WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSSบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings and Domestic Plays//Short-Term Sell into Strength
          ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ยังคงสามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ต่อเนื่องนำโดยกลุ่มธนาคาร แต่เริ่มเห็นแรงขายออกมาในช่วงท้ายตลาดและทำให้ดัชนีปิดบวกแคบลงเหลือ 5.62 จุดโดยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นเป็น 3.85 หมื่นลบ. อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศยังซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 1.6 พันลบ.และ 1.4 พันลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติ Long ใน Index Futures สูงถึง 1.9 หมื่นสัญญา)      
          แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways โดยปัจจัยสำคัญต้องติดตามคือการเจรจา Brexit ระหว่างอังกฤษและ EU ในวันนี้ ขณะที่การประกาศผลประกอบการ 4Q18 ของบริษัทจดทะเบียนจะทยอยออกมาหนาแน่นมากขึ้น อย่างไรก็ตามเราเริ่มมองกรอบการบวกของ SET เริ่มจำกัดหลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นเกือบ 100 จุดหรือราว 5% ในช่วงไม่ถึง 1 เดือนที่ผ่านมาซึ่งค่อนข้างเร็ว จึงคาดว่าระยะสั้นอาจมีแรงขายออกมากดดันบ้าง  อย่างไรก็ตามเรายังมองบวกในระยะกลาง-ยาวจากอานิสงส์ของการเลือกตั้งรวมถึงกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า
          กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดผลประกอบการ 4Q18 แข็งแกร่ง//ทำกำไรระยะสั้นบางส่วนในช่วงตลาดปรับขึ้น
          หุ้นเด่นเดือน ก.พ : EA, ERW, GLOBAL, SAPPE, SEAFCO
          Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$80ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไทย US$52ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่ยังเบาบางเพราะหลายตลาดยังปิดทำการเนื่องในเทศกาลปีใหม่จีน
 
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> PLANB <<
          - แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 8.20 บาท (ตัดขาดทุน 6.10 บาท)
          - คาดกำไร 4Q18 ทำจุดสูงสุดของปีที่ 183 ลบ. +3% Q-Q, +107% Y-Y เพราะฐานที่ต่ำใน 4Q17 และตลาดสื่อนอกบ้านที่โตต่อเนื่อง รวมถึงการขยายพื้นที่สื่อและใช้สื่อได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนกำไรทั้งปี 2018 คาด +35% Y-Y เป็น 623 ลบ. และคาด +22% Y-Y อยู่ที่ 758 ลบ. ในปี 2019
          - ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง และระยะยาวจะได้แรงหนุนจากการทำสื่อในรถไฟฟ้าของ BEM 
          - NVDR ซื้อสะสมในช่วงหุ้นตกมา 8 สัปดาห์ติดต่อกัน และราคา Underperform VGI ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา 6.5%
 
ประเด็นสำคัญวันนี้
          (+) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยของเดือน ม.ค. 19 อยู่ที่ 80.7 จาก 79.4 ใน ธ.ค. 18 จากความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง ราคาสินค้าเกษตรและการบริโภคที่ค่อยๆฟื้น รวมถึงภาคท่องเที่ยวที่ดีขึ้นจากการกลับมาของคนจีน เป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก (CPALL ROBINS BJC GLOBAL) อสังหาฯ (QH SPALI) และท่องเที่ยว (MINT ERW) 
          (0) กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย ที่ 1.75% ด้วยมติ 4:2 โดย 2 เสี่ยงที่มองว่าควรขึ้น 0.25% เป็น 2.00% เพื่อให้มีช่องว่างในการปรับลงหากจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต ส่วนประเด็นค่าเงินบาทแข็ง มองว่าไม่ได้แข็งค่าหรือผันผวนกว่าภูมิภาค แต่จะติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้กระทบผู้ส่งออก ซึ่งการยังไม่มีมาตรการดูแลในอนาคตอันใกล้ ทำให้เงินบาทยังแกว่งออกข้างเชิงแข็งค่า ที่น่าสนใจคือ กนง. เป็นห่วงสินเชื่อรถยนต์ที่เร่งตัวเร็ว จากเดิมที่กังวลสินเชื่ออสังหาอยู่แล้ว เป็นลบกับกลุ่มสินเชื่อรถยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ที่อาจมีมาตรการควบคุมตามมาในอนาคต
          (+) BBL แจ้งเป้าทางการเงินปี 2019 เป็นบวกกว่าที่เราคาด โดยเฉพาะ NIM ที่มีเป้าหมายว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 2.33% เราจึงมีแนวโน้มปรับเพิ่ม NIM ขึ้นเป็น 2.38-2.40%จากคาดการณ์เดิมคาด 2.34% เนื่องจากเราคาดว่ามุมมองด้าน Cost of fund ของธนาคารน่าจะดีขึ้น ส่วนประมาณการด้านอื่น ค่อนข้างใกล้เคียงกับที่เราคาด BBL น่าจะเป็นธนาคารขนาดใหญ่ธนาคารเดียวที่จะเห็น Net fee income ปรับขึ้น (เป้าหมายคือราว 5%) จากการเป็นพันธมิตรด้านขายประกันกับ AIA ทั้งนี้เราจะ Update ข้อมูลอีกครั้งจาก Analyst meeting วันนี้ คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 245 บาท
          (+) BEM แจ้งกำหนดประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 18 มี.ค. 2019 ขออนุมัติยุติข้อพิพาทกับกทพ. มูลค่า 1.37 แสนลบ. แลกกับการขยายสัมปทานทางด่วน 3 สัญญา (ขั้นที่ 2, ขั้นที่ 2 ส่วน D และบางปะอิน-ปากเกร็ด) ไปจบปี 2057 เพื่อเป็นการดำเนินการต่อได้ทันทีหากครม.เห็นชอบ ถือเป็น Sentiment บวกในวันนี้ ส่วนรายละเอียดของข้อสรุปที่ชัดเจน คาดทราบภายหลังเสนอครม. ภายใน 1Q19
          (0) ANAN ตั้งเป้ายอดขาย 3.6 หมื่นลบ. (+14% Y-Y) ผ่านการเปิดตัวใหม่ 10 โครงการ มูลค่า 3.8 หมื่นลบ. (+42% Y-Y) แบ่งเป็นคอนโด 8 แห่ง และแนวราบ 2 แห่ง โดยหันมาเปิด Segment Mid-to-Upper End จากปีก่อนที่เปิด Mid-End เพื่อเลี่ยงหนี้ครัวเรือนบางกลุ่มที่อยู่ระดับสูง ส่วนการเข้าซื้อหุ้น DTC เพื่อลงทุนระยะยาวและสร้าง Recurring Income จะแถลงข่าวสิ้นเดือนนี้ เราแนะซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสม 4.90 บ. อิง PER 7.7 เท่า ราคาหุ้นเทรดบน PE2019 เพียง 6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 10 เท่า และกลุ่มที่ 9 เท่า 
          (+) FPI ประกาศซื้อหุ้นคืน 40 ล้านหุ้น หรือ 2.64% ของหุ้นที่ชำระแล้ว วงเงินไม่เกิน 150 ลบ. คิดเป็นราคาสูงสุดที่ซื้อได้ 3.75 บาท/หุ้น โดยใช้วิธีซื้อในกระดานตั้งแต่ 22 ก.พ. - 21 ส.ค. 19 ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อราคหุ้น แต่ไม่ได้มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อปัจจัยพื้นฐาน เพราะจำนวนหุ้นที่ซื้อค่อนข้างน้อย แอุตสาหกรรมยานยนต์เรามองว่าจะทรงตัวหรือชะลอลงในปีนี้ แนะนำเพียงเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น 
 
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
7 ก.พ.    - ไทย: ผลประกอบการ ADVANC
          - อังกฤษ: ประชุม BOE
8 ก.พ.    - ไทย: ผลประกอบการ INTUCH, THCOM
11 ก.พ.   - สหรัฐฯ: 4Q18 GDP, อัตราเงินเฟ้อ PCE
14 ก.พ.   - จีน: ดุลการค้า (ม.ค.)
 
          (-) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง จากการแถลงนโยบายประจำปีของปธ.ทรัมป์ที่ไม่มีความชัดเจน ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
          (-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง หลังตัวเลขยอดสั่งซื้อภาคการผลิตในเยอรมันอ่อนตัวลงมากกว่าที่ตลาดคาด
          (0) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมผสาน แม้ตัวเลขเศรษฐกิจในยุโรปจะชะลอตัวลง แต่ได้ข่าวดีเรื่องการพบกันระหว่างสหรัฐ-เกาหลีเหนือในรอบที่ 2 เข้ามาหักล้าง
          (-) ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
          (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น +0.35 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 54.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสต็อคน้ำมันสหรัฐลดลงมากกว่าคาดจากปัญหาความหนาวในหลายๆรัฐ
          (-) ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง -4.80 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1314.40 ดอลลาร์/ออนซ์
 
          Contact person : Jitra  Amornthum  
          Register : 014530
          Tel: 02-646-9966
          www.fnsyrus.com
          FB: Finansia Syrus Research

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!