WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม 
 
Banks outperform: "BBL is the leader..."
          เมื่อวานดัชนีฯหุ้นไทย อาศัยแรงดันหุ้นใหญ่อย่าง SCB KBANK SCC บวกกับหุ้นโรงไฟฟาที่ งบ 1Q19 จะได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่า (GULF BGRIM EGCO ตามที่เราคาดไว้ในรายงาน Weekly) หนุน ดัชนีฯ ปิดบวก แต่ยังไม่ผ่าน 1,660 จุด   
          ตลาดยังเป็นไปอย่างที่เราประเมิน คือ 1) ยังมีหุ้นบูลชิพใหญ่ อีกหลายตัว ที่ราคาหุ้นยังไม่ตึงตัวเกินไปในทางเทคนิค (ยังขึนต่อไหว) บวกกับ Valuation ในหุ้นเหล่านี้ก็ยังไม่แพงจนเกินไป 2) หุ้นรายตัวเล่นได้ตามปัจจัยหนุน...และเราคงคาดดัชนีฯจะผ่านแนวต้านจิตวิทยา สำคัญ 1,660 จุด ได้ในเร็ววันนี้       
          วันนี้คาด ดัชนีฯหุ้นไทย ย่อสลับรีบาวด์ รอเบรก แนวต้าน 1660 จุด ส่วนกลยุทธ์ แนะนำ เลือกหุ้นลงทุนรายตัว ต่อไป  
          ส่วนสัปดาห์นี้ ดัชนีฯ ย่อสลับรีบาวด์ กรอบ 1,636-1,660/1,670 จุด ตามคาด    
 
What to watch: 
          (+) กลุ่มแบงก์ ช่วงครึ่งหลังเดือน กพ.จะเป็นช่วงที่ บอร์ดฯแบงก์จัดประชุม เพื่ออนุมัติงบการเงินรายปี และ การประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล เช่น SCB KBANK BBL KKP ปีที่แล้ว แจ้งมติบอร์ดเรื่องปันผล 22 กพ., KTB 2 มีค., TISCO 26 กพ., BAY 28 กพ. เป็นต้น / คาดการประกาศปันผลรอบนี้ จะหนุนราคาหุ้นให้ขึ้นได้ดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้ว โดนปัจจัยลบ ทั้งเรื่องการตั้งสำรองเพิ่มตามมาตรฐาน บช.ใหม่, การยกเว้นค่าธรรมเนียมธุรกรรม อิเล็กทรอนิกส์ แต่ปีนี้ไม่มี...ข่าวลบแบบปีที่แล้ว
          (+/-) สัปดาห์ หน้า MSCI จะประกาศผล ทบทวน ดัชนีฯรอบใหม่ / คาดหุ้นที่เพิ่ง add อาจมีน้ำหนักเพิ่ม เช่น MTC GULF 
          (*/+) เมื่อวาน มติ กนง.4 ต่อ 2 ให้คงดอกเบี้ย 1.75% โดยมี 2 เสียง เห็นว่าควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เพื่อ ระวังผลกระทบ ของการประเมินความเสี่ยงต่ำเกินจริงเมื่อดอกเบี้ยปรับขึ้นช้าเกินไป และเพื่อให้มี ช่องทางการใช้นโยบายการเงิน ในการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับอนาคตหากเกิดการชะลอตัวเกินกว่าคาด  
          เราเห็นว่ามติครั้งนี้จะส่งผลบวก ต่อกลุ่มสถาบันการเงิน ทั้ง แบงก์ และ ไฟแนนซ์ ด้วยการเปิดช่องให้ขึ้นดอกเบี้ย แก่สถาบันการเงิน อิงจากมุมมอง ความต้องการคุมความเสี่ยง ของการประเมินดอกเบี้ยต่ำนานเกินไป จะมีผลต่อการก่อหนี้ ขณะที่ต้นทุนดอกเบี้ย จะสามารถคงต่อไปได้ เมื่อดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้ไม่ขึ้น ดอกเบี้ยรับมีโอกาสเพิ่ม-ดอกเบี้ยจ่ายคงที่ 
 
หุ้นแนะนำ  
          BBL  Consensus เริ่มกลับมาแนะนำซื้อ BBL ตามหลังเรา...เราคาดว่าราคาหุ้นจะยังคง Outperform ต่อ โดยเมื่อวาน BBL จัดงานให้ข้อมูล นลท.ผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์ (Luncheon) ด้วยประเด็นที่น่าสนใจลงทุน ดังนี้                      
          1) เป้าสินเชื่อ, เปาหมายส่วนต่างดอกเบี้ย ที่ให้ไว้สามารถทำตามเปาได้ทุกครั้ง ทำให้ไม่มีความเสี่ยงของการปรับกำไรลง  
          2) กรณีที่รายได้ค่าธรรมเนียมของอุตสาหกรรมอยู่ในแนวโน้มขาลงจากสัดส่วนรายได้เกือบ 50% (เฉลี่ย) มีความเสี่ยงต่อการปรับกำไรหุ้นแบงก์อืนลง แต่ BBL ไม่มีความเสี่ยงนี้เพราะสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมอยู่ใน Range 25-35% ที่สมเหตุสมผลมาโดยตลอด และรายได้หลักมาจาก การขยายตัวของสินเชื่อ  
          3) การเติบโตของสินเชื่อหลังจากนี้ ยิ่งน่าสนใจ เมื่อธนาคาร ยังคงเน้นที่ การปล่อยสินเชื่อ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และ ขยายสินเชื่อตามการขยายตัวของความเป็นเมือง หรือ Urbanization ซึ่งจะหนุนโดย จำนวนสาขาทั่วประเทศราว 846 สาขา ที่มีความพร้อมที่สุดในการให้บริการลูกค้าทั้งประเทศ 
          BBL TISCO KKP SCB KBANK ซื้อดักการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล บวกกับมุมมองของ กนง.เมื่อวานนี้ เรามองเป็นบวกต่อกลุ่มสถาบันการเงิน 
          INTUCH  ดูรายงานวันนี้ (Dividend plays plus share price premium recovery) 
 
รายงานวันนี้   
 
ANAN: Laggard play 
          เราคาดหุ้นจะรีบาวน์ในระยะสั้น เพราะความเป็น Laggard play สำหรับพื้นฐาน เราคาดกำไรปี 2019 จะโตใกล้เคียงกับกลุ่ม (แทบจะไม่โต) แต่ valuation ปัจจุบันนั้นถูก เพราะเทรดต่ำ book value ถึง 26% และ PE ต่ำเพียง 4.8 เท่า แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 4.5 บาท 
 
Utilities: Play on gas, not solar 
          เราแนะนำให้ซื้อโรงไฟฟาแก๊ส และขายโซล่าร์ เพราะโรงไฟฟาแก๊ส (IPP และ SPP) จะได้ประโยชน์จาก PDP ใหม่ การประมูล 700MW 2 แห่ง จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นกลุ่ม IPP (EGCO GULF) และสำหรับกลุ่ม SPP (BGRIM) ประเด็นการอนุมัติ SPP replacement scheme จะทำให้เกิดการปรับราคาเปาหมายขึ้น อย่างไรก็ดีกลุ่มโซล่าร์ (BCPG) คาดกำไรจะลดลงหลังจากที่ adder หมดในปี 2020 สำหรับคาดการณ์กำไร ดูได้จากตารางด้านล่างนี้ 
 
BANK: Key takeaways from BBL Luncheon 
          เราจัดงาน Luncheon ให้กับนักลงทุนในประเทศ โดยมีผู้บริหาร BBL ร่วมให้ข้อมูล ในปี 2019  BBL ให้แนวทางเปาหมายธุรกิจที่เป็นบวก โดยที่ตั้งเปาสินเชื่อโต 4-6% (ปีที่แล้วโตแค่ 4%) และ NIM ดีกว่าที่เราคาดเล็กน้อยที่ 2.4% ธนาคารคาดแบงค์ชาติจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกในปีนี้ (หรือแย่สุดก็ขึ้นแค่ 0.25%) คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่จะยังคงตั้งสำรองเยอะอยู่ และให้แนวทางการเติบโตในอนาคตว่า 1) ไป CLMV 2) ใช้ฐานลูกค้า เพื่อขยายการเติบโตในต่างจังหวัด 3) เพิ่มศักยภาพ digital banking โดยตั้งงบลงทุน 4-6 พันล้านบาท ในปีนี้ เราแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 
 
Media: Leaders in 4Q18--OOH & Cinema
          เราคาดว่าผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มสื่อจะฟนตัว YoY ใน 4Q18 จากฐานที่ต่ำใน 4Q17 (พระราชพิธี) แต่สำหรับการเติบโต QoQ เราคาดว่าจะมีเพียง 4 บริษัทที่รายงานกำไรเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ใน 4Q18 นำโดย PLANB, VGI, MAJOR และ RS สำหรับไตรมาส 1 ปกติจะเป็น Low season ของธุรกิจสื่อ อีกทั้งในช่วงเดือนแรกของปีผู้ใช้งบยังคงรอความชัดเจนของการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามหลังมีการประกาศวันเลือกตั้งออกมาชัดเจนในช่วงปลายเดือน ม.ค. เราเริ่มเห็นผู้ใช้งบกลับมาใช้งบกันมากขึ้น เรายังมองว่ากลุ่ม OOH จะยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่องโดยเฉพาะ PLANB (มีการเลือกตั้ง BNK48 หนุน) และ VGI (กำไรจาก Kerry) และยังชอบ VGI และ PLANB มากที่สุดในกลุ่ม  
 
ECONOMICS: The Bank of Thailand kept the policy rate unchanged as expected, however with votes spilt 4-2            
          วานนี้ที่ประชุม กนง. มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ด้วยคะแนนเสียง 4:2 มุมมองของเรายังมองว่าจะไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยไปตลอดทั้งปีจากความไม่แน่นอนของภาพเศรษฐกิจโลก, พื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศไทย, FED ที่มีมุมมอง Dovish มากขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่า อย่างไรก็ตามคะแนนเสียงที่แตกออกมา 2 เสียงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต 
 
หุ้นมีข่าว 
          (0) PTT BCP  ข่าวมาตรการรัฐฯ สั่ง ปั๊ม ปตท. บางจาก ลดราคาขายน้ำมันดีเซล พรีเมียมลง 1-2 บาท ต่อลิตร ช่วง 6-28 กพ. ซึ่งเป็นน้ำมันดีเซลเกรด ยูโร 5 เพื่อลดปัญหา ฝุน PM2.5 / คาดผลกระทบระยะสั้นน้อยมากและไม่มีนัยยะ ต่องบ 1Q19 เพราะ สัดส่วนในการขายน้ำมันเกรดพรีเมียมน้อยเมื่อเทียบกับยอดขายรวม เช่น ปตท.ขายน้ำมันรวม 6.3 พันล้านลิตร แต่ดีเซลพรีเมียม น้อยกว่า 1% ของยอดขาย แต่ในระยะยาว คาด ปตท.และบางจาก จะเพิ่มสัดส่วนขายน้ำมัน พรีเมียม ทั้ง เบนซิน และดีเซล ซึ่งจะหนุนมาร์จิ้น ในระยะยาว  
          (+) SF  เมกาบางนา ทุ่ม 1.6 พันล้าน เสริมแกร่ง 'เอ็ดดูเทนเม้นท์' เมกาบางนาเสริมทัพแม่เหล็กใหม่สานแผนทรานส์ฟอร์มสู่ "เมกาซิตี้" ทุ่ม 1.6 พันล้าน ปัน "เอ็ดดูเทนเม้นท์" ชู ฮาร์เบอร์แลนด์-มูฟเม้นท์เพลย์กราวด์ -เมกาสมาร์ทคิดส์โฉมใหม่  เพิ่ม 50 แบรนด์ใหม่ หวังลูกค้าพุ่ง 10% (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ) 
          (0) TMB  "อภิศักดิ์"ยันหนุน ควบแบงก์เต็มที่  แต่ยังไม่ตัดสินใจเพิ่มทุนใน "ทีเอ็มบี"  ชี้ศึกษารอบคอบ คำนึงผลประโยชน์ ผู้ถือหุ้น ระบุไม่จำเป็นต้องรักษาสัดส่วนหุ้น ในแบงก์ใหม่ ส่งผลบิ๊กดีลส่อยืดเยื้อ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)  
                        
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
 
Trend Forecasting 
 
SET Index ปิด 1658.71 (+0.34%)  มูลค่าการซื้อขาย 3.8 หมื่นล้านบาท 
 
แนวโน้มระยะสั้นมอง          
          SET Index แนวรับ 1,650 แนวต้าน 1,665 / SET100 รับ 2,425 ต้าน 2,445 BSET100 รับ 10.53 ต้าน 10.60 / BMSCITH รับ 12.50 ต้าน 12.6 0 
 
Topic: "North Asia and Southeast Asia set to outperform" 
 
มุมมองตลาด: 
          นับตั้งแต่เปิดตลาดปี 2019 ตลาดหุ้นเอเชียเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ไต้หวัน เกาหลี ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 7% เปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นไทยขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 1665 จุด (200-days EMA) เรายังคาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวทะลุผ่านเนื่องจากเหตผล:  
          1. การฟนตัวของตลาดหุ้นโลกบ่งชี้กระแสเงินลงทุนไหลกลับ 
          2. หุ้นขนาดใหญ่ SET50 & SET 100 มองสัญญาณดีดกลับจากภาวะ Oversold เกิดขึ้นในภาพรายสัปดาห์และเดือน 
          3. โมเมนตัมของตลาดที่ขึ้นมารอบนี้ หากพิจารณาจากเครื่องมือทางเทคนิคปรับตัวขึ้นไปในทิศทางเดียวกัน 
          4. ปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจในประเทศฟนตัว กำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตและการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น 
          5. สัดส่วนการถือครองหุ้นของต่างชาติลดลงมาอยู่ในระดับต่ำปัจจุบันเริ่มซื้อกลับ 
 
กลยุทธ์: 
          เราคาดว่ายังอยู่ในรอบขาขึ้น Bull market และยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ดีอีกครั้ง หากไม่มีปัจจัยลบที่มีนัยสำคัญ ดัชนีตลาดโดยรวมยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทะลุ 1660 จุด มองแนวต้านถัดไป 1680-1700 จุด 
 
วิธีการเลือกหุ้น: 
          1. วอลุ่มสูงมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2. ราคาปิดฟนตัวจากแนวรับหรือการเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้น 3. หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI ฟนตัว 4. สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic ,MACD ,Moving average 
 
Technical screen Bull Signal: 
          BCH,MTC,VGI  (Laggard play) 
 
Port หุ้นคงเหลือ: 
          SAMART, AAV, KKP, MBK, BLA, CENTEL, GLOBAL, PSL, ESSO (แนะนำถือต่อ) 
          
          ธนรัตน์ อิศรกุล 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค 
          [email protected] 
          +662-618-1334 
 
Track with Technical 
 
          BCH
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 16.60 
          แนวต้าน 18.50-19.00 
          เหตุผล ปิดทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 25-days EMA พร้อมกับ DI+ บ่งชี้สัญญาณกลับตัว 
 
          MTC 
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 48.00 
          แนวต้าน 53.50-55.00 
          เหตุผล โครงสร้างระยะกลางบ่งชี้สัญญาณกลับตัวยืนยันค่า RSI แสดงความแข็งแกร่งด้านราคา 
 
          VGI           
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 7.80 
          แนวต้าน 8.50 
          เหตุผล ปิดบวกทดสอบกรอบบนสามเกลี่ยมขาขึ้น Systematical triangle หนุนด้วยวอลุ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ย บ่งชี้สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!