- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 06 February 2019 16:55
- Hits: 3621
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Daily Strategy
" ซิกแซกขาขึ้น "
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้แกว่งตัวแคบปิดลบเล็กน้อย -0.53 จุด (-0.03%) ปิดที่ 1,653 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 2.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน นอกจากนี้ยังถูกแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนและสหรัฐที่ชะลอตัว ประกอบกับเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีนส่งผลให้ภาวะตลาดส่วนใหญ่เป็นแรงเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง - เล็ก สำหรับนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 363 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,643 ล้านบาท แต่ Net Short TFEX 711 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: คาด SET Index แกว่งตัว 1,645 - 1,660 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะยังคงได้ sentiment เชิงบวกจากความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน รวมถึง FED ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตามระยะสั้นราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงจากความกังวล Demand การใช้น้ำมันหลังภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมถึงคาดว่านลท.จะชะลอการลงทุนเพื่อติดตามแถลงนโยบายประจำปีของปธน.ทรัมป์ในช่วงเช้าวันนี้ รวมถึงสัญญาณเตือนทางเทคนิคที่เข้าเขต Overbought ที่จะกดดันให้ดัชนีมีความผันผวนสูง สำหรับการประชุมกนง.ในช่วงบ่ายวันนี้คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.75% ซึ่งมองเป็นกลางสำหรับทิศทางการลงทุน
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy
- กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ได้ประโยชน์เม็ดเงินที่จะสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
- STEC, AMATA, WHA, BEM ได้ประโยชน์ภาวะการเมืองปลดล็อคและวันเลือกตั้งที่ชัดเจน
- กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19 และคาดจำนวน นทท.จีนขยายตัวขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน
- กลุ่มที่คาดว่ากำไร 4Q18 และปี 2019 เติบโตต่อเนื่อง SAWAD, MTC, IHL, EA, GFPT และ TU
หุ้นแนะนำวันนี้:ERW (ปิด 7.6 ซื้อ/เป้า 8.2) รับผลบวกภาครัฐขยายเวลาฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ไปถึงเดือน เม.ย. หนุนนักท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ด้านผลประกอบการคาดกำไร 4Q18 ฟื้นตัวเด่นจาก high season และแนวโน้ม 1Q19 คาดกำไรโตต่อเนื่องจากการที่โรงแรม JW Marriott กลับมาดำเนินการปกติจากที่ปิด Renovate ไปในช่วงปีที่ผ่านมา, BIG (ปิด 1.43 ซื้อเก็งกำไร/เป้า Consensus 1.95) คาดกำไรสุทธิ 144 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 52%qoq และคาดประกาศจ่ายปันผลสำหรับรอบปี 2018 ประมาณ 0.09 บาทต่อหุ้น ให้ Dividend yield ประมาณ 6.3%, STA (ปิด 16.3 ซื้อ/เป้า 22) ราคาหุ้น STA ยังมี discount จากหุ้นถุงมือในภูมิภาคอยู่ถึง 30% และราคาปัจจุบันไม่ได้สะท้อนมูลค่าของธุรกิจยางธรรมชาติเลย
Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : MTC (ปิด 48 ซื้อ/เป้าใหม่ 56 จาก 58), Refinery sector (Top pick : TOP และ SPRC)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(+) ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 172 จุด ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ตลาดยังตอบรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ : ดัชนีดาวโจนส์ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องวานนี้เพิ่มขึ้นอีก 172 จุด (+0.68%) ปิดที่ 25,412 จุด เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ส่งผลให้ YTD ปรับตัวขึ้น 8.9% นักลงทุนยังตอบรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน โดยผลสำรวจข้อมูลของรีฟินิทีฟระบุว่า 71% ของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี S&P500 มีผลการดำเนินงาน 4Q18 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงต่ำกว่าระดับ 55$/bbl อีกครั้ง จากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นและคาดการณ์สต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอีก 3.7 ล้านบาร์เรล : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 90 เซนต์ (-1.7%) ปิด 53.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นมากถึง 3.7 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 สู่ระดับ 96.06 เทียบกับ 4 วันก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 95.91
(+/-) เช้านี้ติดตามปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงนโยบายประจำปีต่อสภาคองเกรส คาดมี 2 ประเด็นน่าสนใจคือ 1) ความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา และ 2) แผนงานในอีก 2 ปีที่เหลือของการดำรงตำแหน่ง : โดยตลาดคาดว่า ทรัมป์ จะเน้นในหลักวิสัยทัศน์ 5 ข้อ คือ 1 )มีระบบการตรวจคนเข้าเมืองที่ปลอดภัยและถูกกฎหมาย, 2) ปกป้องแรงงานสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการทำข้อตกลงการค้าที่ไม่เป็นธรรม, 3) เร่งก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน, 4) ปรับลดราคายา และ 5) ปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐ นอกจากนี้ติดตามปธน.ทรัมป์จะใช้เวทีนี้ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติสำหรับจัดสรรงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกหรือไม่
(+/-) วันนี้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.75% ตามเดิม และติดตามประมาณการณ์ GDP ปีนี้ : คงมุมมองเดิม คาดแบงก์ชาติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% ตามเดิม โดยมีแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำ 0.27% ในเดือน ม.ค. ต่ำสุดในรอบ 18 เดือน ค่าเงินบาทแข็งค่าสู่ระดับ 31.24 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่ามากสุดในภูมิภาคเป็นอุปสรรคต่อภาคส่งออก นอกจากนี้ติดตามรายงานการประชุมรวมถึงการคาดการณ์ GDP ในปีนี้ว่าจะมีการเปลี่ยนมุมมองหรือไม่
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี