในตลาดที่เก็บต่ำกว่าเกณฑ์), หุ้น Laggard เช่น อิเล็กทรอนิกส์, มือถือ, โรงกลั่น    
          สัปดาห์หน้า คาด ดัชนีฯยังคงพักฐาน ระยะสั้น และจะเกิดการ หมุนกลุ่มเล่น          
 
What to watch: 
          (+) แบงก์ชาติ อินเดีย เซอร์ไพรส์ ลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 6.25% จาก 6.5% เป็นการปรับทิศทางดอกเบี้ยเป็นรายแรก หลังเฟดส่งสัญญาณไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้    
          (+) ประกาศตัว ว่าที่ผู้ชิงตำแหน่งนายกฯไทย ของพรรคการเมืองที่เหลืออย่างเป็นทางการวันนี้
          (0) ปธน.ทรัมป ปฎิเสธ ข่าวลือ ประเด็นนัดพบ กับ ปธน.จีน ก่อน เส้นตาย เจรจาการค้า วันที่ 1 มีค.นี้     
          (+) กลุ่มแบงก์ ช่วงครึ่งหลังเดือน กพ.จะเป็นช่วงที่ บอร์ดฯแบงก์จัดประชุม เพื่ออนุมัติงบการเงินรายปี และ การประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล เช่น SCB KBANK BBL KKP ปีที่แล้ว แจ้งมติบอร์ดเรื่องปันผล 22 กพ., KTB 2 มีค., TISCO 26 กพ., BAY 28 กพ. เป็นต้น / คาดการประกาศปันผลรอบนี้ จะหนุนราคาหุ้นให้ขึ้นได้ดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้ว โดนปัจจัยลบ ทั้งเรื่องการตั้งสำรองเพิ่มตามมาตรฐาน บช.ใหม่, การยกเว้นค่าธรรมเนียมธุรกรรม อิเล็กทรอนิกส์ แต่ปีนี้ไม่มี...ข่าวลบแบบปีที่แล้ว
          (+/-) สัปดาห์ หน้า MSCI จะประกาศผล ทบทวน ดัชนีฯรอบใหม่ / คาดหุ้นที่เพิ่ง add อาจมีน้ำหนักเพิ่ม เช่น MTC GULF / ด้าน บลจ.บัวหลวง ประเมิน หาก MSCI รวม NVDR เข้าคำนวณ น้ำหนักหุ้นไทยใน MSCI จะเพิ่มขึ้นจาก 2.5% เป็น 3% ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้า ราว 6.4 หมื่นล้านบาท 
 
หุ้นแนะนำ 
          Weekly port ถอด CPALL เพิ่ม INTUCH 
          ADVANC  รายงานกำไรหลัก 6.39 พันล้านบาท (-12% y-y, -3% q-q) ตามคาด แต่เราเห็นสัญญาณการขยายตัวของรายได้หลักที่ดีขึ้น และ เราคงคาดกำไรครึ่งปีหลังจะโดดเด่นกว่าครึ่งปีแรก จากรายได้ค่าบริการมือถือ และ บอร์ดแบรนด์อินเตอร์เน็ต        
 
รายงานวันนี้
 
DELTA: Wait patiently 
          ภาพกำไรใน 4Q18 คาดจะออกมาทรงตัว โดยยอดขายยังคงเติบโตได้ดี แต่ในด้านของอัตราการทำกำไรจะถูกดดันจาก 1) Sentiment ของตลาดที่ไม่ดีจากปัญหาการค้าระหว่างจีนและ US, 2) สัดส่วนสินค้าที่อัตรากำไรต่ำเพิ่มขึ้น และ 3) การขยายกำลังการผลิตไม่เป็นไปตามแผน โดยต้องมีการขยายมารองรับคำสั่งซื้อที่มีอัตรากำไรต่ำจาก Delta Taiwan ในขณะที่ 1Q19 จะยังคงต้องเจอกับปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบบางตัวของสินค้า hi-end สำหรับประเด็นการทำ Tender offer นั้น Delta Taiwan ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน US และ EU แล้ว เหลือการดำเนินการขอในประเทศจีน ซึ่งคาดจะแล้วเสร็ขก่อน AGM ของ DELTA ในวันที่ 2 เม.ย. เรายังมองว่าปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆทั้งด้านพื้นฐานและ Tender offer จะจำกัดการปรับตัวของราคาหุ้น เรายังคงคำแนะนำ ถือ จากอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ราว 4% 
 
Thai Market Strategy: Accounting for changes
          เรามีการวิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางบัญชีต่องบการเงินของแต่ละบริษัทใน 2 ประเด็นที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2019 
          1) ประเด็นจากการที่ สนช. เห็นชอบแก้กฎหมายแรงาน เพิ่มค่าชดเชยเลิกจ้างนาน 400 วัน (จาก 300 วัน) สำหรับพนักงานที่มีอายุงานเกิน 20 ปีขึ้นไป (คาดจะมีผลบังคับใช้ภายใน 1Q19)  ซึ่งคาดว่าจะกระทบต่อกำไรของกลุ่มธนาคารราว 3-7% และกลุ่มอื่นๆราว 1-3%  (โดยรวม 2%) โดยบริษัทจะต้องมีการบันทึกค่าใช้จ่ายก้อนนี้ครั้งเดียวใน 4Q18/1Q19  
          2) TFRS 15 เรื่องประเด็นการรับรู้รายได้และต้นทุน ซึ่งโดยรวมเราประเมินว่าจะกระทบต่อกำไรเพียง 0-1% ยกเว้นกลุ่มการบินที่ 3% 
          3) มาตรฐานบัญชีที่จะใช้ในปี 2020  ที่คาดจะส่งผลกระทบคือ 1) TFRS16 เรื่องการเปลี่ยนการบันทึก Operating lease เป็น financial lease ซึ่งจะกระทบต่อ D/E (การเช่าเครื่องบินของกลุ่มสายการบิน/การเช่าที่ดินของกลุ่ม Commerce) และ 2) TFRS9 ซึ่งจะกระทบต่อกลุ่มการเงิน แต่เนื่องจากมีการเลื่อนการใช้ออกมาทำให้แต่ละบริษัทมีการเตรียมตัวเพื่อรองรับอยู่แล้ว  
 
SIRI: In the doldrums  
          เราเข้าร่วมงานแถลงแผนธุรกิจปี 2019 เรามองว่าเป็นกลยุทธ์ที่ถูกต้องแล้ว ที่ชะลอการเปิดตัวโครงการและตั้งเปาหมายธุรกิจแบบอนุรักษ์นิยมในปีนี้ อย่างไรก็ตามเรามองว่าบริษัทพร้อมกลับมาลุยอีกครั้งหากมั่นใจ demand-supply หลังเลือกตั้งในช่วง 2H19  ตลาดน่าจะเห็นด้วยกับแผนดังกล่าว กอปรกับราคาหุ้นที่ลงมาลึกมากในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาทำให้ราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับมูลค่าต่ำมากแล้ว ทำให้ราคาหุ้นน่าจะยืนได้ในระยะสั้น แต่เรามองว่าก็ยากที่จะ rebound ในระยะสั้น เนื่องจาก SIRI ดูด้อยกว่าคู่แข่งในกลุ่ม เรื่องสถานะทางการเงินที่มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนสุทธิสูงที่สุดในกลุ่มคือเกิน 1 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 0.7เท่า เราจึงคงคำแนะนำ ถือ  
 
IVL การเข้าซื้อธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในประเทศไนจีเรีย 
          IVL ประกาศการเข้าซื้อกิจการบรรจุภัณฑ์ในไนจีเรียซึ่งมีกำลังการผลิต 18,000 ตันต่อปี และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1Q19 โดยกำลังการผลิตส่วนเพิ่ม 6.9% และ 0.3% ของกำลังการผลิต PET Packaging และ PET โดยรวมของบริษัทตามลำดับ และคาดว่าจะสร้างกำไรให้บริษัทประมาณ 90-100 ล้านบาทต่อปี (0.3% อัพไซด์จากประมาณการปัจจุบัน) และ 0.10 บาทต่อหุ้นสำหรับราคาเปาหมาย เราเชื่อว่ายังคงมีอัพไซด์ต่อแนวโน้มการเติบโตและประมาณการกำไรในระยะยาวจากการซื้อกิจการเพิ่มเติมในอนาคต เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2019 ที่ 80 บาท
 
หุ้นมีข่าว  
          (+) นักลงทุนสถาบัน ลุ้น "เอ็มเอสซีไอ" ไฟเขียวนำ "เอ็นวีดีอาร์" เข้าคำนวณ ชี้หนุนน้ำหนักหุ้นไทยในกลุ่มตลาดเกิดใหม่เพิ่มแตะ 3% ดึงดูดเงินทุนต่างชาติไหลเข้า "บลจ.บัวหลวง" ประเมินมีโอกาสที่เงินนอกไหลเข้าราว 6.4 หมื่นล้าน (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) 
          (+) MVP  คาดว่าผลประกอบการปีนี้จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายจากการตั้งสำรองคดีความฟองร้องลูกค้าในโครงการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือพิเศษที่บันทึกไปแล้วในปี 61 จำนวน 104 ล้านบาท ขณะเดียวกันคาดสัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจากธุรกิจโมบายและเทคโนโลยี 60% และธุรกิจท่องเที่ยวและกีฬา 40% แผนงานในปีนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นธุรกิจจัดอีเว้นท์ โดยเฉพาะอีเว้นท์หลัก คือ งานมหกรรมโทรศัพท์มือถือ และงานอื่นๆ มากขึ้น โดยจะเห็นได้จากไตรมาส 1/62 บริษัทเริ่มต้นด้วยการจัดงาน Thailand Mobile Expo 2019 ครั้งที่ 32 ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 7-10 ก.พ.62 ซึ่งย้ายมาที่ไบเทคบางนา จากเดิมจัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตย์ ทำให้มีพื้นที่ให้เช่าเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้น จะจัดงานวิ่งอีก 2 แห่ง คือ ที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และ จ.ตาก รวมถึงงานกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ (E-sport) อีก 1 งาน ทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/62 น่าจะดีกว่าไตรมาส 1/61 (ที่มา ASPEN)  
          (+) BTS  RATCH  STEC   รฟท.ยันยังไม่ตัดสิทธิ BSR ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน รอเจรจา"กลุ่มซีพี" อีกรอบ 12 ก.พ.นี้ (ที่มา ASPEN) 
          (+) DTAC-MVP-FORTH  จับมือสร้างแพลตฟอร์มรองรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟาเปิดบริการ พ.ค.นี้ดันไทยเป็นฮับ EV Value Chain (ที่มา ASPEN) 
 
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
 
Trend Forecasting 
 
SET Index ปิด 1653.11 (-0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท  
 
แนวโน้มระยะสั้นมอง
          SET Index แนวรับ 1,645 แนวต้าน 1,665 / SET100 รับ 2,415 ต้าน 2,435 BSET100 รับ 10.48 ต้าน 10.56 / BMSCITH รับ 12.45 ต้าน 12.53 
 
Topic: "ตลาดส่งสัญญาณปรับฐานขณะที่บาทเริ่มอ่อน" 
 
มุมมองตลาด: 
          ดัชนีไม่ผ่านแนวต้าน 1660 จุด เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (200-days EMA) พร้อมกับ RSI>70 บ่งชี้ภาวะตลาดเข้าสู่จุดซื้อมากเกินไป ขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มดีดกลับหรืออ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ จากเหตุผลดังกล่าวเราคาดว่าดัชนีจะปรับฐานลงไม่ลึก ไม่หลุดแนวรับ 1630-1640 จุด หรือลงมาปิดช่องว่าง Gap เมื่อต้นสัปดาห์ นอกจากนี้จะส่งผลให้เครื่องมือวัดโมเมนตัมลดดีกรีความร้อนแรงลง ท้ายที่สุดแล้วดัชนียังมีโอกาสฟืนตัวกลับขึ้นไปได้อีกครั้ง 
 
กลยุทธ์:
          เราคาดว่ายังอยู่ในรอบขาขึ้น Bull market และยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ดีอีกครั้ง หากไม่มีปัจจัยลบที่มีนัยสำคัญ ดัชนีตลาดโดยรวมยังมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นไปได้
 
วิธีการเลือกหุ้น: 
          กรณีตลาดพักตัวจะเลือกหุ้นอย่างไร 1. หุ้นที่มีสัญญาณแข็งแกร่ง จะมีโอกาสสร้างกำไรได้ดีกว่า 2. ราคาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5&25-days EMA 3. RSI ไม่ควรสูงกว่า 70 4. Stop loss หากไม่เป็นไปตามคาด 
 
Technical screen Bull Signal: 
          KTC,FN,MTC   
 
Technical  screen Bear Signal: 
          CPALL, BDMS, BH, TU, STEC  (break down 5-days EMA) 
 
Port หุ้นคงเหลือ: 
          SAMART, KKP, MBK, GLOBAL, PSL, ESSO, BCH, MTC, VGI (แนะนำถือต่อ) 
 
          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค 
          [email protected] +662-618-1334 
 
Track with Technical 
 
          KTC 
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 30.00 
          แนวต้าน 35.00 
          เหตุผล ปิดทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 5&25-days EMA พร้อมกับ RSI บ่งชี้ความแข็งแกร่งบ่งชี้สัญญาณกลับตัว 
 
          FN 
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 1.48 
          แนวต้าน 1.80/2.00 
          เหตุผล ปิดทดสอบจุดต้านเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง 50-days EMA หนุนด้วยวอลุ่มหนาแน่น กรณีทะลุผ่านจะบ่งชี้การเปลี่ยนรูปแบบขาขึ้น 
 
          MTC 
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 48.00 
          แนวต้าน 54.00 
          เหตุผล MTC ยืนยันการเปลี่ยนโครงสร้างภายหลังจากการปิดเหนือแนวต้านสำคัญ 48 หนุนด้วย RSI แสดงความแข็งแกร่งด้านราคา  

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!